สรุปเนื้อหา บทที่ 889 หวังจิ่นหลิงผู้สง่างาม – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บท บทที่ 889 หวังจิ่นหลิงผู้สง่างาม ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
"ตูม ตูม"
ประตูจวนของศาบบรรพบุรุษของตระกูลหวังนั้นแข็งแกร่งก็จริง แต่มันก็ไม่อาจต้านทานแรงโน้มถ่วงได้ ทั้งบิดา ลุงและญาติคนอื่นของหวังจิ่นหลิงทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างหมดหนทาง เมื่อประตูบ้านของตระกูลหวังถูกทุบทำลาย
ด้วยเสียงดังโครมคราม จากนั้นประตูอันทรงเกียรติของตระกูลหวังซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะสูงส่งนี้ได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ภายใต้แรงกระแทกซ้ำๆ......
สาระเลว!
อาวุธที่ใช้ทำลายประตูเมืองนั้นนำมาฟาดไปที่ประตูจวนของตระกูลหวัง ไอ้สารเลวนี่คิดว่าตระกูลหวังเป็นตระกูลเล็ก ๆ ที่ใครก็กล้าทำลายได้งั้นหรือ?
ลุงของหวังจิ่นหลิงเป็นคนแรกที่ได้สติ เขากล่าวหาอย่างโกรธเคืองว่า "ไอ้สารเลวคนไหนที่กล้าใช้อาวุธทหารเป็นการส่วนตัวโจมตีประตูตระกูลหวังของข้า"
“เจ้ากล้าหาญนัก กล้าที่จะพุ่งชนตระกูลหวังของข้า เจ้าอยากตายงั้นหรือ” หวังเหริน หวังจื้อและหวังซ่านได้สติกลับคืนมาเช่นกัน ใบหน้าเหี่ยวย่นของพวกเขาแดงก่ำจนเป็นสีม่วง
นี่มันช่างทำร้ายจิตใจตระกูลหวังกันเหลือเกิน
บิดาและปู่แปดของหวังจิ่นหลิง ตลอดจนผู้อาวุโสที่เป็นกลางบางคนไม่ได้กล่าวสิ่งใด ได้แต่มองออกไปนอกประตูเพื่อรอให้คนผู้นั้นปรากฏตัว
ผุ้กล้าที่จะทำลายประตูจวนของตระกูลหวัง พวกเขาพยายามกลั่นกรองอยู่ในใจ มีเพียงคนเดียวที่กล้าชนประตูตระกูลหวัง เช่นนี้ในตงหลิง นั่นคือจักรพรรดิ
แต่จักรพรรดิได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการช่วยลุงเล็กเพื่อขึ้นครองตระกูลหวัง ดังนั้นลุงหวังจะกลัวคนที่มาพังประตูจวนของตระกูลหวังได้อย่างไร?
สมาชิกในตระกูลหวังต่างพากันมองหน้าไปมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ภายใต้คำสั่งของลุงหวัง บ่าวรับใช้ที่เขายืมมาจึงไม่ได้ทำร้ายคนในตระกูลหวังอีก
เมื่อทุกคนกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูแปลกหน้า สมาชิกตระกูลหวังก็ได้เห็นรถม้าปรากฏขึ้นจากมุมมืดแห่งหนึ่ง
ใช่แล้ว รถม้า......
ผู้ที่เข้าทุบประตูค่อยๆ ถอยออกไปทีละคนเพื่อหลีกทางให้แก่รถม้า มันยังไม่หยุดจนกระทั่งมาถึงประตูด้านในของจวนหวัง
ใครกันหยิ่งยโสมาก ไม่เพียงบุกชนประตูตระกูลหวังเท่านั้น แต่ยังจอดรถม้าไว้ที่หน้าประตูด้านในของตระกูลหวังด้วย ต้องรู้ก่อนว่าว่านี่คือสิทธิพิเศษของหัวหน้าตระกูลหวัง
คนฉลาดย่อมเดาได้ แต่พวกเขาไม่กล้าเชื่อนัก เพราะหากเป็นเขา เหตุใดจึงสั่งให้คนทุบประตูจวนเข้ามาเช่นนี้ มิได้เป็นการตบหน้าตนเองหรือ?
รถม้าหยุดลง คนในตระกูลหวังไม่กล้ากะพริบตา พวกเขาจ้องมองไปที่รถม้าเพื่อรอให้คนที่อยู่บนรถม้าลงจากรถ
ม่านของรถม้าถูกเปิดขึ้น คนในรถม้าก็ไม่ได้ปล่อยให้ทั้งหลายรอนาน เขาผู้นั้นสวมรองเท้าบู้ทสีดำขอบทอง และสวมเสื้อสีน้ำเงินเข้ม เขาดูสง่างามและกลายเป็นจุดสนใจของฝูงชนทันทีที่พวกเขาลงจากรถม้า ซึ่งทำให้ทั้งตระกูลหวังตกตะลึงอ้าปากค้าง
"หัวหน้าตระกูล?"
