ตอนที่ 1122 ชนะอย่างใสสะอาด
ในท้องทะเลกว้างใหญ่ ชั้นบรรยากาศเต็มไปด้วยควันจากเครื่องจักรไอน้ำ นกนางนวลเหล่านั้นที่โบยบินอยู่เหนือน่านน้ำดูเหมือนจะได้กลิ่นที่แปลกไปจากเดิม พวกมันจึงบินกระจัดกระจายไปตัวละทิศละทาง
บัดนี้กองทัพเรือทั้งสองอยู่ห่างกันเพียง 2 ลี้เท่านั้น และจากกล้องส่องทางไกลสามารถมองเห็นผู้คนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนเรือรบของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างชัดเจน
จั่วมู่วางกล้องส่องทางไกลลงแล้วออกคำสั่งกับผู้ถ่ายทอดคำสั่งว่า “เรือทุกลำให้เตรียมพร้อมเป็นคราสุดท้าย เมื่อเรือของศัตรูเข้ามาในระยะ 90 จั้ง…ให้โจมตีได้ทันที ! ”
เมื่อคำสั่งนี้ถูกส่งออกไป นั่นหมายความว่าสงครามกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว นอกจากนี้ยังหมายถึงทหารเรือของต้าเซี่ยกำลังจะได้รับการทดสอบในสนามจริงแล้ว
จั่วมู่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ลมทะเลทำให้ผมของเขาพลิ้วไสว ชุดเกราะสีเงินสว่างสดใสส่องแสงเจิดจ้าท่ามกลางดวงสุริยา
ฟางจาวหยางเสนาธิการกองทัพที่หนึ่งของกองทัพเรือวางกล้องส่องทางไกลลง เขาจ้องมองไปยังจั่วมู่ที่บัดนี้มีสีหน้าจริงจังเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นก็เอ่ยถึงหัวข้อสนทนาที่มิเกี่ยวข้องกับการทำสงครามขึ้นมาว่า
“ท่านจั่ว สงครามนี้หากสิ้นสุดลงแล้ว อ้อมิใช่ ! หลังจากที่กลับมาจากฝูหล่างจีแล้ว ข้าอยากจะลาพักสักหน่อย”
“เพราะเหตุใดกัน ? เจ้าเบื่อแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
ฟางจาวหยางส่ายศีรษะเบา ๆ “การออกรบในทะเลเป็นความฝันของข้าและท่าน ข้าคิดเพียงแค่ว่า…ข้าเข้าร่วมกองทัพเรือที่หนึ่งได้สองปีแล้ว เอาแต่ฝึกซ้อมทั้งวันทั้งคืน มิกล้าจะขาดซ้อมแม้แต่วันเดียว ทว่าข้ากลับเพิกเฉยต่อภรรยาและลูก ๆ เสียได้”
สายตาของจั่วมู่ยังคงมองออกไปยังท้องทะเล เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “ข้าให้สัญญา เมื่อถึงเวลา…เจ้าจะได้ลาหยุด 2 เดือน เจ้าช่วยดูแลคนในครอบครัวของข้าและหมู่บ้านชาวประมงของพวกเราด้วย”
“ท่านจั่ว ข้าคิดว่าหลังกลับมาจากฝูหล่างจีแล้ว ทหารเรือคงจะมิมีสงครามใดให้รบอีก ท่านจะกลับไปพร้อมกับข้าหรือไม่ ? ”
จั่วมู่ฉีกยิ้มกว้างออกมา “เจ้าคงจะมิรู้สินะ การออกเดินทางในครานี้เป็นเพียงเส้นทางหนึ่งเท่านั้น ฝ่าบาทตรัสว่าใต้หล้านี้เป็นทรงกลม หากเดินทางออกไปในทะเลทั้งสี่ทิศก็จะมีเส้นทางเดินเรือที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหมายความว่าจะมีประเทศอีกมากมายตามแนวชายฝั่ง”
“บัดนี้เป็นเวลาทองของฝ่าบาท เกรงว่าในปีต่อ ๆ ไป ทหารเรือของต้าเซี่ยจะมิเพียงสำรวจเส้นทางเหล่านี้เท่านั้น ทว่ายังจะพิชิตประเทศเหล่านั้นทั้งสี่ทิศทางอีกด้วย ! ”
ฟางจาวหยางรู้สึกดีใจขึ้นมาทันใด “หมายความว่ายังมีสงครามให้รบอยู่อีกหรือ ? ”
“แน่นอน มิเพียงแค่ทหารเรือเท่านั้น ต่อให้เป็นทหารบก…หากว่าฝ่าบาทมีพระประสงค์ ก็คงมีสงครามให้รบเช่นกัน เนื่องจากใต้หล้านี้ยิ่งมองก็ยิ่งกว้างขวาง”
จั่วมู่สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วเอ่ยว่า “อย่าได้คิดมากไปเลย พวกเราในฐานะทหารเรือก็ควรจะมีความจงรักภักดีต่อประเทศชาติ พวกเรามาจบการต่อสู้นี้ลงอย่างสวยงามกันเถิด จากนั้นก็ติดตามฝ่าบาทไปท่องโลกภายนอก”
“อืม ! ” ฟางจาวหยางพยักหน้าตอบรับอย่างหนักแน่น จากนั้นเขาจึงหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมามองดูเรือรบของศัตรูที่ใกล้เข้ามากว่าเดิม
บนเรือธงของฝูหล่างจี โบลล์เองก็กำลังใช้กล้องส่องทางไกลมองดูกองทัพเรือของต้าเซี่ยอยู่เช่นกัน
เขามองเห็นธงรบบนเรือธงของต้าเซี่ย มันพริ้วไหวไปตามลมทะเล บนนั้นมีดาบและนกอินทรีที่กำลังโผทะยานสู่ท้องนภา
เขาแสยะยิ้มออกมาทันใด เรือรบของตนมีมากถึง 100 ลำ ทว่าอีกฝ่ายมีเพียงแค่ 18 ลำเท่านั้น !
แน่นอนว่าเขาเห็นเรือของฝ่ายศัตรูมีขนาดที่ใหญ่กว่าเรือของตน นั่นหมายความว่าเรือนั้นบรรจุกระสุนได้มากกว่า แล้วอย่างไรเล่า ?
เมื่อทำลายกองเรือนี้จนสิ้นแล้ว กองเรือของเขาก็จะสามารถเข้ายึดครองแคว้นหลิวได้อีกครา จากนั้นก็เดินทางไปพิชิตดินแดนเทพในตำนานนั่นเสีย
คทาของจักรพรรดินีจะต้องถูกปักลงบนผืนปฐพีของดินแดนตะวันออกในตำนานนั้น และธงของฝูหล่างจีจะโบกสะบัดในทุก ๆ แห่งของดินแดนตะวันออกนี้ !
“คำสั่ง…เรือรบทุกลำ เมื่อเข้าใกล้เรือรบของศัตรูในระยะ 45 จั้งให้เริ่มโจมตีทันที ! ”
“ข้าให้เวลาพวกเจ้าครึ่งชั่วยาม หลังจากครึ่งชั่วยาม ข้าต้องการให้เรือรบของฝ่ายศัตรูทุกลำจมดิ่งลงสู่ท้องทะเล ! ”
……
……
ณ เรือรบเป่ยเซียวห้าว ถังไคหยวนผู้บัญชาการกองพลที่หนึ่งของกองทัพเรือที่หนึ่งขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาจ้องไปที่เรือรบศัตรูทั้งหกลำที่กำลังเผชิญหน้ากับเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)