นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 901

เจ้าทุกข์กล่าวว่าไม่ต้องการจับตัวอีกฝ่าย ตี๋ตงหมิงจะทำเช่นไรได้ ทำได้เพียงบอกให้เยี่ยนอี้เฟยพาคนของเย่เย่กลับไปยังเมืองเย่เฉิงด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง

เห็นความเย่อหยิ่งเหล่าองครักษ์แห่งเมืองเย่เฉิง ตี๋ตงหมิงรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก ทันใดที่คนของเมืองเย่เฉิงเดินจากไป ตี๋ตงหมิงก็ไม่เกรงใจ ชี้หน้าของเฟิ่งชิงเฉินพร้อมกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจว่า “เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร ข้ามาที่นี่เพื่อให้การสนับสนุนเจ้า ข้ายังมิกลัวว่าจะเกิดเรื่องอันใดขึ้น แต่เจ้ากลับทำให้ข้าต้องลำบากใจ ถูกอีกฝ่ายเข้ามาบุกรังแกถึงหน้าจวน แต่เจ้ากลับแบกรับมันไว้แต่เพียงฝ่ายเดียว”

ตี๋ตงหมิงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก มีผู้แข็งแกร่งเช่นเขาคอยให้การสนับสนุน เฟิ่งชิงเฉินยังจะต้องกลัวอะไร นางสามารถจับอีกฝ่ายเข้าไปในนอนในเรือนจำได้อย่างง่ายดาย และลองมาดูกันว่าในอนาคตใครจะกล้าเข้ามาแตะต้องจวนเฟิ่งของนางอีก

“ข้ามิได้แบกรับหรืออดทนกับมันแต่อย่างใด” ต่อให้เฟิ่งชิงเฉินกลัว นางก็ไม่ได้กลัวเย่เย่ นางแค่รู้สึกว่ามันไม่จำเป็น เห็นตี๋ตงหมิงโกรธจนแทบทนไม่ไหว นางก็ทำได้แต่อธิบายออกไป

“ท่านซื่อจื่อ ท่านอย่าได้โกรธ ข้ามิได้กลัวเย่เย่ และมิได้คิดจะถูกทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว เพียงแต่ว่าต่อให้จับตัวของเย่เย่ไว้เวลานี้ สำหรับพวกเราแล้วมันก็มิมีประโยชน์แต่อย่างใด”

“เหตุใดจึงมิมีประโยชน์ จับเขาเข้าไปขังในคุกหลวง สั่งสอนให้เขาได้รับรู้ว่าที่นี่มิใช่เมืองเย่เฉิง มิใช่สถานที่ซึ่งเขาสามารถอาละวาดได้ทุกที่ เขาจะได้เลิกคิดว่าตนเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่และอยู่เหนือกฎเกณฑ์” ตี๋ตงหมิงไม่ชอบหน้าของเย่เย่มาตั้งนานแล้ว ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดี แต่กลับไม่ได้ลงมือกับเย่เย่ ทำให้ตี๋ตงหมิงรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก

“ท่านซื่อจื่อ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ความคิดของท่านมันง่ายเกินไป เจ้าเมืองเย่เฉิงเสียชีวิตภายในดินแดนของตงหลิง มิว่าจะเป็นความผิดของผู้ใด จักรพรรดิมิมีทางเอาผิดกับความขาดสติของเย่เย่ มิว่าอย่างไรจักรพรรดิก็ต้องปล่อยตัวเขาออกมา และโยนความผิดทั้งหมดให้กับพวกเรา”

บิดาของเย่เย่เสียชีวิต นางโชคร้ายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัย จักรพรรดิไม่มีทางโยนความผิดให้กับเย่เย่ และประชาชนก็ไม่มีทางโทษ พวกเขาจะพูดเพียงว่าเย่เย่เป็นคนใจดี บริสุทธิ์และกตัญญู

“แต่จะให้ปล่อยพวกเขาไปเช่นนี้ได้อย่างไร เย่เย่จองหองเกินไป ต่อให้เขาสงสัยว่าเจ้าเป็นคนลงมือสังหารบิดาของเขา เขาก็ควรจะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการ มิใช่พาองครักษ์มาบุกรุกจวนของเจ้าเช่นนี้” ตี๋ตงหมิงยังรู้สึกไม่พอใจ เย่เย่คิดว่าจวนเพิ่งเป็นอะไร คิดจะทำลายก็ทำลาย คิดจะบุกรุกก็บุกรุก คิดว่าที่แห่งนี้เป็นเมืองเย่เฉิงของเขา ที่เขาสามารถอาละวาดได้ตามต้องการอย่างนั้นหรือ

“มิปล่อยไปแล้วจะให้ทำเช่นไร บิดาของเขาเพิ่งจะเสียชีวิต ท่านจะไปจริงจังกับเขาได้อย่างไร หากต้องการจัดการกับเขาอย่างจริงจัง หากทางเรามิสูญเสียองครักษ์สักสองสามคน เช่นนั้นก็มิมีทางเรียกร้องอะไรกับอีกฝ่ายได้” เฟิ่งชิงเฉินไม่อยากเอาชีวิตของคนมาแลกกับการชำระอารมณ์ของตนเอง มันไม่คุ้มค่า

“ก็จริง ที่เจ้าพูดมันก็ถูก” ความเจ็บปวดจากการสูญเสียพฤติกรรมที่รุนแรงสามารถเข้าใจได้ทางอารมณ์และเหตุผล แต่ตี๋ตงหมิงรู้สึกหดหู่ใจและไม่สามารถตอบโต้ได้

“หากข้าต้องการจับตัวเย่เย่ไว้ หลังจากจักรพรรดิรับรู้ จักรพรรดิจะต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการปลอบโยนเย่เย่ และพวกเราจะกลายเป็นฝ่ายสูญเสีย”

“ด้วยเหตุผลดังกล่าว พวกเราจึงมิสามารถจับตัวของเย่เย่ไว้ได้ และต้องแสดงท่าทีเห็นอกเห็นใจอีกฝ่าย เย่เย่ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเราจำเป็นจะต้องเขาใจถึงเหตุผล เนื่องจากแค่เรื่องการเสียชีวิตของเจ้าเมืองเย่เฉิงอย่างก็ทำให้พวกเราปวดหัวมากพอแล้ว” เฟิ่งชิงเฉินส่งสัญญาณให้คนของจวนเฟิ่งออกไปทำความสะอาดและเก็บข้าวของด้านนอก

“ทงจือ บันทึกรายชื่อของผู้ได้รับบาดเจ็บและสิ่งของที่เสียหายของจวนเฟิ่งไว้” หลังจากตรวจสอบเรื่องราวได้ชัดเจน นางจะต้องไปคิดบัญชีกับเมืองเย่เฉิง

ทงจือและทงเหยาติดตามเฟิ่งชิงเฉินมานาน พวกนางเข้าใจความคิดของเฟิ่งชิงเฉินเป็นอย่างดี จึงตอบรับกลับมาทันใดว่า “คุณหนูวางใจ พวกข้าจะจัดการเป็นอย่างดี จะมิทำให้คุณหนูต้องผิดหวัง”

คำว่า “จัดการเป็นอย่างดี” หมายความว่ามูลค่าของทรัพย์สินจะสูงขึ้นเป็นสิบเท่า และเมื่อเวลาผ่านไปนาน สิ่งที่พวกนางบันทึกไว้ในเวลานี้ก็คือ “หลักฐาน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