ใช่ หากว่าเพื่อให้ซุนซือสิงหายดี เฟิ่งชิงเฉินต้องเห็นด้วยกับคำแนะนำของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี แต่นางไม่มีทางเห็นด้วย ถึงแม้ว่านางจะมีบางอย่างที่ไม่ดี ก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี แต่นางก็ยังคงปล่อยมันไป
ภายใต้อาการยกตนข่มท่านของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีแล้วนั้น เฟิ่งชิงเฉินได้เพียงแค่ถอนหายใจลึก ๆ แล้วหลับตาลง ความรู้สึกอับอายขายขี้หน้าอีกทั้งเก็บอการตำหนิตัวเองไว้อยู่ภายในใจ
เมื่อตอนที่ดวงตาลืมขึ้นมาอีกครั้ง แววตาของเฟิ่งชิงเฉินเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่น ไม่แม้แต่จะเลี่ยงทั้งสองตาของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีเลยแม้แต่น้อย แล้วจึงเอ่ยด้วยถ้อยคำเด็ดเดี่ยวว่า “ท่านปรมาจารย์แห่งหุบเขา ที่เจ้าพูดก็ไม่ผิด ข้าเองไม่ได้มีความสามารถเก่งกาจขนาดนั้น ที่จะทำให้ซือสิงได้มากมาย แต่ข้าก็จะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องเขา ”
“ท่านปรมาจารย์แห่งหุบเขา เจ้าไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะเอ่ยอะไรออกมาอีกก็ตาม ข้าก็ไม่สามารถเลิกความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์ผู้ติดตามของข้าและซือสิงได้ หากว่าท่านมาเพื่อจะพูดเรื่องนี้กับข้า ตอนนี้ข้ารับรู้แล้ว หากว่าไม่มีเรื่องอื่นใด ท่านก็ออกไปได้แล้ว หากว่าสามารถขอให้ท่านพาซือสิงมาด้วย ข้าก็มีธุระที่จะไปหาเขา ”
เฟิ่งชิงเฉินไม่อยากดูถูกตัวเองมากเกินไป แต่ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงหรือฐานะก็ตาม นางยังเทียบกับปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีไม่ได้จริง ๆ ดังนั้น......
นางจึงอยากจะลองถามความคิดของซือสิง นางไม่ได้อยากคิดไปเองว่ากำลังร่วมมือกับชีวิตของคนอื่น แม้ว่าจะเป็นการวางตัวดีก็ตาม
หากว่าซุนซือสิงเห็นด้วย นางก็จะถอยออกมาหนึ่งก้าว เพียงถอยออกมาหนึ่งก้าวเท่านั้น นางแทบจะไม่ได้สนใจชื่อเสียงของท่านอาจารย์เลยแม้แต่น้อย นางสนใจเพียงแค่อนาคตของซุนซือสิงเพียงเท่านั้น
ซุนซือสิงมีพรสวรรค์ด้านการเรียนแพทย์ แต่นางก็หวังว่าซุนซือสิงจะมีชีวิตดั่งเช่นคนธรรมดาทั่วไป ที่ไม่เหมือนกับปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีเช่นนี้ ที่เหมือนกับคนบ้าเรียนการแพทย์ ชีวิตนี้นอกจากความชำนาญในการรักษาแล้วก็ไม่มีอะไรอีกเลย
ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีเผยยิ้มออกมาอย่างแปลกประหลาด “ใครกนที่พูดว่าซือสิงมาแล้ว อย่างไรกัน? ข้าไม่ได้บอกเจ้าว่าซือสิงตั้งใจที่จะศึกษาเรื่องการแพทย์ที่หุบเขาซวนยี จนไม่มีเวลาออกไปด้านนอก ”
ไม่ได้อธิบายให้เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าเขาจะปล่อยให้หมอตัวน้อยไปอยู่ด้านนอกได้อย่างไร นั่นมันอันตรายเกินไปแล้ว
“ว่าอย่างไรรึ? เจ้าพูดว่าซือสิงไม่ได้มาที่นี่งั้นหรือ? เจ้าให้ซือสิงไปกักตัวอยู่ที่หุบเขาซวนยีแล้วหรือ? ” เพียงแค่เฟิ่งชิงเฉินได้ยินเช่นนั้นก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา ในเวลานี้นางกลับไม่สามารถเคารพความอาวุโสที่มีเกียรติได้เลย ทั้งยังชี้ไปที่จมูกของปรมาจารย์แห่งหุบเขาพร้อมกับพร่ำคำรามออกมา
“กักตัวอะไร ข้าเพียงแค่ให้พักอาศัย ข้าพาคนไปพักอยู่ที่หุบเขาซวนยี เขาพักอยู่ที่นั่นด้วยความสมัครใจ ข้าไม่ได้เคี่ยวเข็ญเขาเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่ว่าข้าคุยโวโอ้อวด ข้าเพียงเก็บรักษาเอาไว้ที่หุบเขาซวนยีเท่านั้นเอง นั่นคือจิ่วโจวแผ่นดินที่ใหญ่ที่สุด ไม่ว่าซุนซือสิงจะอยู่ที่ไหนก็ตามจะมีแต่คุณงามความดีไม่มีเรื่องเสื่อมมเสีย รอเขากลับมาจากหุบเขาซวนยี ความสามารถด้านการแพทย์ของเขาจะแข็งแกร่งกว่าเจ้า ” ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่สบายใจ เขาจึงมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้า คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะใช้การแพทย์อันเลวทรามทำให้ซือสิงอยู่ที่นั่น ท่านรู้หรือไม่ว่าวันนี้ข้าต้องการให้เขาช่วยเหลือ? ตอนนี้เจ้าจะให้ข้าไส้หัวออกไปอย่างนุ่มนวล ข้าไม่อยากเจอเจ้าแล้ว ” เฟิ่งชิงเฉินหลับตาลง ก่อนจะหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อไม่ให้ตนรู้สึกแย่ไปชั่วขณะ ในการควักปืนออกมาฆ่าคน......
