นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 980

สรุปบท บทที่ 980 โอ้อวด,ความแข็งแกร่งตัดสินทุกอย่าง: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

อ่านสรุป บทที่ 980 โอ้อวด,ความแข็งแกร่งตัดสินทุกอย่าง จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บทที่ บทที่ 980 โอ้อวด,ความแข็งแกร่งตัดสินทุกอย่าง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยหรือสถานที่ใด มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงเท่านั้นถึงสามารถได้รับความเคารพจากผู้อื่น สามารถทำให้ผู้อื่นหวาดกลัว เจ้าจะถ่อมตัวก็ได้ แต่ก่อนหน้านั้นเจ้าต้องมีต้นทุนของการถ่อมตัว และเมื่อเป็นเช่นนั้นเจ้าก็สามารถเย่อหยิ่งได้ทุกเมื่อที่เจ้าต้องการ

คนที่อ่อนแอไร้ซึ่งกำลังไม่มีคุณสมบัติที่จะบอกว่าตนเองเป็นผู้ถ่อมตน คนเหล่านั้นเป็นได้เพียงคนโง่เขลา มีเพียงผู้ที่อยู่บนจุดสูง ๆ เท่านั้นถึงสามารถบอกว่าตนเองถ่อมตัวได้ ถ่อมตัวต่อผู้อื่น

เสด็จอาเก้าไม่ได้พูดกับเฟิ่งชิงเฉินมากมาย เขาเพียงพูดออกมาแค่ว่า “ความแข็งแกร่งของเจ้า มันจะเป็นของเจ้าตลอดไป” เฟิ่งชิงเฉินสามารถยืมพลังจากคนอื่นได้ แต่มีเพียงความแข็งแกร่งของตนเองเท่านั้นที่จะทำให้ได้รับความเคารพจากผู้อื่นอย่างแท้จริง

เช่นเดียวกับชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้ที่บุกโจมตีเข้ามา แม้ว่าวิธีการของพวกเขาเอาจะดูบ้าบอไปหน่อย แต่พวกเขาก็ได้แสดงความแข็งแกร่งของพวกเขาออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน พวกเขาไม่เห็นองค์รัชทายาทและท่านอ๋องอยู่ในสายตา หากทำให้พวกเขาขุ่นเคือง พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะสังหารเจ้า

เสด็จอาเก้าพูดออกมาถึงขั้นนี้แล้ว แน่นอนว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่สามารถถอยได้อีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมนี้ที่ให้ความสำคัญกับอาชีพของนาง สามารถทำให้ได้รับการยอมรับจากผู้อาวุโส เส้นทางในอนาคตของนางจะราบรื่นขึ้นมาก สำหรับหมอ ชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญ หากได้รับคำสรรเสริญจากหมอเทวดาผู้ยิ่งใหญ่สองท่านนี้ มันดีกว่าที่นางรักษาให้หยุนเซียวหลายเท่า

เฟิ่งชิงเฉินไม่หลบซ่อนอีกต่อไป เฟิ่งชิงเฉินจึงกล่าวดึงดูดความสนใจของทั้งสองอย่างรื่นหู กล่าวถึงหัวข้อการเจ็บป่วยของหยุนเซียว

ที่ชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้มาที่นี่ก็เพื่อจุดประสงค์นี้ เวลานี้ถึงเวลาที่พวกเขาโต้กลับและกอบโกยผลประโยชน์ พวกเขาตั้งคำถามสองสามข้อเกี่ยวกับอาการป่วยของหยุนเซียว เจ้าเล่ห์ขี้โกง เป็นมืออาชีพ เห็นได้ชัดว่าต้องการทดสอบเฟิ่งชิงเฉิน

สำหรับการรับมือกับสิ่งเหล่านี้ เฟิ่งชิงเฉินเคยชินกับมันแล้ว เนื่องจากด้วยอายุของนางตอนนี้ คงไม่มีใครเชื่อว่านางมีทักษะทางการแพทย์ที่เก่งกาจ ต่อให้มีพรสวรรค์มากเพียงใด การศึกษาก็จำเป็นต้องใช้เวลา ประสบการณ์ หากนางไม่แสดงความสามารถออกมา คนไม่มีใครเชื่อนาง

เฟิ่งชิงเฉินไม่กล้าเพิกเฉย ไม่ว่าชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้ถามอะไรออกมา นางล้วนตอบกลับไปอย่างละเอียด โดยผสมผสานระหว่างทฤษฎีการแพทย์ตะวันตกกับทฤษฎีการแพทย์แผนจีน

ทฤษฎีการแพทย์ตะวันตกเป็นสิ่งที่ง่ายมาก เจ็บตรงไหน ขาดตรงไหนก็รักษาและเปลี่ยนตรงนั้น ส่วนการแพทย์แผนจีน สิ่งที่เน้นย้ำคือความละเอียดอ่อน ความสมดุล หาสาเหตุของโรค จากนั้นก็ค่อย ๆ ทำการรักษา

อย่างไรก็ตาม ชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้เป็นนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ แม้ว่าสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินกล่าวออกมานั้นอาจจะแตกต่างจากการแพทย์แผนจีนไปบ้าง แต่ทั้งสองคนก็ยังเข้าใจได้ แม้ว่าการผ่าตัดอาจจะไม่สามารถรักษาโรคได้ แต่สำหรับผู้ป่วยแล้วมันถือเป็นวิธีที่รวดเร็ว ง่าย และมีประสิทธิภาพ