"หัวหน้าตระกูล!"
ครั้งแรกเป็นเสียงเรียกอันน่าสงสัย มาจากกลุ่มของลุงหวังและหวังซ่าน ส่วนการเรียกอันน่าประหลาดใจอย่างหลัง มากจากบิดาของหวังจิ่นหลิงและพรรคพวกของเขา
ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า หวังจิ่นหลิงไม่สนใจคนเหล่านี้ เขาก้าวเข้าสู่ตระกูลหวังอย่างสง่างาม "ท่านปู่และท่านลุง จิ่นหลิงมาสาย โปรดยกโทษให้ข้าด้วย"
หวังเหรินก้มหน้าลงกล่าวขอโทษหวังจิ่นหลิง ความเย่อหยิ่งและความกล้าหาญของพวกเขาล้วนเป็นแพราะคิดว่าหวังจิ่นหลิงเสียชีวิตแล้ว
"ท่านปู่เหรินไม่ได้เลอะเลือน หากเลอะเลือนไปเขาจะยังสามารถเดินทางมาที่ศาลบรรพบุรุษได้หรือ จิ่นหลิงจำได้ว่าเคยกล่าวไว้ ท่านปู่ทั้งสามและลูกหลานของพวกท่านไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในศาลบรรพบุรุษของตระกูลหวัง ท่านปู่และบุตรหลานของท่านยังเข้ามา ท่านไม่รู้ผลของการฝ่าฝืนคำสั่งของหัวหน้าตระกูลหรือ?”
คำพูดของหวังจิ่นหลิงไม่มีร่องรอยของความโกรธใด แต่ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องเหงื่อตก หากพวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกตระกูลหวังอย่างภาคภูมิ คนกลุ่มนี้คงจะคุกเข่าลงและร้องขอความเมตตาไปแล้ว
ละเมิดคำสั่งของหัวหน้ารตระกูล ถูกขับไล่ออกจากตระกูลหวัง คนรุ่นหลังจะไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นคนของตระกูลหวังและไม่สามารถก้าวเข้าสู่ตระกูลหวังได้อีก
หัวหน้าตระกูลหวังมีอำนาจมาก ก่อนหน้านี้ยังมีผู้อาวุโสสองสามคนที่กล้าคัดค้าน นับแต่หวังจิ่นหลิงเข้ามารับหน้าที่ ผุ้อาวุโสทั้งหลายก็ดูเกรงกลัว ไม่กล้าต่อสู้กับหวังจิ่นหลิง ด้วยกลัวว่าจะถูกหวังจิ่นหลิงจัดการแล้วต้องอับอายไปทั้งตระกูล
ในเวลานี้เมื่อหวังจิ่นหลิงต้องการจัดการกับพวกเขา ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาช่วย เพราะหากพวกเขาถูกขับไล่ออกจากตระกูลหวัง หากไม่มีตระกูลหวังก็ไม่อาจมีที่พึ่งใดๆ คนธรรมดานั้นยังมีที่นาให้ทำกิน แต่พวกเขาไม่มีสิ่งใดเลย
ทำอย่างไร ทำอย่างไรดี?
หวังซ่าน หวังเหรินและหวังจื้อมองกันด้วยสายตาอย่างลนลาน ให้อีกฝ่ายหาทางออก แต่ในขณะนี้พวกเขาสามารถคิดวิธีแก้ปัญหาใดได้เล่า? พวกเขาไม่เคยคิดว่าหวังจิ่นหลิงจะมีชีวิตกลับมาอีกครั้ง
หวังจิ่นหลิงไม่รีบร้อนเช่นกัน เขาจิบชาสบายๆ เหลือบมองทั้งสามคนเป็นครั้งคราว เมื่อทั้งสามคนตอบ ผุ้อาวุโสที่นั่งบนที่นั่งหลักก็ส่งยิ้มเห็นด้วย
คุณชายใหญ่ของตระกูลหวังเก่งกาจมากจริง หลังจากครึ่งปีของการทำงานหนัก ความอ่อนเยาว์ในร่างกายของเขาก็หายไป ถูกแทนที่ด้วยความเป็นผู้ใหญ่มั่นคง ด้วยท่าทางและทักษะในปัจจุบันของจิ่นหลิง ตระกูลหวังจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ตระกูลหวังไม่ต้องการผู้นำที่อ่อนแอ พวกเขาต้องการผู้นำที่แข็งแกร่ง ซึ่งจิ่นหลิงทำได้ดี......
เมื่อเห็นว่าหวังจิ่นหลิงปราบปรามทุกคนในตระกูลหวังได้ด้วยคำพูดไม่กี่คำ เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินก็มองหน้ากันแล้วยิ้ม ตัวตนของหวังจิ่นหลิงมีความสำคัญอย่างแน่นอน แต่รังสีที่เขาแผ่ออกมาตอนเข้าประตูนั้นก็สำคัญ
หวังจิ่นหลิงคงเป็นคนแรกที่พังประตูของจวนหวัง เขามีความกล้าหาญจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...