มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เสด็จอาเก้าจะลงมือกับขุนนางของเจียงหนาน
แม้ว่าสถานะของพ่อค้าจะต่ำต้อย แต่การต่อกรกับพวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พ่อค้าซึ่งประสบความสำเร็จเหล่านี้ต่างมีผู้คอยอยู่เบื้องหลัง เจ้าหน้าที่และขุนนางมากมายคอยให้การสนับสนุนพวกเขาอยู่ และการสมรู้ร่วมคิดระหว่างขุนนางกับพ่อค้ามันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถหลีกเลี่ยงได้
ซูเหวินชิงคือพ่อค้าซึ่งร่ำรวยที่สุดในตงหลิง คนที่คอยอยู่เบื้องหลังของเขาก็คือเสด็จอาเก้า ปกติแล้วก็พอจะมีเงินทองไหลมาจากทางซูเหวินชิงบ้าง แต่หากวันใดซูเหวินชิงคิดตีตัวขึ้นมาเสมอ เช่นนั้นเขาจะต้องพบกับภัยพิบัติทางการเมืองครั้งยิ่งใหญ่จากเสด็จอาเก้า เช่นเดียวกัน
หากเสด็จอาเก้าไปยุ่งกับผลประโยชน์ของขุนนางเหล่านี้ พวกเขาก็จะร่วมมือกันกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ หากเสด็จอาเก้าต้องการโจมตีเหล่าพ่อค้าในเจียงหนาน เช่นนั้นก็เท่ากับว่าเขาจะทำให้ขุนนางจำนวนมากต้องขุ่นเคือง
เฟิ่งชิงเฉินมองมายังเสด็จอาเก้าด้วยความกังวลเล็กน้อย “เจ้าจะลงไปเจียงหนานงั้นหรือ?”
“ไม่” เสด็จอาเก้ารู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินกำลังกังวลเรื่องอะไร เขารู้ดีว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่ผู้หญิงที่เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องอย่างไร้เดียงสา สิ่งเหล่านี้คือการแย่งชิงอำนาจ และนางก็สัมผัสได้ชัดเจนและลึกซึ้งกว่าผู้ชาย
“องค์รัชทายาทต้องการลงไปเจียงหนาน” เสด็จอาเก้ามีความคิดสนใจในเจียงหนานมาตั้งนานแล้ว แต่เหล่าพ่อค้าในเจียงหนานมีความแน่นแฟ้นเป็นอย่างมาก ประกอบกับมีตงหลิงจื่อลั่วและเหล่าขุนนางคอยอยู่เบื้องหลัง เสด็จอาเก้าจึงยังไม่ลงมือจนถึงทุกวันนี้
การลงมือครั้งใหญ่จะทำให้กองกำลังอันแข็งของอีกฝ่ายตอบโต้กลับคืนมา การลงมือที่เล็กเกินไปก็ไม่อาจส่งผลกระทบให้อีกฝ่ายได้ ดังนั้นจึงต้องยืดเวลาออกไปจนกระทั่งเห็นโอกาสและตัวเลือกที่ดีในวันนี้
“องค์รัชทายาทยังคิดจะสู้อีกงั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินนึกถึงใบหน้าที่ไม่สงบขององค์รัชทายาท หัวใจของนางรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย
ไม่ง่ายเลยกว่าองค์รัชทายาทจะปล่อยวางทุกอย่างลงได้ หากกลับเข้ามาในวงจรเดิมอีกครั้ง มันอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย
“นอกจากเขาจะตาย หากเขาต้องการมีชีวิตอยู่เขาก็ต้องสู้ต่อไป ไม่สู้ก็ต้องตาย” ปากของเสด็จอาเก้าพูดถึงองค์รัชทายาท แต่ในใจของเขากลับกำลังนึกถึงตัวเอง
เรื่องนี้เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจมันดี แต่นางเพียงรู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่าสำหรับองค์รัชทายาท เฟิ่งชิงเฉินรู้ดีว่าไม่สามารถยื่นมือเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ได้ นางทำได้เพียงถอนหายใจออกมาเล็กน้อย “จะทำเช่นไรได้ในเมื่อเกิดมาอยู่ภายใต้นามของราชวงศ์”
