นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1224

สรุปบท ตอนที่ 1224 งานเลี้ยง: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

อ่านสรุป ตอนที่ 1224 งานเลี้ยง จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 1224 งานเลี้ยง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 1224 งานเลี้ยง

แสงไฟในตรอกปู๋เย้สว่างขึ้นมาอีกครา

แขนงของแม่น้ำซิ่วสุ่ยไหลผ่านใจกลางของตรอกที่ใหญ่โตมโหฬารนี้ ทั้งยังมีหอนางโลมขนาบข้างสองฝั่งของแม่น้ำ

หอนางโลมที่ใหญ่ที่สุดสามแห่งคือ หอหลิวหยุน กั๋วเซ่อเทียนเซียงและหยินเหอจิ่วเทียน ทั้งสามหอตั้งอยู่ในตรอกเดียวกัน ทั้งยังเป็นคู่แข่งของกันและกันอีกด้วย

หอหลิวหยุนและหยินเหอจิ่วเทียนตั้งอยู่ทางทิศใต้ของแม่น้ำซิ่วสุ่ย ส่วนกั๋วเซ่อเทียนเซียงตั้งอยู่ทางทิศเหนือของแม่น้ำซิ่วสุ่ย

ถัดไปจากกั๋วเซ่อเทียนเซียงอีกสองอาคาร มีหอนางโลมอีกหนึ่งแห่ง ซึ่งมีนามว่าเพียวเซียงหยวน

เพียวเซียงหยวนนั้นแตกต่างจากหอนางโลมที่อื่น ๆ เพราะเพียวเซียงหยวนถือเป็นเจ้าถิ่นเมืองว่อเฟิง และเถ้าแก่ของที่นี่ก็คือฟ่านสือหลินผู้มีชื่อเสียงโด่งดังประจำเมืองว่อเฟิงนั่นเอง

ปัจจุบันนี้เพียวเซียงหยวนได้ย้ายจากเขตว่อเฟิงมาที่นี่ เถ้าแก่ของเพียวเซียงหยวนถูกเปลี่ยนเป็นฟ่านเช่อบุตรชายคนโตของฟ่านสือหลิน

หลังจากที่ฟู่เสี่ยวกวนกลับไปยังเมืองกวนหยุนเพื่อขึ้นครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์อู๋ ผู้จัดการเฉียวฉู่หมิงจากลิ่วฝูจี้ จังกว่างหยวนบุตรชายคนโตของจังเหวินฮุยจากหอเสียงไท่ หวังฉาวเฟิงจากโรงงานทอผ้าจิ่นซิ่ว และฟ่านเช่อบุตรชายคนโตของฟ่านสือหลินต่างก็เดินทางไปอาศัยอยู่ที่เมืองกวนหยุนทั้งสิ้น

หลังจากที่สี่ตระกูลทรงอิทธิพลของเมืองว่อเฟิงในวันวานได้ผ่านการดิ้นรนพัฒนามานานหลายปี บางตระกูลก็ค่อย ๆเจริญก้าวหน้าจนทิ้งห่างตระกูลอื่น ๆ

เมื่อหวังฉาวเฟิงและจังชีเยวี่ยสมรสกัน ทั้งสองก็ได้ออกเดินทางไปทั่วทุกแห่งหน เขาใช้โม่โจวเป็นที่ตั้งรากฐานของตระกูล จากนั้นก็ขยายธุรกิจโรงงานทอผ้าของตระกูลจนครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งยังคว้าโอกาสในการขยายธุรกิจไปสู่เส้นทางสายไหมได้อีกด้วย ทำให้ผ้าไหมจากโรงงานจิ่นซิ่วถูกส่งออกไปยังตลาดของประเทศเพื่อนบ้าน

ทุกวันนี้ธุรกิจผ้าไหมของตระกูลซือหม่าแห่งหยิงชิวมีขนาดใหญ่ที่สุดแล้ว โรงงานจิ่นซิ่วเองก็ทำธุรกิจผ้าไหมเช่นกัน ทว่าใหญ่เป็นลำดับที่สอง

หวังฉาวเฟิงเพิ่งเดินทางกลับมาถึงเมืองกวนหยุนเมื่อวันที่ยี่สิบห้า เดือนสิบสอง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเดินทางไปยังแผ่นดินใหญ่ลีอาห์เพื่อก่อตั้งร้านค้าของโรงงานจิ่นซิ่วขึ้นมาในเมืองอาเรีย

เขาเพิ่งรู้ตอนที่กลับมายังเมืองกวนหยุนว่าองค์จักรพรรดิได้ย้ายเมืองหลวงไปยังเมืองฉางอันแล้ว !

นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่มากยิ่งนัก !

โดยเฉพาะพ่อค้าเยี่ยงเขา

เขารับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้มิทันการ เขาพาจังชีเยวี่ยและลูก ๆ ขึ้นรถไฟไปยังเมืองฉางอัน เพื่อกลับไปยังเมืองว่อเฟิงที่จากลาไปนานหลายปี

ไม่สิ ! ทุกวันนี้ที่นั่นกลายเป็นเขตว่อเฟิงไปแล้ว

เมืองว่อเฟิงที่คราหนึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดได้กลายมาเป็นเขตเล็ก ๆ ที่มิได้มีความสำคัญอันใดในเมืองฉางอัน !

บ้านเรือนของพวกเขายังคงตั้งอยู่ที่เดิม ร้านก็ยังตั้งอยู่ที่เดิม อีกทั้งการค้าที่เขตว่อเฟิงยังเจริญรุ่งเรืองกว่าเมืองว่อเฟิงในอดีตอีกด้วย แต่แล้วเยี่ยงไรเล่า ? เพราะมันมิสามารถเทียบเคียงกับเขตเมืองใหม่ได้เลย

มันยังเจริญรุ่งเรืองมิเท่าร้านรวงต่าง ๆ บนถนนจูเชว่หรืออาคารจินเฟิ่งบนถนนจินเฟิ่งเลยด้วยซ้ำ

หลายวันมานี้เขาได้เดินทางตระเวนไปทั่วทั้งเมืองฉางอัน ทำให้เขาได้เข้าใจว่าจำต้องเปิดร้านจิ่นซิ่วที่ถนนจินเฟิ่งหรือถ้าได้ร้านบนอาคารจินเฟิ่งก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก

เพราะสถานที่แห่งนั้นคือสัญลักษณ์ของถนนจินเฟิ่ง มันเป็นดั่งหน้าต่างที่เผยความสามารถของโรงงานทอผ้าจิ่นซิ่ว

เมื่อตัดสินใจดีแล้ว หวังฉาวเฟิงก็ได้บังเอิญพบกับคนรู้จักในเขตว่อเฟิง ซึ่งก็คือสหายที่เคยสรวลเสเฮฮาด้วยกันเมื่อสมัยก่อนนั่นเอง หลังจากนั้นก็ได้ทราบว่าพวกซือหม่าเทาก็อาศัยอยู่ในเมืองฉางอันเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงเขียนเทียบเชิญเพื่อนัดพบปะในวันที่สาม เดือนหนึ่ง ณ เพียวเซียงหยวนของฟ่านเช่อ

อาจเป็นเพราะการเฝ้ารอคอยที่จะได้พบเจอสหาย หวังฉาวเฟิงและจังชีเยวี่ยจึงเดินทางมาถึงก่อนใครเพื่อน ตอนที่คู่สามีภรรยาเดินทางมาถึง เพียวเซียงหยวนกำลังเปิดร้านพอดี

เมื่อสหายมาเยือนฟ่านเช่อจึงออกมาต้อนรับด้วยตนเอง จากนั้นก็พาทั้งคู่ไปยังห้องน้ำชาบริเวณสวนด้านหลัง

“ดูสิ ! พวกเราคงจะตื่นเต้นมากไปหน่อย นางโลมในหอของเจ้าคงยังมิตื่นจากการหลับใหลเป็นแน่”

ฟ่านเช่อหัวเราะเสียงดังลั่น “นางโลมในหอของข้านอนมิตื่นก็มิเป็นไรหรอก เเต่ว่า…มีคนรีบกว่าพวกเจ้าเสียอีก”

“ผู้ใดกัน ? ”

“เจ้าก็ดูเอาเองเถิด ! ”

ซือหม่าเทาเป็นน้องชายของพระสนมเช่อ การที่เขาสามารถเชิญขุนนางชั้นผู้ใหญ่ทั้งสองคนนี้มาได้ มิใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

ทุกคนรีบทำความเคารพอย่างลุกลี้ลุกลน ทำเอาเยี่ยนซีเหวินยิ้มร่าออกมา

“พวกเจ้าจะทำให้ดูห่างเหินไปเพื่ออันใดกัน ? จะว่าไปแล้วพวกเราก็มีอายุไล่เลี่ยกัน เป็นดั่งที่ฝ่าบาททรงตรัสเอาไว้ว่าพวกเราเพียงมีหน้าที่ที่ต้องทำมิเหมือนกันก็เท่านั้นเอง!”

