นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1226

สรุปบท ตอนที่ 1226 โรงสุราซื่อหยาง: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

ตอน ตอนที่ 1226 โรงสุราซื่อหยาง จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1226 โรงสุราซื่อหยาง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 1226 โรงสุราซื่อหยาง

มิมีผู้ใดรู้ว่าราตรีนั้นเยี่ยนซีเหวินกับหนิงหยู่ชุนสนทนาเรื่องอันใดกับลูกหลานตระกูลการค้ากลุ่มนั้นบ้าง

ทุกอย่างในต้าเซี่ยยังคงดำเนินไปตามปกติ มิว่าจะเป็นศูนย์กลางอำนาจสูงสุดของต้าเซี่ยเยี่ยงเมืองฉางอันหรือพื้นที่อื่น ๆ ก็ปราศจากการเปลี่ยนแปลงใด ๆ

พวกเขาต่างก็กำลังง่วนอยู่กับหน้าที่ของตนเอง

ว่าเเต่มีอันใดที่เปลี่ยนไปในช่วงนี้บ้างกัน ?

สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ…หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ต้าเซี่ยได้ตีพิมพ์แผนพัฒนาชุมชนและนโยบายสนับสนุนทุนทรัพย์ให้กับพื้นที่ยากจนเป็นต้น

วันหยุดยาวประจำปีได้หมดสิ้นลง ขุนนางกลับมายุ่งชุลมุนกันอีกครา พ่อค้าที่อาศัยอยู่ในเมืองฉางอันกลับมายุ่งกับการทำธุรกิจของตนเองเช่นกัน

ทางตะวันตกเฉียงเหนือของต้าเซี่ยเป็นที่ตั้งของเขตซื่อหยาง ฟู่เสี่ยวกวนเคยออกประพาสไปยังสถานที่แห่งนั้นอย่างลับ ๆ เมื่อนานมาแล้ว จึงทำให้เมืองซื่อหยางมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา ผนวกกับสถานที่แห่งนั้นเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ซื่อหยาง อีกทั้งยังมีการก่อสร้างโรงงานหลากหลายแห่งจึงทำให้สถานที่เเห่งนี้ค่อย ๆ เจริญขึ้นมา

ภายใต้การบริหารของนายอำเภอเจียงซ่าง เขตซื่อหยางจึงเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา อำเภอเล็ก ๆ ที่คราหนึ่งเคยรกร้างและห่างไกลได้กลายมาเป็นเมืองสำคัญริมชายแดนเสียแล้ว

เมืองซื่อหยางมีสถานีรถไฟแห่งแรกของต้าเซี่ย ทั้งยังมีทางรถไฟสายเเรกของต้าเซี่ยอีกด้วย

ที่นี่มีโรงงานอาหารกระป๋องที่ลงทุนก่อตั้งโดยบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) และที่นี่ยังมีบ่อน้ำมันขนาดมหึมาซึ่งขุดเจาะอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้

หยางฮวา เถ้าแก่เนี้ยแห่งโรงเตี้ยมซื่อหยางรู้สึกดีใจที่มิได้ขายโรงเตี๊ยมในปีนั้น เพราะบัดนี้กิจการโรงเตี้ยมที่เขตซื่อหยางค่อนข้างดี ทำให้นางได้รับกำไรเป็นกอบเป็นกำ ด้วยเหตุนี้นางจึงยิ้มมิหุบในแต่ละวัน

ขณะนี้หยางฮวานั่งอยู่ที่โต๊ะคิดเงิน นางหันไปมองสายฝนที่ตกโปรยปรายข้างนอก แม้ว่าหนาวเหน็บเพียงใดแต่สายตาของนางกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยประกายร้อนแรง

ปีใหม่ได้ผ่านพ้นไปแล้ว สภาพอากาศค่อย ๆ อบอุ่นขึ้น กิจการของโรงเตี้ยมของครากลับมาคึกคักอีกครา

แม้ว่าอากาศจะหนาวเย็นถึงเพียงนี้ ทว่าก็ยังมีแขกมาเข้าพักบ้างประปราย มิเหมือนกับแต่ก่อนที่มิมีแขกมาเข้าพักตั้งแต่ต้นปียันปลายปี

