นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 982

สรุปบท บทที่ 982 ขาย,การผ่าตัดคงจะวุ่นวายน่าดู: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

อ่านสรุป บทที่ 982 ขาย,การผ่าตัดคงจะวุ่นวายน่าดู จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บทที่ บทที่ 982 ขาย,การผ่าตัดคงจะวุ่นวายน่าดู คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

การผ่าตัดกำลังจะสิ้นสุดลงและมาถึงขั้นตอนของการเย็บแผล เฟิ่งชิงเฉินถอนสายตาออกและมองไปนอกบ้านด้วยความคิดถึง......

เมื่อเห็นความประหลาดใจของชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้ เฟิ่งชิงเฉินนึกถึงตอนที่ตนเองเข้าผ่าตัดหัวใจในครั้งแรก ดูเหมือนว่านางเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าทั้งสองคน

แม้ว่าจะไม่มีอะไรน่าคิดถึงในโลกใบนั้น แต่นางก็คิดถึงสายอาชีพของนาง ในตอนนั้นร่างกายของนางราวกับเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ไม่ว่าจะเรียนหรือทำงานต่างสามารถทุ่มเทอย่างเต็มที่ และสดชื่นในทุกเช้าวันใหม่ แต่เวลานี้......

ดูเหมือนว่านางจะแก่เกินไปแล้ว

เมื่อเฟิ่งชิงเฉินได้สติกลับคืนมา ซุนซือสิงได้เย็บบาดแผลตรงหน้าอกของกระต่ายเป็นอันเรียบร้อยแล้ว เมื่อเสร็จสิ้นการผ่าตัด ซุนซือสิงก็เป็นเพียงแค่ชายหนุ่มธรรมดา ยืนอยู่ที่เดิมด้วยสภาพอึดอัด มองตรงนี้ที ตรงโน้นที

เมื่อเผชิญหน้ากับชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้ เขาตื่นตระหนกจนไม่รู้จะแสดงท่าทางออกมาเช่นไร เวลานี้ราวกับว่าเป็นคนละคน ไม่มีความเฉียบคมและนิ่งสงบเหมือนตอนทำการผ่าตัดเลยแม้แต่น้อย

“ซือสิง เจ้าทำได้ดีมาก” เฟิ่งชิงเฉินก้าวออกมา น้า ขัดจังหวะดวงตาที่ร้อนแรงของชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้

ลูกศิษย์ตัวน้อยของนางเป็นคนขี้อาย ถึงเวลาที่พวกเขาสองคนต้องควบคุมตัวเอง

เมื่อพูดถึงเรื่องการผ่าตัด ความตื่นตระหนกของซุนซือสิงก็หายไปทันที แววตาของเขาเปล่งประกาย “อาจารย์ ข้าเองก็รู้สึกว่าครั้งนี้ข้าทำได้ดีกว่าครั้งก่อนมาก ในตอนสับเปลี่ยนหัวใจ ครั้งเดียวก็เข้าไปยังตำแหน่งเดิม แต่ยังช้ากว่าอาจารย์อยู่มาก” พูดถึงตรงนี้ เสียงของเขาก็เบาลง

“อาจารย์ฝึกมาเยอะกว่าเจ้า หากเจ้าพยายามมากกว่านี้ เจ้าก็จะสามารถก้าวข้ามอาจารย์ไปได้” พรสวรรค์ของเจ้านั้นดีกว่าอาจารย์ เรื่องนี้เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้พูด เนื่องจากหากพูดออกมาอาจทำให้ซือสิงไม่มีความสุขและไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้

“ไม่มีทาง ข้าจะก้าวข้ามอาจารย์ไปได้อย่างไร อาจารย์คือหมอที่สุดยอดที่สุดที่ข้าเคยเห็น” สุดยอดกว่าปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี คำพูดนี้ซุนซือสิงไม่ได้พูดออกมา แต่เฟิ่งชิงเฉินก็เข้าใจในความคิดของเขา เนื่องจากซุนซือสิงไม่รู้จักวิธีการเก็บซ่อนอารมณ์ของตนเอง

“ซือสิง บนโลกใบนี้ไม่มีหมอที่ยอดเยี่ยมที่สุด หมอทุกคนต่างมีความถนัดแตกต่างกัน ข้าถนัดเพียงการใช้มีดผ่าตัด แต่เจ้าไม่อาจถนัดเพียงด้านเดียวแบบอาจารย์ได้” หากมีความสามารถในการควบคุมทุกสิ่ง แน่นอนว่ามันดีกว่าการทำได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง เนื่องจากมีจุดยืนให้ผู้ที่มีความสามารถหลากหลาย เช่นนั้นเหตุใดจะต้องเชี่ยวชาญเพียงทางใดทางหนึ่งด้วย?

หัวใจของซุนซือสิงไร้ซึ่งสิ่งรบกวน เรียบง่าย บริสุทธิ์ ยิ่งเขาได้ใกล้ชิดกับหมอในระดับปรมาจารย์มากใด อนาคตของเขาก็ยิ่งสดใสมากเท่านั้น

“อาจารย์ ข้า......”

“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน เมื่อสักครู่เจ้าเรียกนางว่าอะไรงั้นหรือ?” ชื่อเลี่ยนฉุ่ยไม่ยินดีที่จะถูกเมิน เขาจึงขัดคำพูดของซุนซือสิงอย่างไม่เกรงใจ

เป็นเพราะลมแรงเกินไป เขาถึงฟังไม่ชัดงั้นหรือ?

ซุนซือสิงผงะอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตอบกลับไปอย่างให้ความร่วมมือ “ท่านผู้อาวุโส ท่านผู้นี้คืออาจารย์ของข้า ไม่ทราบว่าท่านมีนามว่าอะไร?”

“นางคืออาจารย์ของเจ้า?” ชื่อเลี่ยนฉุ่ยไม่เต็มใจที่จะยอมรับว่าสิ่งนี้เป็นความจริง

ช่างเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยม เขาคือต้นกล้าที่ดีอย่างแท้จริง เหตุใดถึงกราบไหว้นางเป็นอาจารย์ เหตุใดถึงยอมรับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผู้นี้เป็นอาจารย์ ช่างเป็นความสิ้นเปลืองอย่างแท้จริง

“อื้อ” ซุนซือสิงตอบกลับไปอย่างใสซื่อ ชื่อเลี่ยนฉุ่ยเห็นเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ตอบโต้แต่อย่างใด และนึกถึงคำพูดที่ทั้งสองเพิ่งพูดคุยกันเมื่อสักครู่ เขาก็รู้ว่านี่คือความจริง

ช่างเถอะ แม้ว่าจะน่าเสียดาย แต่มันก็หมดหนทาง ใครใช้ให้พวกเขาเอาแต่หมกตัวอยู่บนเขา ทำให้ต้องพลาดกับต้นกล้าอันยอดเยี่ยมเช่นนี้ ชื่อเลี่ยนฉุ่ยรู้สึกหดหู่จนแทบกระอักเลือด

“น้องชาย ข้ามีนามว่าชื่อเลี่ยนฉุ่ย แล้วเจ้ามีนามว่าอะไร?” ไม่สามารถรับไว้เป็นศิษย์ แต่ก็สามารถผูกมิตรไมตรีได้ ชื่อเลี่ยนฉุ่ยพบว่ายิ่งเขามองซุนซือสิงมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกชอบซุนซือสิงมากขึ้นเท่านั้น

เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าการกระทำของนางนั้นไร้ประโยชน์ ดังนั้นนางจึงคิดจะหนีออกไป แต่ดวงตาของทั้งสองเต็มไปด้วยความเร่าร้อน แค่ดูก็รู้ว่าพวกเขาสนใจในการผ่าตัดหัวใจมากเพียงใด หากนางไม่หนีออกไปเวลานี้ ถูกทั้งสองคนเข้ามาพัวพัน เช่นนั้นจะต้องลำบากเป็นแน่

ทันทีที่คิดเช่นนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็รีบหนีออกมา นางตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว แต่ชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้ก็ไม่ใช่มังสวิรัติ แม้ว่าวรยุทธ์ของเขาจะถูกควบคุมโดยเสด็จอาเก้า แต่ความว่องไวของพวกเขายังอยู่ เฟิ่งชิงเฉินเพียงแค่เคลื่อนไหว พวกเขาทั้งสองก็รับรู้ได้ในทันที รีบก้าวออกมาเพื่อขวางหน้าของเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้

“แม่นางเฟิ่ง เจ้าคิดจะไปไหนงั้นหรือ?”

มีเรื่องอะไรเร่งรีบขนาดนั้นเลยงั้นหรือ หรือว่าจะไปถ่ายหนักถ่ายเบา?

หากเป็นคำถามของชื่อเลี่ยนฉุ่ย เฟิ่งชิงเฉินจะต้องตอบออกไปเช่นนั้น แต่นี่เป็นคำถามของกัวเป่าจี้ นางไม่อาจตอบออกไปเช่นนั้นได้ ลุงวัยกลางคนผู้นี้ปล่อยพลังออกมาทั่วทั้งร่างกาย หากนางตอบออกไปเช่นนั้น นางคงต้องถูกสายตาของเขาบดขยี้เป็นแน่

มุมปากของเฟิ่งชิงเฉินกระตุก พูดออกไปด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้อาวุโสกัว เมื่อครู่ซือสิงก็บอกพวกท่านไปแล้ว ข้าจะทำการรักษาองค์รัชทายาท เวลานี้องค์รัชทายาทอยู่ในลานแล้ว ข้ากับองค์รัชทายาทนัดหมายกันเอาไว้ เวลานี้ต้องไปตรวจร่างกายเบื้องต้นขององค์รัชทายาท”

“อ่า ที่แท้แม่นางเฟิ่งก็มีเรื่องสำคัญต้องทำ พวกข้าสองพี่น้องเองก็เป็นหมอเช่นกัน ไม่ทราบว่าขอร่วมทางไปด้วยได้หรือไม่?” กัวเป่าจี้กล่าวออกมาอย่างสุภาพ แต่ท่าทางของเขานั้นบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเฟิ่งชิงเฉินห้ามปฏิเสธเป็นอันขาด

หมอสองคนนี้สร้างปัญหายังไม่เท่าไหร่ เมื่อซุนซือสิงได้ยินเช่นนั้นเขาก็กล่าวออกมาทันที “อาจารย์ รอข้าด้วย ข้าเองก็จะไปด้วย” ทันทีที่เสียงเงียบลง เขาก็รีบเก็บอุปกรณ์บนโต๊ะผ่าตัด ราวกับว่าเป็นผู้ช่วยที่คอยติดตามเฟิ่งชิงเฉิน

ข้าสามารถปฏิเสธออกไปได้งั้นหรือ?

เฟิ่งชิงเฉินมองไปที่พวกเขาทั้งสามคน นางอยากจะร้องออกมา นางสัมผัสได้ถึงลางร้าย นั่นก็คือ......

การผ่าตัดขององค์รัชทายาท เกรงว่าคงจะวุ่นวายน่าดู!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