นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1039

ตอนที่ 1039 ก้าวที่ใหญ่เกินไป

ฟู่เสี่ยวกวนรับประทานอาหารกลางวันที่จวนตระกูลเยี่ยน

มีสตรีมาร่วมรับประทานอาหารด้วยนางหนึ่ง นางมีนามว่า…เยี่ยนชิงอี

ตอนนั้นนางเป็นถึงฮองเฮาแห่งราชวงศ์หยู ทว่าในทุกวันนี้ย่อมมิหลงเหลือสถานะนั้นอยู่อีกต่อไปแล้ว มิหนำซ้ำยังต้องเป็นแม่หม้ายที่มีลูกติด 1 คน

ฟู่เสี่ยวกวนได้ร้องขอให้เยี่ยนเป่ยซีเชิญนางมาร่วมโต๊ะด้วยกัน ทุกวันนี้นางและบุตรชายที่เพิ่งมีอายุได้ 1 ปีอาศัยอยู่ที่จวนเยี่ยนแห่งนี้

จิตใจของเยี่ยนชิงอีกระสับกระส่ายมากยิ่งนัก ในฐานะฮองเฮาของราชวงศ์ก่อน หากเป็นการโค่นล้มราชวงศ์ในยุคสมัยก่อนหน้านี้ นางและลูกชายย่อมมิมีทางที่จะมีชีวิตรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้

นางนั่งอยู่ด้านข้างด้วยความรู้สึกกังวลใจสุดขีด ทว่าสีหน้าของท่านปู่ดูสงบมากยิ่งนัก นางชำเลืองสายตามองฟู่เสี่ยวกวนบ้างเป็นครั้งครา พบว่าใบหน้าของเขาก็ดูสบาย ๆ เช่นกัน

ขณะที่นางกำลังกังวลว่าชะตาชีวิตของนางจะเป็นเยี่ยงไรต่อไป ฟู่เสี่ยวกวนก็ได้หันมามองหน้านางแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า

“ชิงอี…เจ้าอย่าได้เป็นกังวลไปเลย เจ้าเป็นน้องสาวของเสี่ยวโหลว นั่นก็เท่ากับว่าเจ้าเป็นน้องสาวของข้าด้วยเช่นกัน”

“เจ้าเองก็น่าจะรู้ดีว่าข้าและเวิ่นเต้าเป็นสหายที่ดีต่อกัน เรื่องระหว่างพวกเรานั้นล้วนเป็นเรื่องของบ้านเมือง มิใช่เรื่องเคียดแค้นส่วนตัวแต่อย่างใด พวกเรามิได้มีความแค้นเคืองต่อกัน”

“ที่ข้าเรียกเจ้ามาในวันนี้ ข้าเพียงแค่อยากจะถามว่าเจ้าต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษหรือไม่ ? เรือนหลังนั้นของตระกูลเซวี๋ยยังคงว่างอยู่ ข้าจะประทานให้แก่เจ้า หากเจ้าอยากอยู่ที่จวนตระกูลเยี่ยนก็จงอยู่ต่อไปเถิด เมื่อบุตรชายของเจ้าเติบใหญ่ขึ้นแล้วค่อยย้ายออกไปก็ย่อมได้…”

“และอีกอย่าง…เจ้าเพิ่งอายุ 17 ปีเท่านั้น เจ้ายังมีคืนวันให้ต้องข้ามผ่านอีกยาวไกล การที่ต้องดูแลบุตรเพียงลำพังย่อมมิใช่เรื่องง่าย สิ่งที่ข้าต้องการจะบอกคือ…หากเจ้าเจอคนที่เหมาะสมแล้ว เจ้าสามารถแต่งงานได้อีกครา”

คำเอ่ยของฟู่เสี่ยวกวนมิเพียงแต่ทำให้เยี่ยนชิงอีตื่นตกใจเท่านั้น เพราะแม้แต่เยี่ยนเป่ยซีเองก็ยังตื่นตกใจจนแทบจะหงายหลัง !

