นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 952

สรุปบท บทที่ 952 รับความพ่ายแพ้ ขึ้นอยู่กับการเสแสร้ง: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 952 รับความพ่ายแพ้ ขึ้นอยู่กับการเสแสร้ง – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บท บทที่ 952 รับความพ่ายแพ้ ขึ้นอยู่กับการเสแสร้ง ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจักรพรรดิจึงไม่ปรากฏตัวออกมา เหล่าขุนนางใหญ่ในราชสำนักเองก็ไม่ปรากฏตัวออกมาเช่นกัน วันนี้หน้าที่ของผู้รับผิดชอบโดยรวมจึงตกเป็นของเสด็จอาเก้า

เฟิ่งชิงเฉินก้าวไปนั่งลงบนเก้าอี้ซึ่งอยู่ด้านหน้า กล่าวออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจ “ร่างกายของชิงเฉินบาดเจ็บ ไม่สามารถลุกขึ้นทำความเคารพได้ ขอเสด็จอาเก้าได้โปรดอย่าถือโทษ”

“ไม่เป็นไร” เสด็จอาเก้าไม่เคยทำให้เฟิ่งชิงเฉินต้องลำบากใจ ก็เห็นอยู่ว่าเฟิ่งชิงเฉินนั้นแสร้งแสดงออกมาเช่นนั้น เสด็จอาเก้าก็เล่นไปตามน้ำ สั่งให้คนไปนำผ้าห่มมาหนึ่งผืน คลุมขาของเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้ จากนั้นก็กล่าวออกมา “อากาศหนาว อย่าปล่อยให้ตนเองเป็นหวัด เมื่อถึงเวลา คนของตระกูลซูอาจคิดว่าพวกเราตงหลิงรังแกพวกเขามากเกินไป”

เสด็จอาเก้าไม่ได้ซ่อนความเกลียดชังที่มีต่อตระกูลซูเลยแม้แต่น้อย แม้คนของตระกูลซูจะไม่พอใจ แต่ต่อหน้าใบหน้าอันเยือกเย็นของเสด็จอาเก้า พวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา ทำได้เพียงระงับความไม่พอใจ และปลอบใจตนเองว่า:อย่างไรเสียเฟิ่งชิงเฉินก็คงดีใจได้อีกไม่นาน หากถูกทำลายด้วยหมากของตนเอง ชื่อเสียงของนางจะพังพินาศ

เฟิ่งชิงเฉินยิ้มตอบรับความหวังดีของเสด็จอาเก้า การยิ้มและพยักหน้าให้เสด็จอาเก้าของนางอยู่ในท่วงท่าที่เป็นทางการ เมื่อถึงเวลากล่าวเริ่มงาน คุณชายหยวนซีก็กล่าวออกมาว่า “ชิงเฉิน พวกเราก็ถือว่าเป็นคนคุ้นเคย มา ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จักสักเล็กน้อย......”

พูดจบเขาก็แนะนำคนที่อยู่ข้างกายของเขาให้เฟิ่งชิงเฉินรู้จัก คนพวกนี้ล้วนมาจากสำนักศึกษาจี้เซี่ย ไม่เกี่ยวข้องกับตงหลิงแต่อย่างใด แต่ละคนเป็นบัณฑิตที่มีชื่อเสียง เฟิ่งชิงเฉินยิ้มทักทายทีละคน แต่ก็ไม่ได้กระตือรือร้นหรือถือตัวจนมากเกิน

ทัศนคติของเฟิ่งชิงเฉินเป็นที่น่าพอใจสำหรับบัณฑิตเหล่านั้น ประกอบกับใบหน้าของคุณชายหยวนซี พวกเขาก็ไม่กล้าเพิกเฉยต่อเฟิ่งชิงเฉิน พูดคุยกับเฟิ่งชิงเฉินคนละสองสามประโยค และปล่อยคนของตระกูลซูไว้อย่างเย็นชา

