นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1153

สรุปบท ตอนที่ 1153 เป้าหมายคือเมืองเทียนเย่า: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1153 เป้าหมายคือเมืองเทียนเย่า – นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet

บท ตอนที่ 1153 เป้าหมายคือเมืองเทียนเย่า ของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ในหมวดนิยายทะลุมิติ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 1153 เป้าหมายคือเมืองเทียนเย่า

ณ พระราชวังแคว้นซูเฟิง

จักรพรรดิซูลี่จ้องมองไปยังราชทูตของตนด้วยสายตาประหลาดใจ จากนั้นก็เอ่ยถามด้วยความมิอยากจะเชื่อว่า “เจ้าว่าเยี่ยงไรนะ ? กองทัพต้าเซี่ยกำจัดพวกฝูหล่างจีจนสูญสิ้นแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“ทูลฝ่าบาท…จริงแท้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ! ” ราชทูตโค้งตัวลงคารวะ จากนั้นก็เอ่ยต่อด้วยสีหน้าหนักแน่น “กระหม่อมได้ยินมาว่ากองทัพของต้าเซี่ยมีเพียงแค่ 2,000 นาย ทว่าสามารถกำจัดกองทัพของฝูหล่างจีที่มีกำลังพลกว่าหมื่นนายได้ ! กำลังรบของพวกเขานั้นแข็งแกร่งมากยิ่งนัก กองทัพของแคว้นเรามิอาจเคียงเทียบได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”

“พวกเขามาจากที่ใดกัน ? ”

“ทูลฝ่าบาท พวกเขานั่งเรือรบขนาดใหญ่โตมโหฬารมาจากดินแดนเทพทางตะวันออกพ่ะย่ะค่ะ ! ”

ดินแดนเทพทางตะวันออก…มันตั้งอยู่ที่ใดกัน ?

ฟังดูแล้วเหมือนเป็นสถานที่ที่มีแต่เหล่าทวยเทพอยู่อาศัย หรือเทพเจ้าจะส่งพวกเขามากัน ?

ซูลี่อ้าปากค้างด้วยความตะลึง ระหว่างคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น จากนั้นก็ถามต่อว่า “ต้าเซี่ยได้กำจัดแคว้นซ่างหลัวด้วยหรือไม่ ? ”

ราชทูตส่ายศีรษะแล้วตอบกลับว่า “มิเพียงแต่มิกำจัดเท่านั้น แคว้นซ่างหลัวได้ถวายตัวสวามิภักดิ์ ลือกันว่าทั้งสองแคว้นได้ลงนามในสาสน์ตราตั้งร่วมกันหลายฉบับ ต้าเซี่ยจะคอยคุ้มกันความปลอดภัยให้แก่ซ่างหลัว ทั้งยังเปิดเส้นทางการเดินเรือที่เชื่อมต่อระหว่างต้าเซี่ยและซ่างหลัวอีกด้วย อ้อ…จริงสิ ! ฝ่าบาทแคว้นซ่างหลัวจะเปลี่ยนมาใช้เงินตราแบบเดียวกันกับต้าเซี่ย นโยบายการบริหารประเทศและการค้าก็จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับต้าเซี่ยทั้งหมด”

ซูลี่เอามือไพล่หลังแล้วแหงนศีรษะขึ้น เขาสูดหายใจเข้าลึก จากนั้นก็เดินวกไปวนมาอยู่ในห้อง

ทุกสิ่งที่ราชทูตเอ่ยมานั้นล้วนแต่เป็นเรื่องสำคัญ แคว้นซ่างหลัวกลายเป็นอาณานิคมของต้าเซี่ยอย่างเป็นทางการแล้ว ต้าเซี่ยมีกองทัพที่แข็งแกร่ง มีศักยภาพด้านเศรษฐกิจที่โดดเด่น นี่หมายความว่าหลังจากนี้ตนจะมิสามารถเข้าไปรุกรานแคว้นซ่างหลัวได้อีกต่อไปแล้ว หากยังดื้อดึงอาจจะเป็นการจุดไฟเผาตนเอง !