ใช่ การแพทย์แผนตะวันตกนั้นเรียนง่ายกว่าการแพทย์แผนจีนอย่างชัดเจน หากคุณสอนนักศึกษาแพทย์แผนตะวันตก ก็สามารถสอนให้พวกเขาจับมีดผ่าตัดได้ภายในเจ็ดถึงแปดปี เนื่องจากทุกอย่างล้วนเป็นไปตามขั้นตอน

แต่การแพทย์แผนจีนนั้นต่างกันออกไป การแพทย์แผนจีนจำเป็นต้องมีประสบการณ์ การจ่ายยาหรือการรักษาล้วนขึ้นอยู่กับประสบการณ์ อาการเดียวกันแต่คนละตัวบุคคล ชนิดและปริมาณยาที่ใช้ก็ต่างกันออกไป นี่จำเป็นต้องสั่งสมประสบการณ์เป็นเวลาหลายปีถึงจะสามารถทำได้

เมื่อได้ยินคำอธิบายอย่างชัดเจนที่เฟิ่งชิงเฉินรักษาให้หยุนเซียว และวิธีการรักษาบาดแผลภายนอกของเฟิ่งชิงเฉิน ชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้เชื่อว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นคนรักษาอาการป่วยของหยุนเซียวไปแล้วประมาณเจ็ดส่วน

“เป็นวิธีการอธิบายที่เข้าใจง่ายจากขั้นตอนนับร้อย” นี่คือการประเมินทักษะทางการแพทย์ของเฟิ่งชิงเฉิน แม้ชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้ค่อนข้างจะสงสัยในทักษะทางการแพทย์ของเฟิ่งชิงเฉิน แต่ยังไงก็ต้องยอมรับว่าทั้งหมดเป็นความจริง

รู้และเข้าใจในวิธีการเพียงหนึ่งวิธีจากร้าย เท่านั้นก็มากเพียงพอ ด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ประกอบกับใช้เวลาเล่าเรียนเพียงไม่กี่ปี แพทย์แผนจีนก็สามารถเป็นแพทย์แผนตะวันตกได้ไม่ยาก ในทางกลับกัน หากแพทย์แผนตะวันตกต้องการเรียนรู้แพทย์แผนจีน มันจะเป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจากแค่สมุนไพรอย่างเดียวก็สามารถฆ่าผู้ป่วยได้ และผู้ป่วยแต่ละรายก็มีการจ่ายยาที่แตกต่างกัน

“ถือว่าเจ้ายังพอมีความรู้อยู่บ้าง” ชื่อเลี่ยนฉุ่ยเห็นเฟิ่งชิงเฉินสุภาพถึงเพียงนี้ และแสดงออกมาอย่างไมตรีจิต ดังนั้นจึงเห็นเฟิ่งชิงเฉินเจริญหูเจริญตากว่ามาก ก่อนหน้านี้เขาไม่เห็นหน้าของเฟิ่งชิงเฉินเลยแม้แต่น้อย เห็นเป็นเพียงแค่ที่ระบายความโกรธเท่านั้น

ใครกันที่ทำให้พวกเขาสองคนอับอายถึงเพียงนั้น หากไม่หาใครมาระบายความโกรธสักคน พวกเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เฟิ่งชิงเฉินนั้นอ่อนแอ ทำให้ชื่อเลี่ยนฉุ่ยระบายอารมณ์ได้อย่างราบรื่น ส่วนกัวเป่าจี้เพียงแค่ขยิบตา และปล่อยให้เขาพูดออกไป

ศิษย์น้องที่รู้ความคิดของศิษย์พี่ กัวเป่าจี้รู้ว่าชื่อเลี่ยนฉุ่ยกำลังคิดอะไรอยู่ พูดกับเฟิ่งชิงเฉินด้วยใบหน้าที่ตรงไปตรงมา หากเป็นไปได้ พวกเขาอยากเห็นเฟิ่งชิงเฉินทำการรักษาด้วยตาของตัวเอง วิธีการเย็บแผล ผ่าตัดเปิดกะโหลก ไม่จำเป็นต้องใช้คนมาเป็นผู้ทดลอง แค่สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ก็ได้

เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ปฏิเสธ นางตอบรับด้วยความยินดี จากนั้นพาทั้งสองคนไปยังห้องผ่าตัดของนาง

ชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้มองหน้ากัน แววตาของพวกเขาเป็นประกาย แม้ว่าทั้งสองคนจะพูดเสมอว่าทฤษฎีของเฟิ่งชิงเฉินนั้นไม่เป็นที่แพร่หลาย แต่ในความเป็นจริงพวกเขาเองก็รู้สึกสนใจเช่นกัน หากไม่ใช่นั้นพวกเขาคงไม่ยอมทนต่อความอับอายก่อนหน้านี้

ในเรื่องเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ว่าพวกเขาเองไม่เคยทำ เหมือนกับการรักษาแผลของซากศพ การขัดขา ตัดแขนที่เน่าเปื่อยเพื่อทำการรักษาชีวิตไว้

กลุ่มโรคต่าง ๆ ที่เฟิ่งชิงเฉินกล่าวถึง พวกเขาเองก็เคยรักษาเช่นกัน เพียงแต่อันตรายการสำเร็จนั้นน้อยมาก และทุกครั้งที่พวกเขาทำการรักษา ผู้ป่วยจะมีไข้สูง เกิดการอักเสบ สุดท้ายผู้ป่วยก็ต้องทนทุกข์ทรมานด้วยตัวเอง หากทนไม่ไหวสุดท้ายก็แค่ตาย

ในเมื่อเฟิ่งชิงเฉินสามารถทำการผ่าตัดเปิดอกแล้วทำให้ผู้คนยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ นางจึงต้องมีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้เป็นอย่างมาก พวกเขาต้องการเรียนรู้มัน และมันก็เป็นประโยชน์กับพวกเขามาก......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