นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 950

สรุปบท 950 เจียนกั๋ว เป็นประโยชน์ต่อจักรพรรดิที่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่ปี: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

950 เจียนกั๋ว เป็นประโยชน์ต่อจักรพรรดิที่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่ปี – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง 950 เจียนกั๋ว เป็นประโยชน์ต่อจักรพรรดิที่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่ปี จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

หลังจากที่เสด็จอาเก้าออกมาจากลานบ้านของเฟิ่งชิงเฉินแล้ว มาถึงศาลาชมทิวทัศน์แห่งหนึ่งที่สูงที่สุดของจวนเฟิ่ง นี่คือศาลาชมทิวทัศน์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ของจวนเฟิ่ง เสด็จอาเก้าขอให้ซูเหวินชิงสร้างมันขึ้นมาเป็นพิเศษ ภายในจวนเฟิ่ง และดูเหมือนว่าจะอยู่ด้านนอกจวนเฟิ่ง ซึ่งถือได้ว่าเป็นฉากหนึ่งของจวนเฟิ่ง

เหตุผลที่เสด็จอาเก้าสร้างศาลาสูงแห่งนี้ขึ้นมา ก็เพื่อไว้ให้เฟิ่งชิงเฉินได้ยืนดูและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์โดยไม่ถูกรบกวนหรือแอบมอง ไม่คาดคิดว่าตอนนี้จะกลายเป็นสถานที่ที่ดีในการพูดคุยเรื่องความลับกัน

เมื่อตอนที่เสด็จอาเก้ามาถึง ซีหลิงเทียนอวี่ก็มาถึงที่นั่นแล้ว ซีหลิงเทียนอวี่มองเสด็จอาเก้าก่อนที่จะมาอยู่ตรงหน้า พร้อมกับเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทีเคร่งขรึมว่า “เสด็จอาเก้า เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”

“เรื่องอะไร ซีหลิงเทียนเหล่ยบีบบังคับให้สละราชแล้วรึ” เสด็จอาเก้าเลิกคิ้วและพูดอย่างใจเย็นกับซีหลิงเทียนอวี่ สิ่งนี้ควรเป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุด

เสด็จอาเก้าพูดอย่างสบาย ๆ แต่เขากลับคาดไม่ถึงว่าซีหลิงเทียนอวี่จะพยักหน้าอย่างหนัก “ก็ไม่เชิง เสด็จพ่อทรงประชวรอย่างหนัก เทียนเหล่ยเจียนกั๋ว”

“เทียนเหล่ยเจียนกั๋ว อย่างนั้นเรื่องหมากรุกนี้ก็ไม่ผิด” เสด็จอาเก้าไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะตกใจจนต้องกัดฟันแน่นเช่นนี้ ในพระราชวังเรื่องแบบนี้ถือเป็นปกติมาก

เป็นองค์รัชทายาทมาแล้วก็นาน ไม่คิดว่าตนเองจะรอไม่ไหวที่จะให้จักรพรรดิทนไม่ไหว

“เสด็จอาเก้า ท่านได้ยินหรือไม่ เด็จพ่อข้าทรงประชวรอย่างหนัก ซีหลิงเทียนเหล่ยเจียนกั๋ยว ในระดับซีหลิงควรตกอยู่ในมือของเทียนเหล่ย” เมื่อเปรียบเทียบกับความวิตกกังวลของซีหลิงเทียนอวี่และเส็ดจอาเก้ากลับสงบอย่างน่ากลัวส่วนซีหลิงเทียนเหล่ยโกรธมากจนอยากจะกัดคน

สุดท้ายแล้วเสด็จอาเก้าก็ไม่รู้ว่าเรื่องมันร้ายแรงเพียงไหน เรื่องที่จักรพรรดิทรงประชวรอย่างหนัก องค์รัชทายาทเจียนกั๋ว ซึ่งหมายความว่าซีหลิงเทียนเหล่ยมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ของซีหลิง

เมื่อซีหลิงเทียนเหล่ยขึ้นครองบัลลังก์ก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา การวางหมากของเขาเป็นเวลาหลายปีในซีหลิง จะถูกกำจัดโดยซีหลิงเทียนเหล่ยทีละคน ต้องรู้ว่าจักรพรรดิแตกต่างจากองค์รัชทายาท เมื่อซีหลิงเทียนเหล่ยกลายเป็นจักรพรรดิจะปราบปรามซีหลิงเทียนอวี่ได้ง่าย

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นซีหลิงเทียนเหล่ยจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นครองบัลลังก์อย่างราบรื่น ซีหลิงเทียนเหล่ยจะกลายเป็นจักรพรรดิ ความทุกข์ทรมานเป็นเวลาหลายปีของเขานั้นไร้ประโยชน์หรือ

แน่นอนว่าเสด็จอาเก้ารู้ว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก แต่จะร้ายแรงอย่างไร ในเมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้ว

เสด็จอาเก้าเอ่ยขึ้นอย่างสงบว่า “ข้ารู้ ซีหลิงกับตงหลิงห่างกันเป็นพันลี้ ถึงเจ้ารีบร้อนก็ไม่มีประโยชน์ใด”

ซีหลิงเทียนอวี่เห็นเสด็จอาเก้าด้วยสีหน้าท่าทีสงบ จึงเดินเข้าไปหาอย่างใจเย็นและเชื่องช้า

เขาอยู่ในตงหลิง ดังนั้นเขาจะทำอะไรก็ได้หากเขารีบร้อน จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นอยู่ได้

