อ่านสรุป ตอนที่ 1018 เหตุผลของความกล้านี้ จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 1018 เหตุผลของความกล้านี้ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 1018 เหตุผลของความกล้านี้
“เจ้าทำให้เจิ้นโกรธมากยิ่งนัก บัดนี้เจิ้นจะทำให้เจ้าได้เห็นกับตาว่ามือของเจิ้นนั้นยาวเพียงใด ! ”
“เจิ้น…จะกำจัดราชวงศ์เหลียวให้สูญสิ้น จะทำให้ใต้หล้าได้ประจักษ์ ! ”
เมื่อฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยประโยคนี้ออกมา ทำเอาทั้งจัตุรัสบังเกิดความเงียบสงัดขึ้นมาทันใด เงียบชนิดที่ว่ามิได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจ
มิต้องเอ่ยถามถึงบรรดาประมุขและราชทูตของแคว้นอื่น ๆ เพราะแม้แต่ขุนนางต้าเซี่ยก็ล้วนตกตะลึงกันทุกคน !
ประมุขและราชทูตจากแคว้นต่างแดนเหล่านั้นรู้สึกว่านี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปหน่อย… จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยพระองค์นี้อ่อนต่อโลกเกินไปหรือไม่ ? เพียงแค่วาจายั่วยุขององค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์เหลียวก็ทำให้เขาบันดาลโทสะได้แล้วหรือ ?
จักรพรรดิตรัสแล้วมิคืนคำ ยิ่งมิต้องเอ่ยถึงวาจาที่พระองค์ได้ประกาศกร้าวออกมาต่อหน้าสาธารณชน
พระองค์เห็นการทำศึกสงครามเป็นเรื่องง่ายดายเยี่ยงนั้นหรือ ? มันเกี่ยวโยงกับทุกด้านของประเทศ
และอีกอย่าง…สงครามครั้งล่าสุดของประเทศต้าเซี่ยก็เพิ่งจบไปเมื่อมินานมานี้มิใช่หรือ ?
ได้ยินว่าปีที่แล้วพวกเขาประสบภัยแล้งคราใหญ่ ทำให้ต้องทุ่มงบประมาณและเสบียงอาหารจำนวนมหาศาลในการเยียวยาภัยพิบัติ ศึกครานี้ต้องออกเดินทางไกลหลายพันลี้…มิรู้ว่าต้องใช้เงินและเสบียงอาหารมากเพียงใด ?
ราชวงศ์เหลียวมิใช่ดินแดนที่ใครอยากเข้าไปหาเรื่องก็สามารถทำได้ตามอำเภอใจ พวกเขาเชี่ยวชาญเรื่องการรบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พวกเขามีทหารม้าที่แข็งแกร่งและกล้าหาญชาญชัย… แม้ว่าประเทศต้าเซี่ยจะอาศัยแคว้นซีเซี่ยเป็นข้ออ้างในการเปิดศึก แต่แคว้นซีเซี่ยที่ราษฎรหายใจรวยรินอยู่แล้วจะมีปัญญามอบความสนับสนุนใดให้ทหารที่รบอยู่แนวหน้าได้กัน ?
ประมุขและราชทูตจากแคว้นเล็ก ๆ เหล่านั้นกำลังหวั่นวิตกแทนประเทศต้าเซี่ย ทว่าบัดนี้ขุนนางของต้าเซี่ยกลับฮึกเหิมขึ้นมาอีกครา…ฝ่าบาทจะขยายดินแดนอีกคราแล้ว !
ไปยึดครองราชวงศ์เหลียวให้เป็นมณฑลที่สิบเก้าของต้าเซี่ย !
ขุนนางฝ่ายทหารล้วนปรารถนาได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งจากการทำสงครามครานี้ ส่วนขุนนางฝ่ายพลเรือนก็ปรารถนาจะเป็นเต้าถายแห่งมณฑลที่สิบเก้า
นี่คือโอกาสที่จะได้เลื่อนตำแหน่งอีกครา…ส่วนเรื่องความร่ำรวยมั่งคั่งที่จะได้จากตำแหน่ง ทุกวันนี้ขุนนางแห่งต้าเซี่ยมิได้เก็บมาใส่ใจกันเลยสักนิด
หากได้เป็นขุนนางใหญ่ที่ผนึกชายแดนไว้ก็จะมีชื่อเสียงไปชั่วนิจนิรันดร์มิใช่หรือ ?
หลังจากตกอยู่ในภวังค์แห่งความเงียบงันครู่หนึ่ง เสียงกู่ร้องชอบใจก็ดังสนั่นจัตุรัสขึ้นมา ในสายตาของชาวต่างชาติภาพนี้ช่างชวนให้ประหลาดใจมากยิ่งนัก รู้สึกราวกับว่าสภาขุนนางของต้าเซี่ยบ้าคลั่งกันไปหมดแล้ว !
เป็นประเทศที่ชอบทำสงครามไปทั่วเสียจริง 1
ตั้งแต่บัดนี้สืบไปอย่าได้กระตุกหนวดของต้าเซี่ยเชียว !
ว่าแต่…สงครามกับราชวงศ์เหลียวในครานี้ ประเทศต้าเซี่ยจะสามารถเอาชนะได้จริงหรือ ?
