นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1157

สรุปบท ตอนที่ 1157 ข้ามีนามว่าเฮ้อซานเตา ข้ามาดี!: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

สรุปตอน ตอนที่ 1157 ข้ามีนามว่าเฮ้อซานเตา ข้ามาดี! – จากเรื่อง นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet

ตอน ตอนที่ 1157 ข้ามีนามว่าเฮ้อซานเตา ข้ามาดี! ของนิยายทะลุมิติเรื่องดัง นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 1157 ข้ามีนามว่าเฮ้อซานเตา ข้ามาดี!

เมืองใหญ่ตั้งตระหง่านสูงเด่นอยู่ด้านหน้าเฮ้อซานเตาและทหารนาวิกโยธิน

เฮ้อซานเตาหยุดฝีเท้าอยู่ห่างจากกำแพงเมือง 30 จั้ง ทหารนาวิกโยธิน 3,000 นายที่ตามมาด้านหลังก็หยุดฝีเท้าลงเช่นกัน

ชุดเกราะสีเงินยังคงดูสะดุดตาท่ามกลางพายุหิมะที่หนาวเหน็บ สิ่งนี้ทำให้อัลฮานและทหารรักษาการณ์ที่ประจำอยู่บนกำแพงเมืองรับรู้ถึงการมาเยือนของศัตรู

ท่ามกลางความเวิ้งว้างนี้ กองทัพทั้งสามพันนายดูมิได้ใหญ่โตมากนัก ในสายตาของทหารรักษาการณ์ กองทัพของพวกเขาดูเล็กกะจ่อยร่อย ทว่าในสายตาของทหารเทียนเย่า 30,000 นายที่พ่ายแพ้กลับมานั้น พวกเขาเป็นดั่งปิศาจที่ดุร้าย !

เป็นดั่งฝันร้ายที่ชวนขนหัวลุกแม้ในยามตื่น !

ทหารเทียนเย่าได้เผชิญหน้ากับกองทัพต้าเซี่ยมาแล้ว พวกเขารับรู้ถึงความร้ายกาจของทหารต้าเซี่ยได้เป็นอย่างดี เมื่อฟาดดาบไปกระทบบ่าของพวกเขา นอกจากเสียงเหล็กกระทบกันดังสนั่นแล้ว ก็มิมีร่องรอยของบาดแผลเลยสักนิด

กลับกันเมื่อฝ่ายตรงข้ามฟาดดาบกลับมา เพียงครู่เดียวดาบก็ได้กระชากวิญญาณของทหารไปเป็นโขยง !

ฝีมือของพวกเขามิธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้อีกต่างหาก !

“ท่านแม่ทัพจงระวัง พวกมันบินได้ขอรับ ! ” นายทหารประจำกองทัพเทียนเย่านายหนึ่งเอ่ยเตือน เมื่ออัลฮานได้ยินดังนั้นถึงกับผงะ จากนั้นก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “บินได้เยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“ใช่ขอรับ ! พวกมันบินได้จริง ๆ ! ”

ความสับสนของอัลฮานทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น พวกมันเป็นมนุษย์เหมือนเราใช่หรือไม่ ?

บนร่างกายของพวกมันก็มิเห็นจะมีปีกเลยนี่ แล้วพวกมันจะบินได้เยี่ยงไรกัน ?

หรือว่า…พวกมันจะเป็นปิศาจจริง ๆ ?

“จะรับมือกับพวกมันเยี่ยงไรดี ? ”

นายทหารผู้นั้นครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็ส่ายศีรษะช้า ๆ เขามิได้ปริปากเอ่ยสิ่งใดออกมา เพียงเดินจากไปอย่างเงียบเชียบ

จะรับมือกับพวกมันเยี่ยงไรน่ะหรือ ?

มิมีวิธีใดที่จะรับมือกับพวกมันได้ทั้งนั้น !

เมืองเทียนเย่า…ย่อมจะแตกพ่าย !

