นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 938

จำนวนเงินของการเดิมพันครั้งนี้มากเพียงใด และซูเหวินชิงยังขาดเงินอีกเท่าไหร่ แค่ลองคิดดูก็รู้แล้ว

เงินเดิมพันถูกสะสมมาเรื่อย ๆ จนมีจำนวนมากถึงสิบกว่าล้านตำลึง หลังจากจ่ายภาษีให้การคลังของตงหลิง ก็ยังเหลือแปดล้านกว่าตำลึง เงินจำนวนนี้เทียบเท่ากับรายได้ของตงหลิงในเวลาหลายปี ด้วยจำนวนเงินที่มากขนาดนี้มันยากเกินกว่าจะนับคนได้

ต่อให้ถูกหักภาษีไปก็ยังเหลืออีกแปดล้านกว่าตำลึง แบ่งออกมาหนึ่งส่วนเพื่อช่วยเหลือคนจนก็ยังเหลืออีกเจ็ดล้านสอง แบ่งให้กับเฟิ่งชิงเฉินและซูโหยวครึ่งส่วนจะกลายเป็นเงินสามแสนหกหมื่นตำลึง ซึ่งเท่ากับว่าเงินที่ซูเหวินชิงต้องชดใช้ยังเหลืออีกหกล้านเก้าแสนสองหมื่นตำลึง

แน่นอน ก็ไม่ใช่ว่าในมือของซูเหวินชิงจะไม่เหลือเงินสักแดงเดียว ตระกูลซูเป็นตระกูลที่ทำอาชีพค้าขาย เขาสามารถหาเงินได้สองล้านตำลึง เวลานี้เงินที่ซูเหวินชิงกำลังขาดอยู่จริง ๆ ก็ประมาณหกล้านตำลึง

เงินจำนวนห้าล้านกว่าตำลึงนั้นไม่ได้มากมายอะไร เฟิ่งชิงเฉินแค่ขายยาป้องกันการแท้งบุตรพันกว่ากล่องก็สามารถหามาได้แล้ว แต่มันก็ต้องดูก่อนว่านางมียาป้องกันการแท้งบุตรและตลาดที่ใหญ่เพียงพอหรือไม่

ห้าล้านตำลึงไม่ใช่จำนวนที่สามารถหามาได้ในชั่วพริบตา ด้วยกำลังของประเทศอย่างเป่ยหลิง เขาไม่มีทางหาเงินจำนวนมากขนาดนี้ได้ในระยะเวลาอันสั้น

อีกอย่าง บนโลกใบนี้นอกจากเฟิ่งชิงเฉินยังมีใครอีกบ้างที่สามารถทำธุรกิจโดยไม่ต้องใช้ทุนและหารายได้โดยไม่ต้องมีทุน ที่ซูเหวินชิงกำลังปวดหัวเรื่องเงิน มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล......

การประลองในวันนี้ ทุกคนต่างรู้สึกตื่นตระหนก ในจวนเฟิ่ง ตั้งแต่พ่อบ้านไปจนถึงสาวใช้ พวกเขาทุกคนส่งเสียงให้กำลังใจเฟิ่งชิงเฉิน มันไม่ใช่เพราะพวกเขาเดิมพันไปด้วยเงินจำนวนมาก และอยากได้เงิน แต่เป็นเพราะในฐานะที่พวกเขาเป็นคนรับใช้ของจวนเฟิ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงอยากให้เฟิ่งชิงเฉินเป็นฝ่ายชนะ

“คุณหนู ท่านจะต้องชนะอย่างแน่นอน” ทันทีที่ตื่นเช้าขึ้นมาชุนฮุ่ยและชิวฮว่าก็พูดออกมาพร้อมกัน

“คุณหนู พวกข้าเชื่อในตัวท่าน” ในตอนที่กำลังตรวจอาการของหยุนเซียวและสาวใช้สายลับทั้งสอง ทงจือและทงเหยาก็พูดออกมา

“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าอย่าทำให้ขายหน้าเป็นอันขาด” นี่คือคำพูดของหยุนเซียวที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย

