นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 902

ตระกูลซูไม่มีอำนาจหรือทรัพยากรมากมายถึงเพียงนั้น ดังนั้นการคาดเดาของตี๋ตงหมิงจึงไม่สมเหตุสมผล

หวังจิ่นหลิงยังดี เขาแค่ยิ้มและเก็บสายตาของเขา ส่วนเฟิ่งชิงเฉิน นางไม่เกรงใจ โต้กลับคำพูดของตี๋ตงหมิงไปโดยตรง

“ท่านซื่อจื่อ การคาดเดาของท่านมิสมเหตุสมผล จริงอยู่ที่ตระกูลซูมีโอกาสในการสังหาร แต่ตระกูลซูมิมีอำนาจมากพอที่จะทำเช่นนั้น พวกเขามิอาจสังหารเจ้าเมืองเย่เฉิงรวมถึงทหารองครักษ์รอบตัวเขาในดินแดนตงหลิงได้ในพริบตา และหนีหายไปอย่างรวดเร็ว

ต้องรู้ก่อนว่า เจ้าเมืองเย่เฉิงนั้นก็มิธรรมดา และเหล่าทหารของตงหลิงเองก็มิธรรมดาเช่นกัน ต่อให้ตระกูลซูสามารถสังหารพวกของเจ้าเมืองเย่เฉิงได้ แต่พวกเขาก็มิมีทางหลุดพ้นไปจากการไล่ล่าของเหล่าทหารตงหลิงได้ การที่ตระกูลซูคิดจะลอบสังหารเจ้าเมืองเย่เฉิง นั่นถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง หากมิมีความจำเป็นอันยิ่งใหญ่ ตระกูลซูมิมีทางทำเรื่องเช่นนั้นแน่นอน

เนื่องจากหากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ตระกูลซูจะต้องเผชิญหน้ากับกองทหารม้าของเมืองเย่เฉิง มิใช่เรื่องจากเลยที่จะจัดการตระกูลซูกองทหารม้าแห่งเมืองเย่เฉิง และตระกูลซูจะต้องพบกับหายนะอันยิ่งใหญ่

และยังมีอีกเรื่องหนึ่ง จริงอยู่ที่ฮูหยินของเจ้าเมืองเย่เฉิงเป็นคนของตระกูลซู แต่เมืองเย่เฉิงมิใช่เมืองที่ตระกูลซูจะสามารถควบคุมได้ สำหรับตระกูลซูแล้ว ราชวงศ์หนานหลิงและตระกูลเย่เป็นที่พึ่งของตระกูลซู ตระกูลซูจะยอมแตกหักกับที่พึ่งพิงอย่างเมืองเย่เฉิงได้อย่างไร

หากเย่เย่ได้แต่งงานกับซูหว่านคงจะดี หรือไม่ก็หากใบหน้าของซูหว่านยังมิเสียโฉมก็คงจะดีกว่านี้ แต่ด้วยสถานการณ์ในเวลานี้ เรื่องของเย่เย่กับซูหว่านคงมิมีทางเป็นไปได้ เจ้าเมืองเย่เฉิงเสียชีวิต เพื่อความมั่นคงของเมืองเย่เฉิง เย่เย่จำเป็นจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงของตระกูลอันยิ่งใหญ่เพื่อสยบความวุ่นวายภายในของเมืองเย่เฉิง และเมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลซูจะไร้ประโยชน์”

การแต่งงานเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการเชื่อมสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูล เมืองเย่เฉิงมีคนของตระกูลซูอยู่แล้ว เพื่อผลประโยชน์ ตระกูลซูจึงอยากให้ความช่วยเหลือเย่เย่ แต่เย่เย่ไม่ต้องการแต่งงานกับซูหว่านเพื่อแลกกับความช่วยเหลือของตระกูลซู

เพื่อปกป้องเมืองเย่เฉิง เย่เย่จำเป็นจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงในตระกูลใหญ่ตระกูลอื่น แต่ผู้ลงมือสังหารเจ้าเมืองเย่เฉิง ไม่มีทางเป็นตระกูลซูแห่งหนานหลิงอย่างแน่นอน

หวังจิ่นหลิงเองก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ การสังหารเจ้าเมืองเย่เฉิงสำหรับตระกูลซูแล้ว มูลค่าของมันสูงมาก แต่ผลประโยชน์ที่ได้รับมีเพียงเล็กน้อย เรื่องที่เสียมากกว่าได้เช่นนี้ ปกติไม่ค่อยมีใครทำกัน

“มิใช่ตระกูลซู เช่นนั้นจะเป็นผู้ใด? เวลานี้ใครที่อยากสังหารเจ้าเมืองเย่เฉิง คนผู้นั้นมีจุดประสงค์อันใด?” ตี๋ตงหมิงหันมาทางหวังจิ่นหลิงและเฟิ่งชิงเฉิน หวังว่าทั้งสองจะมอบคำตอบให้แก่เขา

“ข้าจะรู้ได้อย่างไร” เฟิ่งชิงเฉินไม่คิดจะตอบคำถามนี้ตั้งแต่แรก แต่แววตาของตี๋ตงหมิงร้อนเป็นไฟ ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากออกมา

มือสังหารเป็นใคร เรื่องนี้นางเองก็ไม่รู้ แต่จุดประสงค์ของมันนั้นชัดเจน มันก็เหมือนกับที่หวังจิ่นหลิงกล่าวไว้ คือต้องการโยนความผิดให้กับนางและเสด็จอาเก้า ก่อไฟแห่งความแค้นระหว่างพวกเขาทั้งสองกับเมืองเย่เฉิง