แคว้นซ่างหลัวเป็นแคว้นที่ยากจน ทว่าต้าเซี่ยกลับมิรังเกียจพวกเขาแม้แต่น้อย และดูเหมือนว่ามีเจตนาที่จะทำให้แคว้นซ่างหลัวผงาดบินขึ้นมา

เมื่อมิกี่วันก่อนตนเพิ่งจะปฏิเสธคำขอร้องจากราชครูแห่งแคว้นซ่างหลัว พลาดท่าเข้าแล้วสิ ! ผู้ใดจะไปรู้กันเล่าว่าที่นั่นจะมีกองทัพจากดินแดนเทพทางตะวันออกคอยหนุนหลังอยู่

ประเทศต้าเซี่ยเข้ามาในยามที่แคว้นซ่างหลัวตกอยู่ในสถานการณ์คับขันพอดี และดูเหมือนจะคอยจุนเจือให้ได้ดิบได้ดียิ่งขึ้นไปอีก !

หากสานสัมพันธ์กับแคว้นซ่างหลัวก็เท่ากับได้สานสัมพันธ์กับประเทศต้าเซี่ยด้วย เมื่อมีต้าเซี่ยคอยเกื้อหนุนอยู่เบื้องหลัง แคว้นซูเฟิงย่อมสามารถดำรงอยู่บนแผ่นดินใหญ่ลีอาห์ได้โดยที่มิต้องกังวลว่าแคว้นเทียนเย่าจะรุกรานเข้ามา นับวันแคว้นเทียนเย่าก็เริ่มทวีความแข็งแกร่งมากขึ้นทุกวัน

แน่นอนว่าหากแคว้นซูเฟิงสามารถสานสัมพันธ์กับประเทศต้าเซี่ยได้โดยตรงนั้น… มิได้ ! ต้าเซี่ยยิ่งใหญ่จนเกินไป พวกเขาจะต้องเรียกร้องให้แคว้นซูเฟิงกลายเป็นอาณานิคมของพวกเขาเช่นกัน นี่ย่อมมิใช่เรื่องดี

ดังนั้นเข้าหาแคว้นซ่างหลัวจะดีกว่า แสดงความจริงใจให้แคว้นซ่างหลัวเห็น หากวันใดวันหนึ่งแคว้นเทียนเย่าบุกรุกเข้ามา ตนจะได้ขอความช่วยเหลือจากแคว้นซ่างหลัว จากนั้นก็ให้แคว้นซ่างหลัวไปร้องขอประเทศต้าเซี่ยอีกทอดหนึ่ง นี่เท่ากับว่าได้กองกำลังของต้าเซี่ยมาช่วยปราบปรามผู้รุกรานแล้วมิใช่หรือ

เมื่อซูลี่ตริตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาก็หันหน้าไปหาราชทูตทันที “เจ้าจงส่งคณะทูตไปที่แคว้นซ่างหลัว จงไปแสดงความเคารพต่อแคว้นซ่างหลัวในนามของข้าและจงขอโทษกับการที่ซูเฟิงมิได้ส่งทหารไปช่วยเหลือโดยชี้แจงเหตุผลให้ชัดเจนว่า…มิใช่เพราะแคว้นซูเฟิงมิอยากส่งทหารไปสมทบ ทว่าเป็นเพราะแคว้นเทียนเย่าได้ส่งกองทัพ 100,000 นายมาประชิดทางเหนือ พวกเราก็กำลังเผชิญหน้ากับการรุกรานของแคว้นเทียนเย่าอยู่เช่นกัน จึงเป็นเหตุให้มิอาจส่งทหารเข้าไปช่วยเหลือได้ ! ”

“ถ้าหากได้พบจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ย ก็ให้เชิญเขามาเยือนแคว้นซูเฟิงด้วยมิตรไมตรี ข้า…จะให้การต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ ! ”

“อีกอย่าง…เจ้าจงนำสิ่งของไปมอบให้แก่ราชครูแห่งแคว้นซ่างหลัวและจงเอ่ยวาจากับเขาอย่างจริงใจ โค้งตัวให้ต่ำให้ดูนอบน้อมเข้าไว้ เพราะแคว้นซ่างหลัว…มิใช่แคว้นที่ไร้ตัวตนเฉกเช่นในอดีตอีกต่อไป จงจำเอาไว้ให้ดี ! ”

“กระหม่อม น้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ ! ” ราชทูตหันหลังเดินจากไป วันรุ่งขึ้นคณะทูตแห่งแคว้นซูเฟิงได้ออกเดินทางพร้อมกับของขวัญชิ้นงาม เพื่อมุ่งหน้าไปยังแคว้นซ่างหลัวอย่างเอิกเกริก

