นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1066

ตอนที่ 1066 อาจารย์และศิษย์

ในใต้หล้านี้คงมิมีผู้ใดเชื่อว่าการต่อสู้ของปรมาจารย์จะจบลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้

มิใช่ว่าต้องใช้หมึกเข้มไปวาดเส้นเน้นย้ำหรอกหรือ ?

พวกเขามิใช่ว่าควรจะใช้ดาบฟาดฟันกวัดแกว่งไปมาจนเกิดเป็นประกายสายฟ้าแล้วต่อสู้กันไปมานับร้อยกระบวนท่าจนกว่าจะมีคนพ่ายแพ้หรอกหรือ ?

ส่วนพวกที่รอดชีวิตมาได้ ควรจะบาดเจ็บสาหัสและมองดูภาพเบื้องหน้าด้วยสภาพที่เกือบจะสิ้นใจมิใช่หรือ ?

เหตุใดถึงมิเป็นเช่นนั้นเลยเล่า

นอกเสียจากเสียงปืนระลอกนั้นแล้ว นอกเสียจากร่างไร้วิญญาณทั้งห้าร่างที่นอนกองอยู่บนพื้น ก็มิได้เกิดเหตุการณ์ใดขึ้นมาอีกเลย พวกเขายังมิทันได้หยิบดาบออกมาเลยด้วยซ้ำ สงครามการต่อสู้ครั้งใหญ่ของปรมาจารย์แห่งยุทธภพนี้ เดิมทีควรจะดำเนินไปอย่างน่าตกตะลึง ทว่ากลับสิ้นสุดลงง่ายดายถึงเพียงนี้

ศพเหล่านั้นถูกทิ้งไว้ในป่ารกร้าง กลายเป็นอาหารอันโอชะของแร้งกา มองดูแล้วช่างเงียบเหงาเสียเหลือเกิน

……

“เจ้ากำลังรอสิ่งใดอยู่กัน ? ”

คณะเดินทางของฟู่เสี่ยวกวนได้มุ่งหน้าไปยังรัฐลู่ฉี ในรถม้านั้น…สวี่หยุนชิงจ้องมองสีหน้าของฟู่เสี่ยวกวนแล้วเอ่ยถามขึ้นมา

“ชายอ้วนเดินทางไปสังหารซูฉางเซิง ข้ากำลังรอข่าวจากเขาอยู่”

สวี่หยุนชิงตกตะลึงขึ้นมาทันใด “เขารนหาที่ตายหรือเยี่ยงไร ? เขาพาคนไปด้วยกี่คน ? ”

“4 คน ! ”

สวี่หยุนชิงจึงวางใจลงเล็กน้อย แต่ฟู่เสี่ยวกวนกลับเผยอยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “ซูฉางเซิงมีกัน 5 คน ! ”

เขาเอ่ยเสริมขึ้นมาอีกว่า “ปรมาจารย์ 5 คน ! ”

“ไอหยา…เยี่ยงนั้นเขาก็ตกอยู่ในอันตรายน่ะสิ ? ”

“ครานี้คาดว่าคงมิเป็นไร พวกเขาพกปืนเหมาเซ่อไปด้วยทุกคน ต่อให้ซูฉางเซิงสวมเกราะกันกระสุนเอาไว้ ก็สามารถจัดการได้ภายในกระสุนนัดเดียว”

กระสุนนัดเดียวสามารถจัดการกับปรมาจารย์ได้เยี่ยงนั้นหรือ ? หากเป็นก่อนหน้านี้สวี่หยุนชิงคงมิเชื่อ ทว่าบัดนี้นางเชื่ออย่างสนิทใจ เนื่องจากในมือของนางก็มีปืนนี้อยู่เช่นกัน

เจ้าสิ่งนี้ใช้ได้ดีมากยิ่งนัก พลังของมันมิอาจสรรหาคำใดมาบรรยายได้ เมื่อมีของสิ่งนี้ก็มิจำเป็นต้องจับดาบเพื่อเสี่ยงชีวิตอีกต่อไปแล้ว

ในตอนนั้นที่เมืองเปียนเฉิง หากว่าในมือมีปืนกระบอกนี้อยู่ ฝานอู๋เซียงก็มิใช่คู่มือของนาง

