ทั้งสองสนทนากันตลอดทาง เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ถามเสด็จอาเก้าอีก ว่าเขาจะพานางไปดูละครที่ไหน จนกระทั่งรถม้าหยุดลง เฟิ่งชิงเฉินจึงนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้
“นี่เจ้าจะพาข้าไปไหน?”
“เจ้ามาถามเอาบัดนี้ ไม่คิดว่ามันสายไปหรือ?” เสด็จอาเก้ายังคงกล่าวประโยคเดิม เขาลูบศีรษะเฟิ่งชิงเฉินและส่งสัญญาณให้นางลงจากรถ
เฟิ่งชิงเฉินงอแง นางนอนบนตักของเสด็จอาเก้าไม่ยอมขยับ "หากเจ่ไม่บอกข้า ข้าจะไม่ลุก"
“หากเจ้าต้องการ เจ้าจะนอนเช่นนี้ก็ได้ หากเราอยู่ในรถม้าก็จะปลอดภัย มีทหารยามอยู่ข้างนอกคอยเฝ้า" เสด็จอาเก้ายืดขาของเขาและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่รอยยิ้มในดวงตาดูทรยศต่อเขา
กลางดึกกลางดื่นเช่นนี้ ชายหนุ่มหญิงสาวนั่งอยู่ในรถม้า แม้ว่าพวกเขาจะไม่ส่งเสียงดังใดๆ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนคิดถึงฉากที่อยู่ด้านใน เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าเสด็จอาเก้าจะกล่าวสิ่งใด แต่ในวันนี้นางเพิ่งรู้ว่าเสด็จอาเก้าแย่แค่ไหน
ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจเกินไปแล้ว
เฟิ่งชิงเฉินยอมรับว่านางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเสด็จอาเก้า นางลุกขึ้นด้วยความโกรธ "หากเจ้าไม่พูดก็อย่าพูด อย่างไรเสียก็ถึงแล้ว"
เฟิ่งชิงเฉินหันกลับมาหยิกน่องของเสด็จอาเก้าอย่างแรง แล้วกระโดดลงจากรถม้าด้วยความรวดเร็ว สบตากับทหารยาม หูของทหารยามเปลี่ยนไปเป็นสีแดง เขาหดศีรษะลงอย่างรวดเร็ว ไม่กล้ามองเฟิ่งชิงเฉิน
มีอะไรผิดปกติไป?
เฟิ่งชิงเฉินงุนงง จากนั้นจึงก้มลงดูเครื่องแต่งกายของนาง พบว่าเสื้อผ้าที่หน้าอกของนางยับยู่ยี่......
ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินเปลี่ยนไปทันที นางหันกลับมาอย่างรวดเร็วและหันหลังเพื่อจัดเสื้อผ้า
น่าอายเหลือเกิน!
ใบหน้าของสตรีผู้สูงศักดิ์ ถูกเสด็จอาเก้าย่ำยีหายไปอย่างสิ้นเชิง
"ข้าแค่อยากจะเตือนเจ้า แต่คิดไม่ถึงว่าเจ้าเคลื่อนไหวเร็วเช่นนี้" เสด็จอาเก้าก้าวออกจากรถม้า จัดแจงเสื้อผ้าของเขาเรียบแล้ว มีรอยยิ้มจางๆ ในดวงตาของเขาปรากฏขึ้น
การได้อยู่กับเฟิ่งชิงเฉิน แม้ว่าจะเป็นการทะเลาะกันแต่เขาก็มีความสุข ในที่สุดวันข้ามปีก็ดูน่าสนใจเล็กน้อย
“ชั่วร้าย” เฟิ่งชิงเฉินกลอกตามองเขา
หากไม่ใช่เพราะเสด็จอาเก้าครอบครองที่นั่งส่วนใหญ่ นางจึงนอนทับร่างของเสด็จอาเก้าทำให้เสื้อผ้าของนางยับมิใช่หรือ?
“เจ้าอารมณ์ร้อนยิ่งนัก ควรปรับเปลี่ยน” เสด็จอาเก้าลงจากรถม้า ดึงเฟิ่งชิงเฉินมาข้างหน้า ยื่นมือออกไปเพื่อจัดเสื้อผ้าและทรงผมของเฟิ่งชิงเฉินให้เรียบร้อย ในขณะเดียวกันก็กวาดตาไปบริเวณโดยรอบอย่างเย็นชา สายตาของเขาทำให้ทุกคนตกใจจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง เขาจึงรู้สึกพอใจ
คนขับรถม้าอยู่ใกล้เสด็จอาเก้ามากที่สุด เขาได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ทำได้เพียงพยายามย่อตัวลงเพื่อหลบหลีก ทว่ากำลังร้องไห้อยู่ในใจ โอ้สวรรค์ ข้าเห็นอะไรกัน นี่คือเสด็จอาเก้าของพวกเขาจริงหรือ? เสด็จอาเก้าผู้โดดเดี่ยวกลายเป็นชายหนุ่มผู้เอาใจใส่คนอื่นได้อย่างไร
เสด็จอาเก้าจัดการเสื้อผ้าของเฟิ่งชิงเฉินและจับมือของนาง ส่งสัญญาณให้ทหารยามไม่ต้องติดตามไป
เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าเสด็จอาเก้าจะไม่พูดอะไรอย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงไม่เอ่ยถาม นางเดินตามไปข้างหลังอย่างเชื่อฟัง อย่างไรก็ตาม เสด็จอาเก้าจะไม่นำนางไปขายแน่
“ถึงแล้ว”
เสด็จอาเก้าหยุดอยู่ในตรอกมืด เฟิ่งชิงเฉินไม่เห็นความวุ่นวายใดปรากฏ ขณะที่กำลังจะกล่าวบางอย่าง นางก็รู้สึกมีใครจับเอวไว้แล้วพาทะยายขึ้นฟ้า
โชคดีที่เฟิ่งชิงเฉินค่อนข้างระมัดระวัง รู้ว่าตนไม่ควรส่งเสียงออกไปในเวลานี้ เพื่อไม่ให้ใครถูกพบเข้า นางรีบยื่นมือปิดปากของตน ท่าทางน่ารักนี้ทำให้หัวใจของเสด็จอาเก้าเต้นแรง โน้มตัวไปจูบแก้มนางเบาๆ
“อย่ากลัวไปเลย หากมีข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าประสบอุบัติเหตุใดๆ”
“เช่นนั้นคงแปลก มีเจ้าอยู่สิจึงน่ากลัว แน่นอนว่าเจ้าจะไม่ปล่อยให้ข้าประสบอุบัติเหตุใด แต่หากเกิดอุบัติเหตุกับเจ้า เจ้าจะไม่ปล่อยข้าไปหรอก” เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้จริงจังร้ายแรง จึงได้กระซิบกับเขาว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...