ในวันเดียวกันนั้น เฮ้อซานเตาได้นำทหารนาวิกโยธินจำนวน 3,000 นายมาถึงแนวชายแดนของแคว้นเทียนเย่า

คนที่คอยนำทางเป็นทหารสายลับของแคว้นซ่างหลัว ระหว่างพวกเขามิมีล่ามคอยอยู่ช่วยสื่อสาร

เฮ้อซานเตามิได้ต้องการล่ามแต่อย่างใด เขาต้องการเพียงแค่หาแคว้นเทียนเย่าให้พบ ขอเพียงแค่รู้ว่าเมืองหลวงของแคว้นเทียนเย่าตั้งอยู่ที่ใด เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว

สิ่งที่เขานำมาให้กับแคว้นเทียนเย่ามิใช่สันติภาพ ทว่าเป็นสงคราม !

ทหารนาวิกโยธินทั้งสามพันนายที่ติดตั้งอาวุธพร้อมสรรพได้ย่างก้าวเข้าไปในอาณาเขตของแคว้นเทียนเย่าอย่างโจ่งแจ้ง พวกเขาเหาะเหินบนน่านฟ้าในถิ่นของศัตรูอย่างกำเริบเสิบสาน

ราษฎรของแคว้นเทียนเย่ามิเคยเห็นกองทัพเยี่ยงนี้มาก่อน !

การเผชิญหน้าครานี้จึงเริ่มต้นขึ้นโดยที่มิมีฝ่ายใดสังหรณ์ใจมาก่อน ทหารนาวิกโยธินมิได้ใช้ปืนในการต่อสู้ พวกเขาล้วนเป็นผู้มีฝีมือระดับสูง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทหารระดับปลายแถวเช่นนี้มิจำเป็นต้องใช้ปืนเลยสักนิด

“ชริ้ง ๆ ๆ ๆ ๆ…” เสียงดาบถูกดึงออกมาจากฝักดังขึ้นมาติด ๆ กัน

“เคร้ง ๆ ๆ ๆ…” เสียงดาบดังขึ้นเป็นระยะ

“ตุบ ๆ ๆ ๆ…” ศีรษะของทหารร่วงลงจนนับมิถ้วน

ในตอนนั้นเองเสียงกรีดร้องของความหวาดผวาของทหารรักษาการณ์ก็ดังขึ้นมา พวกเขาแผดร้องอย่างสิ้นหวัง เพียงปะทะกันรอบแรกก็ทำให้ทหารรักษาการณ์ 5,000 นายตกตายไปมากกว่าครึ่ง !

ทหารอีกที่เหลือมิรู้จะงัดเอาความกล้าหาญจากที่ใดมาต่อสู้อีกแล้ว !

แม้แต่ผู้รักษาการณ์เมืองโดโรก็ตื่นตกใจจนฉี่ราดและเผ่นหนีไปแล้ว !

เขาหนีไปอย่างรวดเร็วจนฝุ่นตลบ !

มิกล้าแม้แต่จะหันหลังกลับไปมอง !

ศัตรูสวมชุดเกราะสีเงินพร้อมกับสวมหมวกอย่างแน่นหนา แม้แต่หน้าก็มองมิชัด ท่าทางโหดเหี้ยมปานยมทูต และพวกเขาก็ยังเหาะเหินเดินอากาศได้อีกด้วย !

ศึกครานี้จบลงอย่างรวดเร็ว เฮ้อซานเตามิได้ตามไล่ล่าสังหารพวกเขาต่อ ทหารเหล่านั้นมีค่าอันใดให้ตามล่ากัน ? พวกเขามิใช่ทองสักหน่อย !

ทหารนาวิกโยธินเก็บดาบของตนเองใส่ฝักดังเดิม ราษฎรที่มามุงดูยังคงนิ่งค้างอยู่กับที่ บัดนี้หัวสมองของพวกเขาเต็มไปด้วยความว่างเปล่า

ขณะที่พวกเขากำลังจ้องมองด้วยความตกตะลึงอยู่นั้น กองทัพที่ชวนพิศวงก็ได้เหินขึ้นไปบนท้องนภาแล้วหายไปต่อหน้าต่อตาของพวกเขา เหลือทิ้งไว้เพียง…ซากศพที่นอนเกลื่อนกลาดกับโลหิตสีแดงฉานที่เจิ่งนองไปทั่วบริเวณ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)