สตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือน ถอดกางเกงชายหนุ่ม ในสายตาคนนอกพวกเขาจะคิดเช่นไร?
หน้าด้าน? ยินยอม?
เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ นางรู้แค่ว่าหากนางอาศัยอยู่ในโลกนี้ เป็นไปไม่ได้ที่นางจะเพิกเฉยต่อจริยธรรมและแนวคิดของโลกนี้อย่างแท้จริง เช่นเดียวกับที่ เสด็จอาเก้ากล่าว นางไม่สนใจ แต่หวังจิ่นหานจะไม่สนใจด้วยหรือไม่?
แต่ทุกคนสามารถกล่าวได้ว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นคนผิด สามารถกล่าวหาถึงความผิดพลาดของเฟิ่งชิงเฉินได้ แต่เสด็จอาเก้าทำไม่ได้
เสด็จอาเก้าเป็นคนที่เข้าใจนางมากที่สุดในโลกนี้ และเขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่นางเต็มใจเปิดใจยอมรับ เมื่อเผชิญกับข้อกล่าวหาของเสด็จอาเก้า นางจึงรู้สึกเจ็บปวด หัวใจของนางเจ็บปวดอย่างยากบรรยาย นางไม่อยากเห็นเสด็จอาเก้าอีกสักวินาทีเดียว นับประสาอะไรกับความคิดริเริ่มที่จะคุยกับเสด็จอาเก้า
นางไม่ได้โกรธ ไม่ได้โมโห เพียงแค่อึดอัดใจ ด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรมแบบนี้ นางจึงไม่สามารถขอให้เสด็จอาเก้ายอมรับนางได้ แต่นางก็ไม่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง เพื่อให้เข้ากับสมัยนี้ได้อย่างสมบูรณ์
เฟิ่งชิงเฉินไม่ยอมเปิดปาก เสด็จอาเก้าเองก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใด เขานั่งๆ ยืนๆ ภายในนห้องเงียบจนน่าขนลุก แม้แต่เสียงหายใจก็ได้ยินชัดเจน
ในตอนแรกเสด็จอาเก้าแสร้งทำเป็นเหลือบมองเฟิ่งชิงเฉินโดยไม่ตั้งใจ โดยคิดว่าสายตาของคนทั้งสองจะสบกันและทำลายความเงียบของห้อง แต่เฟิ่งชิงเฉินไม่เคยมองเขา เฟิ่งชิงเฉินเป็นเหมือนราวกับท่อนไม้ ที่ยอมมองไปทางกำแพงแต่ไม่ยอมมองเขา
เสด็จอาเก้าจ้องมองที่เฟิ่งชิงเฉิน โดยบอกเฟิ่งชิงเฉินด้วยสายตาของเขาว่าเขากำลังรอให้เฟิ่งชิงเฉินกล่าวออกมาเพื่อทำลายทางตันระหว่างทั้งสอง
ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเสด็จอาเก้าหรือเฟิ่งชิงเฉินที่กำลังโกรธ คนที่ริเริ่มที่จะทำลายบรรยากาศเช่นนี้คือเฟิ่งชิงเฉิน ในการรับรู้ของเฟิ่งชิงเฉินสงครามเย็นเป็นสิ่งที่สะเทือนอารมณ์ที่สุด แต่คราวนี้เฟิ่งชิงเฉินต้องการทำสงครามเย็น บางทีหลังจากช่วงเวลาที่สงบนิ่ง ทั้งคู่อาจจะเข้าใจสิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างแท้จริง
ครั้งนี้เฟิ่งชิงเฉินตัดสินใจที่จะไม่เอ่ยปาก เสด็จอาเก้าเคยชินกับการนิ่งเงียบ แต่ความเงียบระหว่างทั้งสองคนในวันนี้ทำให้ทั้งสองรู้สึกหดหู่ใจ เสด็จอาเก้ากระแอมอยู่สองสามครั้งและเริ่มกล่าวว่า "ผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อโลหิตจะเลือกใหม่ในปีหน้า ลั่วอ๋องจะถูกปลดและกักบริเวณ”
เขากำลังบอกเฟิ่งชิงเฉินว่าตงหลิงจื่อลั่วได้รับการลงโทษแล้ว แต่สำหรับองค์ชาย การถูกลงโทษเช่นนี้หมายความว่าเขาจะไม่อาจมีส่วนร่วมในอำนาจแล้ว
“......” เป็นไปตามที่คาดไว้ เฟิ่งชิงเฉินไม่มีอะไรต้องดีใจ นางไม่อยากแม้แต่จะมองเสด็จอาเก้า
พฤติกรรมขององค์รัชทายาทเช่นนี้ ทำให้เห็นชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ตงหลิงจื่อลั่วมีความสุข และด้วยความช่วยเหลือของนาง คงเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นสำหรับตงหลิงจื่อลั่วที่จะล้มลง แต่องค์ชายก็คือองค์ชาย หากต้องการผลักตงหลิงจื่อลั่วลงดิน เว้นแต่จักรพรรดิแห่งตงหลิงเท่านั้นที่จะทำได้ มิฉะนั้น เพื่อเห็นแก่หน้าของราชวงศ์ จักรพรรดิจะไม่ปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับตงหลิงจื่อลั่วแน่
“หวังจิ่นหลิงฟื้นแล้ว วันนี้เขาจะกลับไปที่ตระกูลหวัง” เสด็จอาเก้าดูสงบนิ่ง แต่หากดูดีๆ อาจเห็นว่ามีร่องรอยของความคาดหวังในดวงตาของเขา รอคอยการตอบสนองของเฟิ่งชิงเฉิน
น่าเสียดายที่เฟิ่งชิงเฉินไม่สนใจเรื่องของตงหลิงจื่อลั่ว และไม่สนใจเรื่องราวของตระกูลหวังนาง พยักหน้าเพียงเพื่อแสดงว่านางได้ยินแล้ว
เสด็จอาเก้าระงับความผิดหวังในใจลงแล้วกล่าวต่อไปว่า "องค์รัชทายาทก็ถูกลงโทษเช่นกันกักบริเวณเช่นกัน งานเลี้ยงปีใหม่ในคืนนี้ รัชทายาทจะเข้าร่วมงานนี้ ลั่วอ๋องไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากมีอาการป่วย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...