“ธุรกิจของพวกเจ้าช่วยแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของราษฎรต้าเซี่ย ทั้งยังเสียภาษีให้กับประเทศจำนวนมหาศาล คราหนึ่งฝ่าบาททรงตรัสว่า พ่อค้าเยี่ยงพวกเจ้าหรือชาวนา ล้วนเป็นสิ่งที่ขุนนางเยี่ยงพวกเราต้องพึ่งพาเพื่อความอยู่รอด ! ”

“พระองค์ทรงตรัสว่าหากเอ่ยกันตามจริง ความเจริญรุ่งเรืองของต้าเซี่ยนั้นถูกสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของพวกเจ้าทั้งหลาย ความก้าวหน้าของต้าเซี่ยล้วนมาจากสองมือของพวกเจ้า ต้าเซี่ยเจริญมั่งคั่งได้อย่างทุกวันนี้เป็นเพราะผลประกอบการของพวกเจ้าทั้งหลาย”

“ส่วนพวกข้าที่เป็นขุนนาง…”

เยี่ยนซีเหวินยักไหล่ส่ายศีรษะพลางเลิกคิ้วขึ้น “ฝ่าบาททรงตรัสว่ามิมีประโยชน์อันใดสักอย่างเดียว ! ”

คำเอ่ยของเขาทำให้คนในห้องหัวเราะชอบใจ บรรยากาศที่ตึงเครียดก่อนหน้าพลันมีชีวิตชีวาขึ้นมา

“หากฝ่าบาททรงได้ยินท่านเสนาบดีเยี่ยนเอ่ย เกรงว่าพระองค์คงจะเล่นงานท่านเป็นแน่ ! ” หยูซิ๋งเจี่ยนเอ่ยติดตลก

“ข้ามิกลัวพระองค์มาได้ยินหรอก เพราะพระองค์ทรงตรัสเรื่องพวกนี้ออกมาด้วยตนเอง ข้ามิได้ยุให้รำ ตำให้รั่วสักหน่อย”

ฟ่านเช่อเชิญทั้งสองเข้ามานั่งที่โต๊ะชา เขาชงชาใหม่อีกหนึ่งกา ทุกคนได้นั่งล้อมรอบเยี่ยนซีเหวินและหนิงหยู่ชุนเอาไว้

เมื่อหนิงหยู่ชุนเห็นดังนั้นจึงยกยิ้มขึ้นแล้วเอ่ยว่า “พวกเจ้าควรสลัดความคิดเรื่องสถานะของขุนนางที่สืบทอดมากว่าพันปีออกไปได้แล้วนะ”

“สิ่งที่เยี่ยนซีเหวินเอ่ยเมื่อครู่นั้น ข้าสามารถเป็นพยานได้ว่าฝ่าบาททรงตรัสเช่นนั้นจริง ๆ เพราะฝ่าบาททรงตรัสว่าขุนนางทุกคนมิได้สร้างมูลค่าใด ๆ ให้แก่เศรษฐกิจทั้งสิ้น ส่วนพวกที่ไปแย่งชิงทรัพย์สินที่ต่างแดนนั้นเป็นอีกกรณีหนึ่ง”

“ดังนั้นขุนนางมีไว้ทำอันใดกัน ? แล้วความสัมพันธ์ระหว่างขุนนางกับพ่อค้า เกษตรกรและราษฎรทั่วทั้งใต้หล้าเป็นแบบใดกัน ? ”

หนิงหยู่ชุนนิ่งเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นก็เอ่ยต่อว่า “อีกประเดี๋ยวพวกเราค่อยมาถกหัวข้อนี้กัน บัดนี้พวกเราวางเรื่องนี้ไว้ข้างหลังก่อนมิต้องไปเอ่ยถึงมัน มาร่วมดื่มชาดื่มสุราด้วยกันก่อนเถิด ทุกคนเห็นด้วยหรือไม่ ? ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)