องค์รัชทายาท เสด็จอาเก้า ทั้งสองมีสถานะอันสูงส่ง ไม่สู้ก็ต้องสู้ ไม่แย่งชิงก็ต้องแย่งชิง
“ที่ใดมีคน ที่นั่นมีการต่อสู้ ตระกูลจักรพรรดิก็มีการต่อสู้ของตระกูลจักรพรรดิ คนธรรมดาก็มีปัญหาของคนธรรมดาเช่นกัน” เสด็จอาเก้าลูบศีรษะของเฟิ่งชิงเฉินและอธิบายให้นางเข้าใจ
เฟิ่งชิงเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง คิดไปคิดมาเหมือนว่าเหตุผลมันก็เป็นเช่นนั้น นางเงียบไปแต่โดยดี ไม่คิดจะพูดอะไรออกมาอีก แต่นางก็ไม่ลืมเรื่องการต่อสู้ของตระกูลหวัง การต่อสู้ของพวกเขาก็ไม่ได้ด้อยกว่าการต่อสู้ของตระกูลจักรพรรดิเลยแม้แต่น้อย เวลานี้หวังจิ่นหานยังคนนอนพักฟื้นอยู่ในจวนและยังไม่ได้กลับตระกูลหวัง
เสด็จอาเก้าเห็นท่าทางอันถ่อมตัวของเฟิ่งชิงเฉิน เขากล่าวปลอบโยน “เรื่องพวกนี้เจ้ามิจำเป็นต้องกังวล นี่คือสนามต่อสู้ของลูกผู้ชาย ผู้ชายของเจ้ามิใช่คนอ่อนแอ ต่อให้มิอาจเอาชนะได้ก็มิมีทางพ่ายแพ้จนน่าเกลียด มาพูดถึงปัจจุบันดีกว่า เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอันใดงั้นหรือ?”
เมื่อพูดถึงเรื่องอย่างเป็นทางการ เฟิ่งชิงเฉินรีบเก็บความรู้สึกและอารมณ์ของตนเองกลับไป นางรีบเล่าเรื่องที่เหล่าหมอหลวงขอร้องนางเข้ามาดูการผ่าตัดของหยุนเซียวออกไป และท้ายที่สุดนางก็กล่าวออกมาอย่างน่าสงสาร “หากพวกเขาเป็นเหมือนครั้งที่แล้ว เอาตำแหน่งมากดดันข้า ข้าคงมิมีทางยอมเป็นแน่ แค่ครั้งนี้พวกเขามาหาข้าเพื่อเจรจา พูดคุยอย่างมีเหตุผล ข้าเองก็มิรู้ว่าจะปฏิเสธพวกเขาอย่างไรดี และทักษะทางการแพทย์ก็ควรจะศึกษาและเรียนรู้ไปด้วยกันอยู่แล้ว”
“เช่นนั้นเจ้าก็ให้พวกเขาเข้ามาดู” แม้ว่าเสด็จอาเก้าจะดูยุ่ง แต่เขาก็ยังมีเวลาว่างไปสนใจเรื่องของเฟิ่งชิงเฉิน เขารู้ว่าฝู่หลินฟื้นและพ้นจากขีดอันตราย เขารู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินมีความสัมพันธ์อันดีกับหมอหลวงเหล่านั้น และก็รู้เกี่ยวกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในใจของเฟิ่งชิงเฉิน เพียงแค่เขาไม่ได้แสดงออกมาให้เห็น
“แต่......” สีหน้าของเฟิ่งชิงเฉินดูลำบากใจ “เจ้าเองก็รู้ วิธีการรักษาของข้านั้นเกินว่าจะจินตนาการ ข้ากลัวว่า......”
“กลัวสิ่งใด?” เสด็จอาเก้าขมวดคิ้ว เสด็จอาเก้าเคยเห็นวิธีการรักษาของเฟิ่งชิงเฉินตอนที่นางรักษาขาทั้งสองข้างให้กับซีหลิงเทียนอวี่ นอกจากวิธีการและอุปกรณ์อันน่าแปลกประหลาดของนางแล้ว เสด็จอาเก้าก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่รับไม่ได้
“กลัวว่าจะถูกพวกเขาเรียกว่าแม่มด กลัวว่าพวกเขาจะหาว่าข้าใช้เวทมนต์ และกลัวว่าข้าจะถูกไฟคลอกตาย” เฟิ่งชิงเฉินเล่าเรื่องความกังวลของตนเองออกมา และสุดท้ายสายตาของนางก็จับจ้องไปยังร่างของเสด็จอาเก้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...