หยุนเซียวนอนอยู่บนเตียงผ่าตัดในชุดผู้ป่วย ด้วยอาการเงียบสงบ ไม่มีความหวาดกลัวหรือกังวลใจเลยแม้แต่นิดเดียว ฝากตัวเองไว้ที่เฟิ่งชิงเฉินอย่างเต็มที่
ผมดำของเขาถูกตัดออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ศีรษะล้านเกลี้ยงของเขาอยู่ต่อหน้าเฟิ่งชิงเฉิน กำลังรอให้เฟ่งชิงเฉินลงมือ
อวัยวะร่างกายรวมถึงเส้นผมและผิดหนังล้วนแล้วได้รับจากบิดามารดา หยุนเซียวยินยอมที่จะตัดผมยาวของเขาออกไป ซึ่งเป็นเจตจำนวครั้งใหญ่ของเขา แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังขอร้อง ให้ตัดก่อนเริ่มการผ่าตัดเพียงแค่หนึ่งชั่วโมง
เหล่าบรรดาแพทย์ภายในห้องต่างก็เป็นคนที่ไม่เคยเห็นหรือเคยรู้จัก พวกเขาเห็นหัวล้านเกลี้ยงของหยุนเซียวแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีอาการตื่นเต้นตกใจแต่อย่างใด แล้วนั่งลงบนที่นั่งด้านข้างด้วยอาการสงบ แล้วจึงถือโอกาสก่อนที่เฟิ่งชิงเฉินจะลงมือ จัดการสังเกตพิจารณาภายในห้องผ่าตัด
ห้องรับรองที่ไม่เล็กมากจนเกินไปนี้ ถึงแม้ว่าเครื่องมืออุปกรณ์ของเฟิ่งชิงเฉินจะมาก แต่ก็ถูกจัดเก็บเข้าที่อย่างเป็นระเบียบ รวมถึงยังมีไฟที่เพิ่มเข้ามา ทำให้ภายในห้องที่กว้างแห่งนี้สว่างสไวทั่วทั้งพื้นที่
หยุน หมอหวางทั้งสองต่างก็คิดในใจว่า ว่าถ้ากลับไปแล้วจะเกลี้ยกล่อมให้เจ้าของบ้าน สร้างห้องผู้ป่วยแบบนี้สักห้อง เพราะมันง่ายมากที่แพทย์จะมีสมาธิเมื่ออยู่ในสถานการณ์เดียวกันนี้
แพทย์หลวงเองก็มีความคิดแบบนี้เหมือนกัน เพียงแต่คิดว่าคนที่ไปโรงหมอหลวงน้อย พวกเขาเพียงแค่ไปดูอาการให้ผู้คนที่หน้าประตูเท่านั้น แต่ก็ได้ล้มเลิกไปแล้ว
เฟิ่งชิงเฉินสวมชุดผ่าตัดเรียบร้อย เมื่อเดินเหยียบเข้าไปในห้องผ่าตัด ออร่าทั่วทั้งร่างของนางเปลี่ยนไปกลายเป็นท่าทีที่สุขุมนุ่มลึก ใจเย็น แลดูชำนาญในหน้าที่ของตน ใบหน้าไร้การแสดงออกถึงอารมณ์ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีเหตุที่จะทำให้ผู้อื่นมาเชื่อถือตน แต่กลับทำให้ผู้คนไม่กล้าแม้จะปริปากส่งเสียงออกมา
“ทงจือ ทงเหยา พวกเจ้ายืนอยู่ด้านข้างคอยระวังอย่าให้คนเข้ามารบกวนข้า” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ใจความในเนื้อหาที่กล่าวได้แสดงเจตจำนงออกมาอย่างชัดเจน
ทั้งทงจือและทงเหยาต่างก็เป็นคนฉลาด ทั้งสองคนมายืนอยู่ด้านหลังของแพทย์ทั้งสี่ท่านอย่างว่านอนสอนง่าย หากในกรณีที่มีแพทย์บางท่านที่มีท่าทางเปลี่ยนไป พวกเขาจะได้เข้าไปยับยั้งได้ทันเวลา
เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าเล็กน้อย นางไม่ยอมให้เสียเวลา จึงหยิบปากกาทางการแพทย์ออกมา แล้ววาดลงบนกลางศีรษะของหยุนเซียวเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการกรีดผิวหนัง
“นี่มัน......” ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีเอ่ยขึ้นมาหนึ่งคำ วาดเส้นหนึ่งเส้นลงบนศีรษะแล้วจะเกิดประโยชน์อะไร หลังจากนั้นจึงพูดคำที่สองออกมา เฟิ่งชิงเฉินตาขวางมองเขาไม่แว้บหนึ่ง ใช้สายตาเป็นการสั่งว่าห้ามถาม