ในขณะเดียวกันนั้นเอง แม่ทัพเย่เฟิงก็ได้คุกเข่าอยู่เบื้องหน้าของจักรพรรดิเทียนเย่า เขาได้เอ่ยประโยคเดียวกันว่า “พวกมันเป็นปิศาจจากดินแดนเทพทางตะวันออก พวกมันสามารถบินได้พ่ะย่ะค่ะ ! ”

องค์จักรพรรดิถึงกับผงะ จากนั้นก็แย้มพระสรวลออกมา “เมื่อพ่ายแพ้ไปแล้ว ข้ามิอาจกล่าวโทษเจ้า ทว่าการที่เจ้าปล่อยข่าวลือเช่นนี้ถือเป็นความผิดของเจ้า ! ”

“เมื่อแพ้แล้วก็ต้องคิดหาเหตุผลว่าแพ้เพราะเหตุใด เหตุผลเช่นนี้มันมิสมจริงเท่าใดนัก ! มนุษย์ที่ใดสามารถบินได้กัน ? ข้ามีพระชนมพรรษาย่างเข้าสี่สิบสองในปีนี้แล้ว เจ้าคิดว่าข้าเป็นเด็กสามขวบหรือเยี่ยงไร ? ”

“หากเจ้าเหนื่อย หากเจ้ารู้สึกเจ็บปวดใจ ก็ไปผักผ่อนก่อนเถิด อีกประเดี๋ยวข้าจะออกไปดูสถานการณ์บนกำแพงเมือง ข้าอยากจะเห็นจริง ๆ ว่าพวกมันจะบินกันเยี่ยงไร ! ”

เย่เฟิงเงยหน้าขึ้น “ฝ่าบาท…วาจาของกระหม่อมนั้นล้วนเป็นความจริง ! พวกมัน…พวกมันบินได้จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ ! พระองค์ต้องรับสั่งให้ทหารรักษาการณ์ป้องกันอย่างแน่นหนาพ่ะย่ะค่ะ ! ”

“แล้วจะป้องกันเยี่ยงไร ? ”

เย่เฟิงนิ่งเงียบ เพราะเขาก็มิรู้เช่นกันว่าจะป้องกันเยี่ยงไร !

การยิงธนูดูเหมือนจะเป็นวิธีการป้องกันอย่างเดียวที่มี ทว่าปิศาจร้ายเหล่านั้นมันฟันแทงมิเข้า ลูกศรธนูมิสามารถสร้างบาดแผลอันใดให้กับพวกมันได้เลย

แล้วจะทำเยี่ยงไรดีล่ะ !

เย่เฟิงอับจนหนทาง ทั้งองค์จักรพรรดิและขุนนางต่างก็มิเชื่อคำบอกเล่าของเขาแม้แต่คนเดียว ความสิ้นหวังเอ่อล้นขึ้นมาเต็มสองตาของเย่เฟิง

คนเพียง 3,000 คนสามารถกำจัดแคว้นที่ถูกขนานนามว่าเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งที่สุดบนแผ่นดินใหญ่ได้ เอ่ยไปก็คงมิมีผู้ใดเชื่อ แต่เกรงว่ามันจะเกิดขึ้นจริง ๆ เสียแล้วสิ !

……

……

เฮ้อซานเตาหันไปมองเมืองเบื้องหน้าเพียงแค่ปราดเดียวเท่านั้น เมืองที่มีกำแพงสูงตระหง่านแห่งนี้ มิได้แตกต่างอันใดกับสตรีที่เปลื้องผ้าอยู่ในหอชุ่ยหงสำหรับเฮ้อซานเตา

“พี่น้องทั้งหลาย หยุดพักสักครู่เถิด ข้าให้เวลาพวกเจ้า 2 เค่อเท่านั้น วันนี้พวกเราจะเข้าไปกินมื้อกลางวันในพระราชวัง ! ”

“จงจำเอาไว้ว่า อย่าเอาแต่ราวีทหารหน้าโง่พวกนั้น พวกเราดั้นด้นมาถึงที่นี่เพื่ออันใดกัน ? ก็เพื่อแย่งชิงภูเขาทองคำสามลูกนั่นให้เป็นของเรามิใช่หรือ ? ”

“อีกประเดี๋ยว พวกเราเหินนภาไปยังพระราชวังเถิด จากนั้นก็โยนระเบิดลงเมื่อผ่านกำแพง เมื่อจับกุมจักรพรรดิแห่งแคว้นเทียนเย่า สมาชิกราชวงศ์ รวมถึงขุนนางทั้งหมดได้แล้ว ก็ถือว่าพวกเราได้รับชัยชนะแล้ว”