พูดไปพูดมา บัณฑิตผู้มากความรู้เหล่านี้ต่างดูถูกตระกูลซูแห่งหนานหลิง เมื่อเทียบกับพวกนั้นแล้ว พวกเขายินดีที่จะสานสัมพันธ์กับเฟิ่งชิงเฉินมากกว่า ในสายตาของพวกเขา เฟิ่งชิงเฉินมีเกียรติมากกว่าตระกูลซูแห่งหนานหลิงมากมาย

หลังจากเฟิ่งชิงเฉินทักทายกับทุกคนเป็นอันเรียบร้อย เวลาก็ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง คนของตระกูลซูเริ่มนั่งไม่ติด เสด็จอาเก้ายิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น จึงเอ่ยปากขึ้นมาขัดจังหวะ ให้รีบไปจัดการเรื่องของหมากกระดานให้เรียบร้อย

ในที่สุดคนของตระกูลซูก็คว้าสิทธิ์ในการพูดกลับมาได้ เขารีบกล่าวอย่างกระตือรือร้น “แม่นางเฟิ่ง การแข่งขันระหว่างตระกูลซูของข้ากับเจ้าได้สิ้นสุดลงแล้ว พวกเรายอมรับผลการแข่งขันทั้งหมด ยกเว้นหมากกระดานนี้”

“หมากกระดานนี้เป็นอย่างไรงั้นหรือ? หากข้าจำไม่ผิด ตอนนั้นข้าเอาชนะคุณหนูซูหว่านไปแล้ว” เฟิ่งชิงเฉินจงใจกล่าวออกมาให้ทุกคนได้รับรู้ แม้ว่านางจะไม่สามารถแก้ไขหมากกระดานนี้ได้ แต่อย่างน้อยนางก็เป็นผู้ชนะ

ใบหน้าของคนตระกูลซูซีดขาว จากนั้นก็เยือกเย็นลงไปอย่างรวดเร็ว “แม่นางเฟิ่ง ทักษะการเล่นหมากรุกของเจ้านั้นช่างสูงส่ง ตระกูลซูของพวกเรานั้นไม่อาจสู้ได้ หมากที่เจ้าวางลงมา ตระกูลซูของพวกข้าไม่อาจทำลายมันได้ หมากกระดานนี้พวกข้าขอยอมแพ้”

“ท่านปู่ซูกล่าวเกินไป ไม่มีคำว่ายอมแพ้ เวลานั้นข้าตกลงกับคุณหนูซูหว่านไว้ว่า หากตระกูลซูสามารถทำลายหมากกระดานนี้ได้ ตระกูลซูก็จะเป็นฝ่ายชนะ แต่หากทำลายไม่ได้ ผลที่ออกมาก็คือเสมอ ในเมื่อพวกเจ้าไม่สามารถทำลายหมากกระดานนี้ได้ ผลของหมากกระดานนี้ก็คือเสมอ” เฟิ่งชิงเฉินรู้ดี หลานจิ่วชิงเดิมพันว่านางจะเป็นผู้ชนะของหมากกระดานนี้ หากนางกล่าวออกไปว่านางเป็นฝ่ายชนะ ซูเหวินชิงจะต้องฆ่านางแน่ นั่นเป็นจำนวนเงินถึงสองล้านตำลึง เมื่อเทียบกับผลแพ้ชนะดังกล่าวมันก็แทบไม่มีค่าอะไรเลย

“ไม่ ไม่ ไม่ได้ จะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ทักษะทางด้านหมากกระดานของแม่นางเฟิ่งสูงส่งถึงเพียงนี้ พวกข้ายินดีที่จะยอมรับความพ่ายแพ้” ตระกูลซูถอยเพื่อรุกหน้า ทัศนคตินี้ของพวกเขาทำให้หลายคนรู้สึกชื่นชม

เนื่องจากการรู้จักยอมรับความพ่ายแพ้เป็นคุณสมบัติของวีรบุรุษ

ตระกูลซูทำเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาสมความปรารถนา ผลจะเสมอหรือชนะนั้นไม่สำคัญ แม้ตระกูลซูจะยอมรับความพ่ายแพ้ แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาพ่ายแพ้อย่างมีเกียรติ