ซือสิงไม่ได้กลับมา อย่างนั้นนางจะไปหาผู้ช่วยผ่าตัดจาดที่ไหน?
ไอ้คนระยำ!
เฟิ่งชิงเฉินอยากจะฆ่าคนเสียจริง และตัวการก็คือปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี และแน่นอนว่าผู้ที่ช่วยก่อกรรมทำชั่วนี้ก็คือเสด็จอาเก้า
ทางด้านเฟิ่งชิงเฉินนี้ก็โกรธจัด ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีจึงไม่กล้าที่จะทำอันใดที่เสี่ยงอันตรายสูงอย่างเด็ดขาด แล้วจึงออกไปอย่างนุ่มนวล มองเห็นเพียงเงาของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีที่หนีออกไป แม้แต่เสียงหัวเราะแค่นิดเดียวท่ามกลางความมืดมิดก็ไม่มี
มันช่างเป็นการแสดงทีดีจริง ๆ
หลังจากที่ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีสร้างความวุ่นวายให้กับเฟิ่งชิงเฉินแล้วนั้น ก็เดินตบก้นออกไป ทิ้งให้เฟิ่งชิงเฉินกลายเป็นผู้รับรู้ความรู้สึกนั้นไว้ จนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ
ฝันร้ายในยามเช้าตรู่ ทั้งยังนำพาข่าวไม่ดีมาอีก ที่ช่างเป็นพฤติกรรมที่ไม่มีความเมตตาเอาซะเลย แต่ตัวการก็ถูกนางไล่ออกไปแล้ว เหตุใดนางถึงยังเป็นเช่นนี้อยู่
เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจออกมา ก่อนจะตบไปที่แก้มของตนเอง ตบตีไปให้ถึงจิตวิญญาณ “ชุนฮุ่ย ชิวฮว่า เข้ามานี่ ”
ในเมื่อไม่มีวิธีที่จะทำให้นอนหลับได้ อย่างนั้นก็ตื่นขึ้นมาเถอะ ในเมื่อหาผู้ช่วยผ่าตัดไม่ได้ อย่างนั้นก็คงต้องพึ่งพาตัวเองหล่ะ นางไม่สามารถปฏิเสธทุกสิ่งที่เคยทำมาก่อนเพราะอุบัติเหตุในครั้งนี้ ส่วนเรื่องของซือสิง......
นางสามารถมอบให้เสด็จอาเก้าไปจัดการ เสด็จอาเก้าจะส่งคนไป แล้วตอนนี้ก็ต้องรับผิดชอบในการเอาคนกลับมาด้วย
“คุณหนูเจ้าคะ” ภายใต้คำพูดที่ทรงอำนาจของเฟิ่งชิงเฉินชี้ให้เห็นถึงสาวรับใช้สองคน ที่เดินเข้ามาด้วยความนอบน้อม ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา
“ข้าไม่เป็นไร เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ข้า” หากว่าน้ำเสียงไม่ได้ฟังดูแข็งทื่อ นั่นถือเป็นเรื่องดีแล้ว
ชุนฮุ่ยและชิวอว่ากลัวจนตัวสั่นเทาอยู่ตรงหน้า ถึงแม้พวกนางจะรู้ดีว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่คนที่ชอบพาลใส่คนอื่น แต่ด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียดต่อหน้าเฟิ่งชิงเฉิน ทำให้นางทั้งสองเกรงกลัวขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...