“จงระมัดระวังอย่าได้ถูกศัตรูจับแขวนคอเลยเชียว หากพวกเจ้าตกตายอยู่ที่นี่ก็เท่ากับได้นำพาความอดสูมาให้กองนาวิกโยธินของพวกเรา ! ”

เฮ้อซานเตาแผดเสียงตะโกนสั่งการอยู่ชั่วครู่ เหล่าทหารนาวิกโยธินหันไปมองเมืองเทียนเย่าด้วยสายตาเลอะเลือน

นี่มันเป็นเมืองที่ไหนกัน มันเป็นภูเขาทองคำชัด ๆ เลยนี่ !

บัดนี้พวกเขาได้บินเข้าไปในเมืองเรียบร้อยแล้ว พวกเขาบินอยู่เหนือหลังคาบ้านเรือนของชาวเมืองและมุ่งหน้าต่อไปโดยมิมีทีท่าว่าจะหยุด เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายของพวกเขาคือพระราชวัง !

กำแพงสูงที่ตั้งตระหง่านเกรียงไกรแห่งนี้เป็นเหมือนตัวตลกสำหรับทหารต้าเซี่ยทั้งสามพันนาย

ทหารและพลเรือนที่ประจำการอยู่บนกำแพงเมือง รวมถึงตนก็เป็นตัวตลกเช่นเดียวกัน

อัลฮานยกยิ้มเย้ยหยันขึ้นมาด้วยน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม แคว้นเทียนเย่า…ถึงคราอวสานแล้วสินะ !

อวสานด้วยน้ำมือของคนเพียงแค่ 3,000 คน !

แท้จริงแล้วต้าเซี่ย…เป็นเยี่ยงไรกันแน่ ?

ในพระราชวังเมืองเทียนเย่า จักรพรรดินำขบวนออกมาจากท้องพระโรง เขาต้องการไปดูสถาณการณ์สงครามบนกำแพงเมือง เขาอยากเห็นปิศาจที่บินได้ตามที่เย่เฟิงกล่าวอ้างด้วยสายตาของตนเอง ทว่าหลังจากนั้น ร่างของเขาก็ต้องสั่นเทิ้ม เขาและเสนาบดีทั้งหลายเงยหน้าขึ้นไปบนท้องนภาพลางอ้าปากค้างโดยมิสนว่าหิมะจะปลิวว่อนเข้าไปในปากหรือไม่

เย่เฟิงรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาอีกครา

เขามิได้สิ้นหวังเพราะจักรพรรดิมิเชื่อเขา ทว่าเขาสิ้นหวังที่มิอาจเอาชนะทหารเพียงแค่ 3,000 นายนี้ได้

พวกมันกำลังโจมตีเมืองเยี่ยงนั้นหรือ ?

ไม่สิ ! พวกมันจะเข้ามาจับตัวจักรพรรดิต่างหากเล่า !

จักรพรรดิแคว้นเทียนเย่าเงยหน้ามองผู้คนในชุดเกราะสีเงินที่บินอยู่เหนือท้องนภา สมองของเขาขาวโพลน บัดนี้เขาเชื่อแล้วว่าคนพวกนี้บินได้จริง ๆ !

มีเพียงองค์รักษ์ประจำตัวเขาเท่านั้นที่แผดเสียงสั่งการ “ป้องกันรถม้าพระที่นั่ง ! ปกป้ององค์เหนือหัวด้วยชีวิต ! ”

ทว่ากลับไร้ประโยชน์…

เฮ้อซานเตาลอยตัวลงมาจากท้องนภา จากนั้นก็พุ่งดาบออกไป ดาบยาวบั่นเข้าที่คอของเหล่าองค์รักษ์ประจำพระองค์

“ฉึก ฟึ่บ… ! ”

เสียงต่อสู้ดังสนั่นไปทั่วบริเวณ องค์รักษ์หลายคนถูกตัดขาดเป็นสองท่อน !

เฮ้อซานเตาถือดาบยาวที่เปื้อนโลหิตกระโดดไปหยุดอยู่เบื้องหน้าของจักรพรรดิเทียนเย่า เขายื่นมือออกไปตบบ่าของจักรพรรดิแล้วยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่

“ข้ามีนามว่าเฮ้อซานเตา ข้ามาดี ! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)