“เฟิ่งชิงเฉิน โอ้ไม่ อาจารย์ เจ้าอย่าแพ้เป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นข้าคงมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” นี่คือคำพูดที่เป็นตัวตนของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี

พ่อบ้านกลัวว่าเฟิ่งชิงเฉินจะตื่นเต้น เขาเดินไปส่งเฟิ่งชิงเฉินที่ประตูและกล่าวว่า “คุณหนูทำให้เต็มที่ก็พอแล้ว พวกเราจะรอท่านกลับมา”

ความหมายของมันชัดเจนในตัว พวกเขารอการกลับมาของเฟิ่งชิงเฉินเพื่อเฉลิมฉลอง

ไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนมองเฟิ่งชิงเฉินในแง่ดี ทักษะการขี่ม้าของนางนั้นยอดเยี่ยม มันถูกพิสูจน์ออกมาแล้วในระหว่างที่นางทำการฝึกฝน

แม้ว่าการขี่ม้าในเมืองหรือในสนามยังไม่เป็นที่นิยมของแผ่นดินจิ่วโจวอันยิ่งใหญ่ แต่ใครก็ตามที่พอจะมีหูมีตาอยู่บ้างก็จะรับรู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดี เนื่องจากเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตา เป็นการทำลายศักดิ์ศรีประเทศอื่น จักรพรรดิกระตือรือร้นที่จะแพร่งพรายมันออกไป

แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ การผสมพันธุ์ม้าของเฟิ่งชิงเฉินนั้นไม่ประสบความสำเร็จ ไม่เช่นนั้นจักรพรรดิคงมุ่งมั่นที่จะแพร่งพรายข่าวออกไปมากกว่านี้อีกหลายเท่า

ภายใต้ความคาดหวังของทุกคน เฟิ่งชิงเฉินเพียงยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย ใบหน้าของนางยังคงเฉยเมย สำหรับนางแล้วจะแพ้หรือชนะมันก็ไม่ต่างกัน ถ้าชนะได้ก็ดี ถ้าแพ้ก็ไม่เป็นไร นางไม่ใช่ตระกูลซู ที่แพ้แล้วลูกสาวจะขายไม่ออก เพราะไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่สามารถแต่งงานได้อยู่แล้ว

ได้รับบทเรียนจากการตกอยู่ในแผนการของอีกฝ่ายในพระราชวังครั้งที่แล้วเกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้าขาดในสนามแข่งม้า เฟิ่งชิงเฉินจึงเลือกผ้าที่ซูเหวินชิงเป็นคนจัดหาให้โดยเฉพาะ เมื่อเฟิ่งชิงเฉินเลือกรูปแบบเรียบร้อย ชุนฮุ่ย เซี่ยหว่าน ชิวฮว่า ตงชิง สาวใช้ทั้งสี่รีบตัดเย็บชุด ส่วนทงจือและทงเหยาออกไปทำการพิสูจน์ว่ารถม้านั้นทนต่อแรงกระแทกและแรงดึงจากแคร่อย่างแน่นอน

ชุดขี่ม้าสีดำ รองเท้าหุ้มส้นสีทอง ท่าทางที่ตั้งตรงราวกับวีรบุรุษ มองดูแล้วไม่เหมือนกับสาวน้อยที่ออกไปทำการแข่งขันบนหลังม้า แต่ดูเหมือนทหารที่กำลังออกไปยังสนามรบ

ไม่ได้มีความโดดเด่นของสีแดง ไม่ได้มีความนิ่งสงบของสีน้ำเงิน ชุดขี่ม้าสีดำบนร่างกายของเฟิ่งชิงเฉิน มองดูแล้วมันให้ความรู้สึกลึกลับ หวังจิ่นหลิงรู้อยู่ดีกว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นคนที่โดดเด่นและเจิดจรัส นอกจากวินาทีแรกที่พบเห็น หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้สติกลับคืนมา

เขาหยิบแส้จากคนรับใช้ ส่งให้เฟิ่งชิงเฉินด้วยรอยยิ้ม “ขอให้ประสบความสำเร็จในการแข่ง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