คนเหล่านี้ไม่ใช่ซุนซือสิง นางยินยอมที่จะให้คนเหล่านี้คอยดูอยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่ได้อธิบายอะไรออกมา หลังจากนั้น นางจะเป็นคนเดียวที่ทำการผ่าตัดเนื้องอกในสมองเอง จึงไม่มีเวลาว่างที่จะมาตอบคำถามของบางคนให้เข้าใจ
ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีที่ทำปากส่งเสียงจิ๊จ๊ะออกมา ก็หุบปากลงอย่างเชื่อฟัง เฟิ่งชิงเฉินตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างมาก จนกระทั้งบางคนเกิดความสงสัยไม่เข้าใจขึ้นมา นั่งจึงจะกลายเป็นเรื่องของพวกเขา
หนังหัวของหยุนเซียวได้รับการฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังคงต้องใช้สำลีปิดทับไว้เพื่อไม่ให้ปราศจากแบคทีเรีย เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งปนเปื้อนระหว่างการผ่าตัดตกลงไปบนหนังศีรษะ
เฟิ่งชิงเฉินนำเอาอุปกรณ์พันแผลสีใสออกมาจากชั้นในกล่องยาแล้วมาคลุมไว้ที่หนังศีรษะของหยุนเซียว หลังจากนั้นจึงทำการฉีดยาชาเข้าไปบริเวณแผล
นี่เป็นวิธีการที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังดูเหมือนเป็นวิธีที่ดูไม่น่าเชื่อถือจากวิธีการเดิม ๆ ทำให้ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีและแพทย์อีกี่ท่านรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก แต่เพียงแค่เห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเฟิ่งชิงเฉินแล้วก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยถามอะไร ทำได้เพียงแค่ยืดลำคอขึ้นมารอเฟิ่งชิงเฉินลงมือทำงานต่อ
เฟิ่งชิงเฉินหยิบมีดใบหลิวออกมาจากถาดเครื่องมือผ่าตัดอย่างพิถีพิถัน ภายใต้การจับตามองจากผู้คนจำนวนมาก นางวางมีดลงอย่างประณีต แล้วกรีดลงไปบนหนังศีรษะของหยุนเซียวอย่างมั่นคง หลังจากนั้นก็เป็นส่วนของหลังท้ายทอย
ก้อนเนื้อของเลือดสีแดงสดพลิกกลับมาด้านอก แต่ก็ไม่มีหยดเลือดไหลออกมา นั่นทำให้คนไม่รู้ว่าจะรู้สึกกลัวหรือเคารพดี
ทงจือและทงเหยามองกันด้วยท่าทีมีเลศนัยแล้วจึงเปลี่ยนสีหน้า นอกจากปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีแล้ว แพทย์ที่เหลืออีกสี่ท่านก็เกิดอาการช็อกขึ้นมาเช่นกัน
เฟิ่งชิงเฉินคือผู้ที่ช่วยชีวิตคนหรือผู้ที่ฆ่าคนกันแน่? นางจับเนื้อส่วนผิวหนังศีรษะบนหัวแยกออกจากกัน ยังมีใครมีชีวิตอยู่ได้อีกไหม ใบหน้าของแพทย์ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้ายุ่งเหยิงกันไปใหญ่ แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยถามขึ้นสักคำ
แท้จริงแล้วเฟิ่งชิงเฉินไม่มีแม้แต่เวลาว่างไปสนใจความคิดวิธีการของผู้อื่นเลย นางคีบหนังศีรษะส่วนที่พิเศษออกมา แล้วหนีบตรงส่วนขอบผิวหนังไว้ เพื่อห้ามเลือด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...