“ท่านปู่ซู ท่านกล่าวเกินไปแล้ว สุภาพบุรุษให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ เวลานั้นข้าทำสัญญากับแม่นางซูหว่านไว้แล้ว ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้ จะแพ้หรือชนะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย เรื่องนี้ท่านปู่ซูไม่จำเป็นต้องกล่าวถึง หมากกระดานนี้พวกเราเสมอกัน” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวอย่างใจเย็น และความใจกว้างในดวงตาของนางทำให้ทุกคนเข้าใจว่านางไม่สนใจเกี่ยวกับการชนะหรือแพ้ในรอบนี้จริง ๆ

ในความจริงมันก็เป็นเช่นนั้น เฟิ่งชิงเฉินจัดการกับตระกูลซูอย่างสิ้นซาก หมากกระดานนี้ให้ผลออกมาเสมอกับตระกูลซู มันก็เป็นการแสดงออกถึงความมีน้ำใจของนางเช่นกัน

“ทงจือ หยุดก่อน” เฟิ่งชิงเฉินยิ้มเหมือนสุนัขจิ้งจอก ทงจือและทงเหยาอยู่ใกล้กับนางมาก จึงเห็นการแสดงออกของเฟิ่งชิงเฉินอย่างเต็มตา ทั้งสองคนหันมายิ้มให้กัน และรู้ว่ามีคนกำลังจะโชคร้าย

“ท่านปู่ซูเรียกชิงเฉินให้หยุด ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใด?” เฟิ่งชิงเฉินแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราว ทำให้ไม่มีใครสามารถตำหนินางได้

ในเมื่อตระกูลซูไม่เคยไว้หน้าเฟิ่งชิงเฉิน กล่าวหาว่าเฟิ่งชิงเฉินจงใจทำให้ตระกูลซูอับอายด้วยหมากกระดานจอมปลอม มันสมเหตุสมผลที่เฟิ่งชิงเฉินจะถามคำถามดังกล่าว แต่ตระกูลซูกลับหยุดชะงักด้วยคำถามของพวกเขาเอง

นี่เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้เรื่องจริง ๆ หรือแสร้งทำเป็นไม่รู้กันแน่? พวกเขาทำทุกอย่างออกมาชัดเจนถึงเพียงนี้ แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับไม่ตกเข้ามาในกลอุบายของพวกเขา หรือว่าพวกเขาต้องพูดมันออกมาในที่สาธารณะ

หากกล่าวออกไป ตระกูลซูจะถอยไม่ได้อีกต่อไป

คนของตระกูลซูลังเล ทุกคนเงียบ พวกเขาต่างจ้องมองมาที่เฟิ่งชิงเฉินและคนของตระกูลซู อยากรู้ว่าทั้งสองฝ่ายจะทำเช่นไรต่อไป เฟิ่งชิงเฉินนั่งลงบนเก้าอี้ ใบหน้านิ่งสงบ ทางฝั่งของตระกูลซูเต็มไปด้วยความดิ้นรน ไม่รู้ว่าควรจะพูดมันออกมาดีหรือไม่

เฟิ่งชิงเฉินเห็นว่าอีกฝ่ายลังเล ไม่สามารถตัดสินใจออกมาได้ นางจึงกล่าวใส่ไฟเข้าไปด้วยความเมตตา “ท่านปู่ซู ร่างกายของชิงเฉินไม่ค่อยดี หากไม่มีเรื่องอื่นใดแล้ว ชิงเฉินขอตัวก่อน”

“ช้าก่อน” เวลานี้ตระกูลซูร้อนรนอย่างแท้จริง หากวันนี้ไม่สามารถจัดการเรื่องของหมากกระดานได้ ตระกูลซูก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไม่ว่าทำต้องทำเช่นไร พวกเขาก็ไม่สามารถปล่อยให้เฟิ่งชิงเฉินจากไปเช่นนี้ได้......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