“เถ้าแก่เนี้ย” แขกคนหนึ่งเดินออกมาจากสวนด้านหลัง จากนั้นก็เข้ามานั่งในห้องโถง “ขออาหารเช้าสักชุดสิ เจ้าช่างตระหนี่เสียจริง อากาศหนาวเย็นถึงเพียงนี้ก็ยังมิยอมจุดเตาผิงอีก”

เขาถูมือสองข้างแรง ๆ แล้วหันไปยิ้มให้กับหยางฮวา “บัดนี้ราคาถ่านหินราคาถูกลงมากโข คุ้มค่ากว่าถ่านไม้เป็นไหน ๆ วันนี้มีฝนตกข้าขี้เกียจออกไปข้างนอกอย่างแท้จริง ไปเรียกเสี่ยวเอ้อมาจุดเตาผิงสิ ข้าจะได้ชงชาพลางชมทิวทัศน์ท่ามกลางสายฝนไปพลาง ๆ ”

“เจ้าค่ะ ๆ ๆ บ่าวจะสั่งให้เสี่ยวเอ้อมาจุดเตาผิงประเดี๋ยวนี้แหละเจ้าค่ะ ”

หยางฮวาหันไปสั่งการเสี่ยวเอ้อที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็หันกลับมาสนทนากับแขก “ท่านมิกลับไปฉลองปีใหม่กับครอบครัวหรือเจ้าคะ เช่นนั้นท่านต้องมีธุรกิจใหญ่โตเป็นแน่ ท่านมาจากที่ใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“ธุรกิจใหญ่โตอันใดกันเล่า คนที่มีธุรกิจใหญ่โตล้วนกลับไปฉลองวันปีใหม่กันทั้งนั้นแหละ ! ”

แขกคนนั้นถอนหายใจยาวออกมา พลางเอ่ยว่า “บัดนี้ทางรถไฟได้เชื่อมหากันทั้งหมดแล้ว จากเขตซื่อหยางไปยังเมืองกวนหยุนใช้เวลาเพียงแค่สามวันสามคืนเท่านั้น ถ้าหากไปเมืองฉางอันก็ต้องนั่งเรือจากเมืองเจียงเฉิงไปยังจินหลิง แล้วค่อยนั่งรถไฟจากจินหลิงไปยังฉางอัน ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น”

“ปีที่แล้วข้าหาเงินได้มิมากเลยมิกล้าบากหน้ากลับบ้านน่ะ ปีนี้คงต้องคิดหาวิธีทำเงินให้ได้มากกว่าเดิมเเล้วสิ”

“ท่านทำธุรกิจใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ” หยางฮวาผงะเล็กน้อย

“ข้ามาถึงเขตซื่อหยางเมื่อปลายปีที่แล้ว กำลังคิดว่าจะเปิดโรงสุราที่นี่”

“โรงสุราเยี่ยงนั้นหรือ ? ” หยางฮวาทำท่าครุ่นคิด สายตาของนางเป็นประกายวาววับขึ้นมาทันใด “นี่เป็นความคิดที่มิเลวเลยเจ้าค่ะ ทว่าเขตซื่อหยางมีโรงสุราอยู่เเล้วหลายเเห่ง ท่านต้องทำโรงสุราให้มีจุดขายเฉพาะตัวถึงจะสามารถดึงดูดลูกค้าเข้าร้านได้”

“ใกล้ ๆ กับศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์มีโรงกลั่นน้ำมันอยู่หนึ่งเเห่ง อีกทั้งยังมีทหารประจำการอยู่ที่นั่นมากมาย เมื่อมีวันหยุด…พวกเขาก็จะพากันมาในเมืองซื่อหยาง อีกอย่างเมื่อถึงเดือนสาม พ่อค้าจากแต่ละแห่งหนก็จะหลั่งไหลมาที่นี่จำนวนมาก แขกน่ะมีเยอะอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับท่านว่าจะทำโรงสุราเยี่ยงไรให้น่าสนใจ”

เสี่ยวเอ้อยกเตาผิงมาวางไว้ข้างกายของแขกคนนั้น จากนั้นก็ยกข้าวมาหนึ่งชามกับเครื่องเคียงสองจานและไข่ต้มหนึ่งฟอง

เขายิ้มแย้มพลางปอกไข่ “ข้าคิดเพียงเเค่ว่าจะเปิดโรงสุราสักแห่งไว้เป็นสถานที่สำหรับดื่มสุรา สนทนาทางธุรกิจหรือเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ข้ามิไปแข่งกับโรงสุราพวกนั้นหรอก แข่งเยี่ยงไรก็เอาชนะพวกเขามิได้”