“ส่งคนไปดูหน่อยดีหรือไม่ ? ” สวี่หยุนชิงยังคงมิวางใจเท่าใดนัก

“ซูม่อพาคนจำนวน 1,000 คนคอยดูสถานการณ์อยู่รอบ ๆ แล้ว”

“อ้อ…เป็นเช่นนี้นี่เอง”

ทันใดนั้นเองหลิวจิ่นก็ได้วิ่งเข้ามา จากนั้นก็กระซิบผ่านหน้าต่างรถม้าว่า “ฝ่าบาท…จดหมายลับจากหอเทียนจีพ่ะย่ะค่ะ”

ฟู่เสี่ยวกวนเปิดม่านแล้วรับจดหมายฉบับนั้นเข้ามา เขาเปิดมันออกดูจากนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

“เฮ้อซานเตา เจ้าหมอนั่นทำได้เกินที่ข้าคาดหวังจริง ๆ เขาใช้คนจำนวน 20,000 คนในการคุ้มกันเมืองต้าติ้งเอาไว้… ควรตกรางวัลให้สักหน่อยแล้ว ! ”

“ชนะเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“ชนะแล้ว ! เฮ้อซานเตารวบรวมทหารชาวเหลียวจำนวนสามแสนกว่านาย รวมเข้ากับกองนาวิกโยธิน 20,000 นายของเขา สามารถป้องกันการโจมตีจากกองทัพอสนีบาตที่โจมตีอย่างดุเดือดได้ถึงหนึ่งวันหนึ่งคืน กองทัพเรือที่หนึ่งของจั่วมู่เดินทางไปถึงได้ทันเวลา จึงทำให้ชนะสงครามในครานี้ ทหารฝ่ายศัตรูบาดเจ็บและล้มตายไปกว่าครึ่ง ส่วนที่เหลือได้หลบหนีไป”

สวี่หยุนชิงก็หัวเราะขึ้นมาเช่นกัน “อืม…เขาควรได้รับรางวัล ! ”

ในที่สุดฟู่เสี่ยวกวนก็ผ่อนคลายความกังวลลงมาเล็กน้อยแล้ว หลายวันมานี้ดูเหมือนเขาจะผ่อนคลาย ทว่าแท้จริงแล้วในใจลึก ๆ เขากลับกังวลว่าเฮ้อซานเตาและทหารทั้งสองหมื่นนายจะถูกซูฉางเซิงจัดการจนสิ้น

การสูญเสียในสงครามครานี้ก็น้อยมากยิ่งนัก แม้จะเป็นเพียงสงครามป้องกันเมือง แต่ศัตรูคือทหารของซูฉางเซิงที่ใช้เวลาฝึกฝนอยู่หลายปี ความสามารถของทหารเหล่านั้นจะมองข้ามไปมิได้ มองดูแล้วเขาควรจะประเมินความสามารถในการต่อสู้ของทหารต้าเซี่ยเสียใหม่

จากอาณาเขตของต้าเซี่ยในปัจจุบัน เมื่อรับซีเซี่ยกับราชวงศ์เหลียวเข้ามาแล้ว มีกองทัพบก 8 กองทัพและกองทัพทหารม้า 1 กองทัพ รวมทั้งสิ้น 900,000 นาย ซึ่งเพียงพอที่จะปกป้องชายแดนของต้าเซี่ยแล้ว

ส่วนทหารเรือบัดนี้มีอยู่ 3 กองทัพ รวมกับกองนาวิกโยธินอีก 20,000 นาย จำนวนคน 320,000 นาย เพียงแค่เรือพร้อมก็สามารถออกทะเลขยายอาณาเขตของต้าเซี่ยได้แล้ว

กองทัพจะถูกกำหนดเขตรับผิดชอบโดยกรมกลาโหม ภารกิจต่อไปคือการบริหารซีเซี่ยและราชวงศ์เหลียว จากนั้นก็กำจัดศัตรูทางทะเล

แผนการดำเนินงานห้าปีฉบับที่สอง จะต้องเริ่มบุกเบิกเส้นทางสายไหมทางบกและเส้นทางสายไหมทางทะเล หากสามารถเปิดสองเส้นทางนี้ได้สำเร็จ เศรษฐกิจของต้าเซี่ยก็จะมั่นคงมากยิ่งขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)