“เจ้ามิรู้ เช่นนั้นเจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่ามือสังหารมิได้มาจากตระกูลซู เวลานี้มิว่าใครก็มีโอกาสเป็นผู้ลงมือทั้งนั้น” ตี๋ตงหมิงกล่าวออกมาด้วยอารมณ์ เขายังคงคิดว่ามือสังหารจะต้องเป็นคนของตระกูลซู

“ตระกูลซูมิมีความสามารถเช่นนั้นอยู่ในครอบครอง” สามารถสังหารผู้คนภายนอกเมืองจักรพรรดิแห่งตงหลิงได้ และยังรอดพ้นจากการไล่ล่าของทหาร คนผู้นั้นจะต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่

“งั้นเจ้าก็บอกข้ามาว่ามือสังหารเป็นผู้ใด? หรือแท้จริงแล้วมือสังหารจะเป็นเจ้า?” ตี๋ตงหมิงโกรธมาก ซักถามอยู่นานแต่กลับไม่ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์แต่อย่างใด วกไปวนมา สุดท้ายกลับมาตกอยู่ที่เฟิ่งชิงเฉิน

“หากข้ามีความสามารถเช่นนั้นอยู่ ข้าคงสังหารเย่เย่ไปด้วยแล้ว” เฟิ่งชิงเฉินเองก็ตอบกลับไปด้วยอารมณ์

“เรื่องนี้มันก็จริง เช่นนั้นจะเป็นผู้ใด ผู้ใดที่ต้องการลงมือกับเจ้าเมืองเย่เฉิง และยังเลือกลงมือในดินแดนของตงหลิง การกระทำเช่นนี้มิต่างอะไรกับการตบหน้าแผ่นดินตงหลิง” ตี๋ตงหมิงพึมพำออกมา เฟิ่งชิงเฉินและหวังจิ่นหลิงไม่ได้พูดอะไร

ในตอนที่พวกเขาสองเห็นโจ่วอัน ท่าทางของเขาดูผิดปกติไปเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ทำได้แค่เพียงเก็บไว้ในใจ......

ความเงียบเข้ามาปกคลุม หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง หวังจิ่นหลิงถึงจะกล่าวออกมาว่า “ชิงเฉิน เรื่องนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เจ้ารักษาตัวให้ดี ข้าขอตัวกลับไปยังตระกูลหวังก่อน ข้าจะให้คนตรวจสอบว่าช่วงนี้มียอดฝีมือผู้ใดปรากฏตัวออกมาบ้าง”

สามารถสังหารเจ้าเมืองเย่เฉิงและเหล่าองครักษ์ได้อย่างรวดเร็ว จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เฟิ่งชิงเฉินพูดถูก ตระกูลซูแห่งหนานหลิงไม่มีความสามารถเช่นนั้นอยู่ และผู้ที่มีความสามารถดังกล่าวอยู่ก็มีเพียงไม่กี่คน......

“ตกลง หากได้ข่าวให้ติดต่อข้าทันที” สิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังรออยู่ก็คือคำพูดนี้

นั่งอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่ได้อะไร ไม่สู้ส่งคนออกไปตรวจสอบจะดีกว่า แม้สถานที่เกิดเหตุจะถูกทำลายไปแล้ว แต่การหาข้อมูลที่จำเป็น มันก็ยังพอมีความเป็นไปได้อยู่ อีกฝ่ายลงมือตอนที่อยู่ห่างจากเมืองจักรพรรดิประมาณสิบลี้ เช่นนั้นคนผู้นั้นก็ยังน่าจะอยู่ไม่ไกลจากเมืองจักรพรรดิ

หวังจิ่นหลิงพยักหน้า จากนั้นก็เดินไปหาตี๋ตงหมิงเพื่อพาเขากลับไปด้วย ป้องกันไม่ให้เด็กคนนี้สร้างความวุ่นวายให้กับเฟิ่งชิงเฉิน

ทันทีที่หวังจิ่นหลิงจากไป เฟิ่งชิงเฉินก็เรียกทงจือและทงเหยาเข้ามา สั่งให้พวกนางทั้งสองส่งคนไปตรวจสอบว่าช่างนี้เย่เย่ติดต่อกับใครบ้าง และช่วงนี้เจ้าเมืองเย่เฉิงทำอะไรมาบ้าง

เป้าหมายของมือมืดที่อยู่เบื้องหลังคือการโยนความผิดให้กับนางและเสด็จอาเก้า จากการคำนวณแล้ว ผู้ที่น่าเป็นไปได้มีเพียงไม่กี่คน

ทงจือและทงเหยารู้ว่าเรื่องนี้นั้นรุนแรงเพียงใด ทั้งสองถอยกลับไปด้วยใบหน้าอันเคร่งขรึม และเริ่มรวบรวมข้อมูลในช่วงเวลาที่ผ่านมา

หลังจากเฟิ่งชิงเฉินออกคำสั่งออกไปแล้ว นางก็เดินไปหาโจ่วอัน เนื่องจากความสงสัย เช่นนั้นก็จำเป็นต้องทำให้ความสงสัยกระจ่าง หากกำจัดไม่ได้ก็แค่แยกตัวเขาออกไป

ใช้โอกาสตอนที่ตงหลิงจื่อลั่วทำลายจวนเฟิ่ง เฟิ่งชิงเฉินจึงสร้างห้องสำหรับประดิษฐ์ผลงานให้กับโจ่วอันไว้โดยเฉพาะ ดังนั้นเฟิ่งชิงเฉินจึงพาโจ่วอันเดินดูความเรียบร้อยของห้องดังกล่าว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