“เช่นนั้นสุราของท่านต้องเป็นสุราที่ยอดเยี่ยม ท่านต้องตกแต่งร้านให้ดูดีสักหน่อย หาทำเลที่ตั้งได้แล้วหรือยังเล่า ? ”

“หาได้แล้ว อยู่ถัดจากโรงเตี๊ยมของเจ้าไปสามร้านเท่านั้น”

“พี่ชาย…หากจะทำธุรกิจร่วมกันก็จำต้องแจกแจงบัญชีให้ละเอียด ข้าคิดเช่นนี้…พี่ชายมิรู้จักข้าเลยด้วยซ้ำ ท่านมิกลัวว่าข้าจะโกงเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

เหว่ยชังลูบเครายาวพร้อมกับส่ายศีรษะ “ข้ารู้ว่าเจ้ามิใช่คนแบบนั้นตั้งแต่แรกเห็น ข้าเดินทางไปทั่วทั้งต้าเซี่ยเคยพบเจอผู้คนมาหลายรูปแบบ ทว่าข้ามิเคยพบเจอคนเยี่ยงเจ้ามาก่อน”

“มิทราบว่าน้องเฉินวางแผนลงทุนเท่าใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“…หากรวมกับเงินค่าเช่า รวมทั้งเงินค่าตกแต่ง และเงินทุนซื้อสุราและอื่น ๆ ข้าเคยคำนวณคร่าว ๆ แล้ว คาดว่าน่าจะใช้ราว 2,000 ตำลึง”

เหว่ยชังหยิบตั๋วเงินสองใบออกมาจากกระเป๋า เขาทำท่าครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็หยิบตั๋วเงินออกมาอีกสองใบวางลงตรงหน้าของเฉินจิ่ง “ข้าให้ 4,000 ตำลึง ส่วนเจ้าลงทุนแค่ 1,000 ตำลึงก็พอ ส่วนแบ่งระหว่างข้ากับเจ้าก็ให้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ทว่าข้ามีคำขอหนึ่ง”

เฉินจิ่งตาลุกวาวขึ้นมาทันใด นี่มันเศรษฐีนี่ !

จะเอ่ยว่าเป็นมหาเศรษฐีก็ยังได้ !

“ท่านพี่จงเอ่ยมาเถิด”

“ข้าต้องการห้องที่ตั้งอยู่อย่างปลีกวิเวกและเงียบสงบ ห้องนี้มิอนุญาตให้ลูกค้าคนใดเข้ามา ข้ามีสิทธิเข้าไปได้คนเดียวเท่านั้น”

นี่ย่อมมิใช่ปัญหา เพราะปกติสวนด้านหลังก็มักจะเป็นห้องที่ปลีกวิเวกจากส่วนอื่นอยู่แล้ว อีกทั้งตนก็มิได้ใช้งานอีกด้วย หากตกแต่งสักหน่อยก็น่าจะพออยู่ได้ !

“ในเมื่อท่านพี่เชื่อใจเฉินจิ่ง ข้าจะไปร่างสัญญาประเดี๋ยวนี้แล้วพวกเราค่อยมาทำข้อตกลงกัน ข้าเฉินจิ่งขอรับประกันว่าท่านจะได้กำไรจากการลงทุนครานี้อย่างแน่นอน ! ”

“ได้สิ ! เจ้าเก็บตั๋วเงินนี่เสียเถิด กินข้าวเสร็จแล้วค่อยไปทำ”

หยางฮวาเหลือบมองเหว่ยชังพลันรู้สึกว่าชายผู้นี้มีมาดของเศรษฐี ดูมีการศึกษา อาศัยอยู่ชั้นบนของห้องตน ทุกวันเขาแทบจะมิเผยโฉมออกมาข้างนอกเลยด้วยซ้ำ ช่างดูลึกลับเสียจริง แต่กลับร่ำรวยมหาศาล !

เขามีเงินมากมายถึงเพียงนี้ ทว่ากลับเดินทางมาคนเดียว เช่นนี้คงจะอ้างว้างน่าดู หรือข้าจะเข้าไปยั่วยวนเขาสักหน่อยดี ?

หยางฮวาเลียริมฝีปากแล้วเริ่มคิดวางแผนทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)