สามเชื่อฟังสี่จรรยาเป็นกรอบคุณธรรมที่สตรีพึงปฏิบัติมานานนับพันปี !

จงรักภักดีต่อบุรุษเพียงผู้เดียวจวบจนวันตาย นี่คือสิ่งที่สตรีผู้มีกิริยามารยาทพึงกระทำ !

แต่ฝ่าบาทกลับตรัสว่านางสามารถแต่งงานใหม่ได้ นี่จะมิทำให้ผู้อื่นคูแคลนนางและเกลียดนางเข้ากระดูกดำไปเลยหรือ ?

เขาหมายความว่าเยี่ยงไรกันแน่ ?

หรือเขาต้องการจะผลักใสให้ข้าไปอยู่ในสภาพอันเลวร้าย จากการมิรักษาหลักสามเชื่อฟังสี่จรรยาของสตรี !

เขา… เขามันหน้าเนื้อใจเสือ !

ฟู่เสี่ยวกวนคาดมิถึงว่าความปรารถนาดีของตนนั้นจะทำให้ตนกลายเป็นผู้ร้ายที่ทำเรื่องบาปมหันต์

สีหน้าของเยี่ยนชิงอีแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือด ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง จากนั้นนางก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินหนีออกไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม

ฟู่เสี่ยวกวนผู้บริสุทธิ์ มิรู้ว่าตนเองทำผิดอันใด เขาจึงหันไปมองเยี่ยนเป่ยซี “ข้าปรารถนาดีต่อนางแท้ ๆ ! ”

ครานี้เยี่ยนเป่ยซีถึงได้เข้าใจเจตนาที่แท้จริงของฟู่เสี่ยวกวน เขาพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “เรื่องนี้ฝ่าบาทอย่าได้เก็บมาใส่พระทัยเลย กระหม่อมจะค่อย ๆ เกลี้ยกล่อมให้นางเข้าใจเอง”

“นี่คือความคิดที่ยึดถือสืบทอดกันมานานนับพันปี มันเป็นกรงที่คอยกักขังดั่งที่ฝ่าบาทเคยเอ่ย มนุษย์เราเป็นคนกำหนดหลักสามเชื่อฟังและสี่จรรยาขึ้นมาเอง ถ้าหากผู้ใดมิปฏิบัติหลักการนี้ คนผู้นั้นก็จะถูกตัดสินว่าผิดและถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างรุนแรง” เยี่ยนเป่ยซีรินสุราให้กับฟู่เสี่ยวกวน จากนั้นก็เอ่ยต่อว่า “ชิงอีก็ได้รับการสั่งสอนมาเช่นนี้ ฝ่าบาทอย่าได้ถือโทษโกรธนางเลย ต่อไปนี้นางจะเลือกเส้นทางใด… ก็ให้นางตัดสินใจเองเถิด มา…พวกเรามาดื่มสุรากัน”

ถึงเวลาที่ต้องร่างกฎหมายการสมรสออกมาแล้วสินะ ?

ส่วนระบบผัวเดียวเมียเดียว…ก็ช่างมันเถิด เพราะตนก็มีเมียตั้งสิบคน และอีกอย่างประชากรผู้หญิงในต้าเซี่ยก็มีมากกว่าประชากรผู้ชายหลายเท่าตัว

ฟู่เสี่ยวกวนและเยี่ยนเป่ยซีมิได้ดื่มสุรามากมายนัก ทั้งสองใช้เวลานั่งสนทนากันมากกว่า

ตั้งแต่หลักคำสอนของขงจื้อจนถึงคัมภีร์หลี่เสวีย ต่อด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ “นี่เป็นการก้าวหน้าครั้งใหญ่ ทว่ากระหม่อมขอเอ่ยบางอย่างที่มิสมควร กระหม่อมคิดว่าการก้าวหน้าครานี้ยิ่งใหญ่เกินไปหน่อย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)