ซีหลิงเทียนอวี่ถอนหายใจหนัก “เอาหล่ะ ข้าจะไม่รีบ แต่พวกเราควรทำอย่างไร” ไม่สามารถนั่งเฉย ๆ ได้แล้ว เพราะรอซีหลิงเทียนเหล่ยขึ้นครองราช ถึงแม้ว่าเขาจะยินยอม แต่เสด็จอาเก้าไม่เห็นด้วย

“แน่นอนว่าต้องกลับซีหลิง ป้องกันไม่ให้ซีหลิงเทียนเหล่ยขึ้นครองบัลลังก์ เพียงแค่ก่อนที่จะกลับไป ต้องทำบางอย่างก่อน”

เสด็จอาเก้าแสดงท่าทีให้รู้ว่าซีหลิงเทียนเหล่ยควรนั่งลงก่อน

เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะอธิบายให้ชัดเจนได้ด้วยคำไม่กี่คำ ยืนขึ้นอยู่ตรงนี้ตลอดมันดูเหมือนกบอะไรกัน

ซีหลิงเทียนอวี่สงบลงตรงหน้า แต่สายตาที่เป็นกังวลทำให้เสด็จอาเก้าเข้าใจว่าซีหลิงเทียนอวี่กังวลมากและเสด็จอาเก้าก็เข้าใจความกังวลของซีหลิงเทียนอวี่ แต่ในเวลานี้หากยิ่งตื่นตรพหนกก็จะยิ่งก้าวผิดพลาดได้

"ใครเป็นผู้ควบคุมพระราชวังในซีหลิงในตอนนี้" จักรพรรดิเก้าเอ่ยถาม เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเทียนเหล่ยกับแม่และนางสนมของเขาในซีหลิงจะมีปัญหาด้วยกัน แต่ก็พบจุดเปลี่ยนแล้ว

ในฐานะองค์รัชทายาท เจ้าไม่สามารถไปที่ไหนก็ได้ที่ต้องการ

“ดังนั้น ข้าจึงทำได้เพียงกลับไปอย่างลับ ๆ ไม่ ข้าไม่ควรกลับไป ข้าอยากกลับไป หากเสด็จพ่อดีขึ้น ท่านคงจะสงสัยว่าข้ามีแรงจูงใจซ่อนเร้นอยู่ หากเสด็จพ่อตาย เทียนเล่ยจะไม่ปล่อยให้ข้าไปในตอนที่เขาขึ้นครองบัลลังก์ เสด็จแม่จะให้ข้ากลับไปทำอะไรกัน” ซีหลิงเทียนเหล่ยกระวนกระวายใจขึ้นมา

ในความเป็นจริงเขาไม่เคยคิดว่าเสด็จพ่อของเขาจะล้มป่วยกะทันหันและเขาก็ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการเจ็บป่วยกะทันหัน หากเสด็จพ่อของเขาป่วยเขาจะไม่มีวันทิ้งซีหลิง

เสด็จพ่อป่วยอย่างหนัก แต่เขากลับอยู่ในตงหลิงที่แสนไกล นี่แสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีโอกาสสู้เลยแม้แต่น้อย หนึ่งคนอยู่นอกสายตาจักรพรรดิ ฝีมือที่กำลังพัฒนาก็ไม่มีความหมาย แต่เมื่อเขากลับไปทุกอย่างจะกลายเป็นบทสรุกอย่างคาดไม่ถึง

อาจจะเป็นเพราะว่าอยากให้เจ้ากลับไปก่อความวุ่นวายที่ซีหลิง!

เสด็จอาเก้าไม่ได้พูดแบบนี้ เขาไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับฮองเฮาแห่งซีหลิง ดังนั้นเขาจะไม่พูดเรื่องไร้สาระ เสด็จอาเก้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า: "เทียนอวี่ เจ้าต้องกลับไปที่ซีหลิง แต่เจ้าอย่าไปคนเดียวหากว่าพาปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีกลับไปที่เมืองหลวงด้วยกันและก่อนที่จะเข้าสู่ซีหลิงให้ไปที่เสวียนเซียวกงก่อนและขอให้เซวียนเส้าฉีส่งคนมาคุ้มครองเจ้า”

เสด็จอาเก้าวางแผนตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และสำหรับซีหลิงทียนอวี่แล้วก็เป็นเรื่องที่มีประโยชน์และไม่อันตราย

“เจ้าพูดแล้ว?” พอซีหลิงเทียนอวี่ได้ยินว่าให้พาปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีไปด้วย เขาก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว

เสด็จอาเก้าพยักหน้า “อาการป่วยของเสด็จพ่อเจ้าแปลกมาก ท่านอายุไม่มาก ไม่มีโรคอะไรแทรกซ้อน เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าท่านป่วย หากเจ้านำปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีแพทย์ผู้ลึกล้ำไปด้วย แม้ว่าเจ้าจะไม่สามารถช่วยได้ แต่ก็ยังสามารถแสดงความกตัญญูของเจ้าได้อย่างแน่นอน หากเสด็จพ่อของเจ้าได้รับการรักษาโดยปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีแล้ว มีชีวิตอยู่ได้อีกหลายปี สำหรับเจ้าแล้วมันช่วยเจ้าได้อย่างมาก”

ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม ซีหลิงเทียนเหล่ยยังมีชื่อเป็นองค์รัชทายาทของซีหลิง เมื่อเปรียบเทียบกับซีหลังเทียนอวี่ลูกชายของวังกลางแล้วการเปลี่ยนชื่อนั้นสมเหตุสมผล ซีหลังเทียนอวี่ต้องการเวลาและการสนับสนุนจากจักรพรรดิแห่งซีหลิง......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