แคว้นเล็กแคว้นน้อยเหล่านั้น มิได้รู้ซึ้งถึงศักยภาพที่แท้จริงของต้าเซี่ย โดยเฉพาะศักยภาพด้านการทหารและด้านเศรษฐกิจ ทว่าเยลู่ตานรู้ดีอยู่เต็มอก
บัดนี้เขาได้มองเหตุการณ์ทุกอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว
คำเอ่ยโน้มน้าวในตอนแรกของจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ย มีจุดประสงค์เพื่อยั่วยุโทสะตน ผู้ซึ่งเป็นราชทูตแห่งราชวงศ์เหลียว
ต้าเซี่ยต้องการใช้ราชวงศ์เหลียวมาเป็นข้ออ้างในการกลืนกินแคว้นซีเซี่ยซึ่งเป็นหัวใจของราชวงศ์เหลียว !
หากต้าเซี่ยสามารถเขมือบแคว้นซีเซี่ยได้สำเร็จ ถัดจากซีเซี่ยลงไปก็จะเป็นเขตปกครองตนเองชื่อเล่อชวน
ในตอนนี้เส้นทางที่เชื่อมระหว่างชื่อเล่อชวนกับแต่ละมณฑลสามารถไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวกสบาย แต่ละมณฑลสามารถส่งทหารและเสบียงอาหารมายังชื่อเล่อชวนได้อย่างรวดเร็ว
เดิมทีในสายตาของจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยก็คงมิเห็นซีเซี่ยอยู่ในสายตาอยู่แล้ว เพราะปลายดาบพิฆาตของเขาได้ชี้ไปยังราชวงศ์เหลียวเสมอมา !
องค์รัชทายาทเอ๋ย การที่พระองค์ยืนขึ้นในครานี้ ได้สร้างเหตุผลอันชอบธรรมให้แก่จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยเข้ามารุกรานผืนปฐพีของพระองค์เอง
บัดนี้ข้าจำเป็นต้องพลิกสถานการณ์ให้ได้เพราะเชื่อมั่นเสียเหลือเกินว่าจักรพรรดิผู้นี้ตรัสจริงทำจริง !
“ทูลองค์รัชทายาท กระหม่อมคือผู้ที่ได้รับพระบัญชาจากองค์ฮ่องเต้ให้มาเยือนต้าเซี่ย ก่อนออกเดินทาง ฝ่าบาททรงกำชับว่าให้ฟังเท่านั้น มิต้องออกความคิดเห็นใด ๆ กระหม่อมคือผู้ดูแลการมาเยือนในครานี้ ขอองค์รัชทายาทได้โปรดถอนพระดำรัสด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ! ”
เยลู่ฮัวหน้าแดงก่ำราวกับตับหมู
“ข้าเป็นองค์รัชทายาท ข้าเป็นว่าที่ฮ่องเต้แห่งราชวงศ์เหลียว จะให้ข้านอบน้อมอยู่ใต้เท้าเขาได้เยี่ยงไร ! ? ”
“พวกเจ้าพาองค์รัชทายาทกลับไปยังคฤหาสน์เสีย” เยลู่ตานมิอยากเสวนากับองค์รัชทายาทผู้โง่เขลาอีกแม้แต่คำเดียว ช่างน่าอับอายขายหน้าเสียจริง มีตาแต่หามีแววไม่ หากราชวงศ์เหลียวตกอยู่ในกำมือของเยลู่ฮัว…ข้า เยลู่ตานผู้นี้ก็คงหมดปัญญา
“เจ้ากล้าเยี่ยงนั้นหรือ… ! ”
“เอาตัวพระองค์กลับไป ! ”
“เยลู่ตาน เจ้าคือโจรขายบ้านเมืองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน…”
เยลู่ฮัวถูกนำตัวออกจากพิธีในขณะที่กำลังเดือดดาลขั้นสุด ครานี้ฟู่เสี่ยวกวนถึงได้หันมาพิจารณาอัครมหาเสนาบดีเฒ่าจากราชวงศ์เหลียวผู้นี้โดยละเอียด กุนซือผู้มากประสบการณ์ท่านนี้ดูเป็นคนมีเหตุมีผลมากยิ่งนัก
ทว่าบัดนี้ฟู่เสี่ยวกวนจะมิให้โอกาสอัครมหาเสนาบดีผู้นี้ได้แก้ตัวอีกต่อไป เพราะเขาต้องการครอบครองแคว้นซีเซี่ยกับราชวงศ์เหลียวอย่างแท้จริง
“เยี่ยงไรเสีย…เจิ้นก็ได้ตรัสออกไปแล้วจะมิมีทางคืนคำเป็นอันขาด เยลู่ตาน ท่านจงนำตัวองค์รัชทายาทของท่านกลับไป จากนั้นให้บอกกับเยลู่ชิงว่า…เจิ้นให้เวลาเขา 1 ปีในการเตรียมตัว เมื่อเดือนสามของปีหน้ามาถึง เจิ้นจะเดินทางไปกำราบพวกเจ้าด้วยตนเอง ! ”
จักรพรรดิแห่งประเทศต้าเซี่ยจะเดินทางไปกำราบราชวงศ์เหลียวด้วยพระองค์เองจริงหรือ… ? !
การประกาศกร้าวในครานี้ นำพาความตกตะลึงมาสู่บรรดาประมุขและราชทูตจากแคว้นต่าง ๆ หรือแม้แต่ขุนนางแห่งต้าเซี่ยก็ตกตะลึงมิแพ้กัน
ทว่าเยลู่ตานมิได้ตกตะลึงแม้แต่น้อย เขารีบเอ่ยปรามว่า “ทูลองค์จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยที่เคารพ ศึกครานี้..มิมีเหตุผลอันสมควรเลยพ่ะย่ะค่ะ ! ”
“ไม่สิ ! มันมีเหตุผลอันสมควร เพราะม้าศึกของราชวงศ์เหลียวตัวหนึ่งหลุดเข้ามาที่ชื่อเล่อชวน มันหลุดเข้ามากินหญ้าในประเทศของเจิ้น ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)