ตอน ตอนที่ 1124 ข้อความลับ จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 1124 ข้อความลับ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 1124 ข้อความลับ
สวี่หยุนชิงสวมชุดคลุมสีเขียวอ่อน นางยืนอยู่บนท่าเรือด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพลางจ้องมองฟู่เสี่ยวกวนที่กำลังตกตะลึง
ฟู่เสี่ยวกวนรู้ว่าสวี่หยุนชิงอยู่ที่หยวนตงเต้า แต่คาดมิถึงว่านางจะมาปรากฏตัวที่นี่
ไป๋ยู่เหลียน หยุนซีเหยียนและคนอื่น ๆ ที่ลงเรือมาพร้อมกับฟู่เสี่ยวกวนต่างก็พากันตกตะลึง พวกเขาโค้งคำนับด้วยความเคารพ สวี่หยุนชิงโบกมือไปมาพลางเอ่ยว่า “เอาละ ! พวกเจ้าไปพักผ่อนกันก่อนเถิด ข้าจะพาบุตรชายไปเดินเล่นสักพัก”
เป่ยหวังฉวนและหนิงซือเหยียนชะงักลงทันใดพลางจ้องมองไปทางฟู่เสี่ยวกวน ในฐานะองครักษ์ของจักรพรรดิ พวกเขาทั้งสองคนมิกล้าให้ฝ่าบาทอยู่ห่างจากสายตาของพวกเขา นี่คือสิ่งที่จักรพรรดินีและพระสนมทั้งสิบประสงค์ ทั้งยังเป็นการขอร้องจากเสนาบดีอาวุโสทั้งสาม !
ฟู่เสี่ยวกวนในตอนนี้มีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศต้าเซี่ยเป็นอย่างยิ่ง เขาเกี่ยวข้องกับอนาคตและชะตากรรมของประชากรทั้งสามร้อยล้านคน พวกเขาจึงมิกล้าประมาท ต่อให้เป็นไทเฮาก็ตาม
ฟู่เสี่ยวกวนส่ายหน้าให้กับทั้งสองคน “นี่คือเสด็จแม่ของข้า ! อีกอย่างจะมีผู้ใดคิดทำร้ายข้ากัน ? ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่คือเซียอี๋แห่งหยวนตงเต้า พวกเจ้าตามไป๋ยู่เหลียนไปเถิด อีกสักพักข้าจะตามพวกเจ้าไป”
“หน้าที่ของพวกเจ้าคือปกป้องคุ้มครองฝ่าบาท พวกเจ้าตามฝ่าบาทไปเถิด”
“กระหม่อมจะขอติดตามไปรับใช้ฝ่าบาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ ! ” หลิวจิ่นเองก็รีบเอ่ยขึ้นมา สวี่หยุนชิงจึงพยักหน้าตอบรับ
……
……
ขบวนรถม้าเดินทางออกไปจากท่าเรือเซียอี๋ ดำเนินไปบนถนนเซียอี๋อย่างมิเร่งรีบ
หนึ่งในขบวนรถม้า สวี่หยุนชิงจ้องมองฟู่เสี่ยวกวนอย่างมีความหมายพลางเอ่ยถามขึ้นมาว่า “เจ้ายังมิลืมคำเอ่ยของซูฉางเซิงก่อนจากไปใช่หรือไม่ ? ”
ประโยคนี้นางหมายถึงเรื่องที่ซูฉางเซิงเอ่ยเกี่ยวกับชั้นสิบแปดของหอเทียนจีกับฟู่เสี่ยวกวนก่อนที่เขาจะสิ้นใจ เขาเอ่ยไว้อย่างคลุมเครือ จึงทำให้ฟู่เสี่ยวกวนจำมันได้จนขึ้นใจ
ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้า “ข้ารู้สึกประหลาดใจมากยิ่งนัก”
“มิต้องค้นหาความจริงได้หรือไม่ ? ”
“เสด็จแม่…ท่านรู้ใช่หรือไม่ว่าในนั้นมีสิ่งใดซ่อนอยู่ ? ”
สวี่หยุนชิงโน้มตัวลงมา สีหน้าของนางดูจริงจังมากยิ่งนัก “แม่ได้เดินทางออกจากพระราชวังไปอยู่ที่สำนักเต๋าเป็นเวลา 5 เดือนเต็ม ! ”
“และในห้าเดือนนี้ แม่ได้อ่านหนังสือในสำนักเต๋าจนครบทุกเล่ม จึงพบถึงเรื่องผิดปกติบางอย่าง”
ฟู่เสี่ยวกวนชะงักงันขึ้นมาทันใด “เสด็จแม่เล่ามาเถิด”
“หอเทียนจีก่อตั้งขึ้นตั้งแต่พันปีก่อน แรกเริ่มนั้นมีหอเทียนจีก่อนจะมีจักรวรรดิต้าหลีเลยด้วยซ้ำ ! ”
“จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิต้าหลีตัดสินใจเลือกเมืองหลวงไว้ที่เมืองกวนหยุน และชื่อกวนหยุนก็มิเคยเปลี่ยนแปลงไปเป็นเวลาพันปีมาแล้ว”
“ทว่าความเป็นจริงประวัติศาสตร์เมื่อหนึ่งพันปีก่อนช่างคลุมเครือมากยิ่งนัก แต่มีอยู่สองสิ่งที่แน่นอนก็คือ เมื่อมีหอเทียนจีต่อมาจึงมีกวนหยุนถาย ขณะเดียวกันก็มีสำนักเต๋า… สำนักเต๋าก่อตั้งมานานกว่าพันปี ! เมื่อมีสำนักเต๋าจึงมีเมืองจินหลิง ! ”
“เมืองจินหลิงถูกก่อตั้งขึ้นโดยราชวงศ์ต้าโจว ! ”
“ในตอนนั้น พื้นที่กว้างขวางใหญ่โตนี้มีชนเผ่ามากมาย ทว่ามิได้มีขอบเขตกว้างขวาง มีเพียงจักรวรรดิต้าหลีและต้าโจวที่ก่อตั้งขึ้นสำเร็จ พวกเขาปกครองทุกเผ่าในเหนือใต้ กลายมาเป็นสองประเทศที่มีอำนาจมากที่สุด”
“ทั้งสองแห่งนั้นเป็นประเทศแรก ๆ ที่ก่อตั้งขึ้นมาที่นี่”
“แต่หลังจากที่พวกเขาได้รวมตัวกันเป็นหนึ่ง หอเทียนจีก็ได้ประจักษ์ต่อสายตาของผู้คนทั่วหล้าและได้รับสมญานามว่าเป็นสายลับเลื่องชื่อ ส่วนก่อนหน้านี้ที่จักรวรรดิต้าหลีก่อตั้งขึ้น หอเทียนจีมีบทบาทเยี่ยงไร และก่อนหน้านั้นผู้ใดคือหัวหน้าของหอเทียนจีก็มิมีผู้ใดล่วงรู้”
ฟู่เสี่ยวกวนรู้สึกประหลาดใจและแปลกใจมากยิ่งนัก เขาเบิกตากว้างแล้วเอ่ยถามอย่างเหลือเชื่อว่า “มีประโยคเช่นนี้อยู่จริง ๆ หรือ ? ”
สวี่หยุนชิงหยิบกระดาษที่ทำจากหนังแกะออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วยื่นให้กับฟู่เสี่ยวกวน นางถามกลับด้วยความแปลกใจว่า “เจ้าควรจะถามว่าประโยคนี้หมายถึงสิ่งใดมิใช่หรือ ? เจ้าเข้าใจความหมายมันเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
ฟู่เสี่ยวกวนรับแผ่นหนังแกะนั้นมา เขาพึมพำกับตนเองว่า “ความสงสัยอาจทำให้แมวตายได้ ! ”
หมายความว่าเคยมีคนข้ามมายังโลกใบนี้
ว่าแต่เขามาได้เยี่ยงไรกัน ?
ภายใต้ผืนปฐพีที่กว้างใหญ่กลับมีภาษาและตัวอักษรแบบเดียวกัน คาดว่าคงเป็นเขาที่ให้การเผยแพร่
วัฒนธรรมในใต้หล้านี้…เขามิได้ทำสิ่งใดที่มีอิทธิพลต่อความก้าวหน้าด้านอารยธรรมโลกจนมากเกินไป เขาเพียงแค่สนับสนุนจักรวรรดิต้าหลี หรือบางทีอาจจะสนับสนุนราชวงศ์ต้าโจว
ที่กวนหยุนถายมีโต๊ะหมากรุกซึ่งมีประวัติอันยาวนาน หรือบางทีเขาอาจจะมิได้มาคนเดียว แต่มากันสองคน
แล้วจุดจบของเขาเป็นเยี่ยงไรกัน ?
ฟู่เสี่ยวกวนอ่านข้อความลับบนแผ่นหนังแกะซ้ำไปซ้ำมา ทันใดนั้นเขาก็ได้ล้มเลิกความคิดที่จะออกรบในทะเลไปจนสิ้น เขาต้องการที่จะกลับไปยังกวนหยุนถาย และเข้าไปยังชั้นสิบแปดของหอเทียนจีเพื่อสำรวจดู
คาดว่าในนั้นคงมีบันทึกที่พวกเขาได้ทิ้งเอาไว้ มิรู้ว่าพวกเขาเดินทางมาตั้งแต่สมัยใด มิรู้ว่าพวกเขาทำอันใดกับใต้หล้านี้บ้าง
สวี่หยุนชิงจ้องมองฟู่เสี่ยวกวนมิลดละ จากนั้นนางก็เอ่ยถามขึ้นมาว่า “สำนักเต๋ามักจะสอนว่า สวรรค์ได้คัดเลือกคนเอาไว้แล้ว คาดว่าคงจะเป็นเรื่องจริง ซูฉางเซิงเคยเอ่ยไว้ว่าเจ้าคือผู้ที่สวรรค์ลิขิต มองดูแล้วก็เป็นจริงดังนั้น”
“ดังนั้น สุดท้ายแล้วข้าถือเป็นแม่ของเจ้าหรือไม่ ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)