ตอนที่ 1316 ต่อต้าน
ราตรีนั้น พระราชวังเมืองกวนหยุนมีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ขึ้นมา
จักรพรรดิต้าเซี่ย ได้เตรียมโต๊ะสำหรับจัดเลี้ยงทั้งสิ้นสิบกว่าโต๊ะ เพื่อเชื้อเชิญเสนาบดีเก่าแก่สมัยราชวงศ์อู๋มาร่วมงาม
แน่นอนว่าเหตุการณ์ครานี้เป็นที่กล่าวถึงในเมืองกวนหยุน และชื่อเสียงภาพลักษณ์ของอู๋เทียนซื่อในคราบจักรพรรดิผู้ทรงเมตตาก็ได้โด่งดังขึ้นมาในที่สุด
เหมือนว่าตอนนี้นี่เองที่ผู้คนได้หันเหสายตาจากฟู่เสี่ยวกวนมาสนใจจักรพรรดิพระองค์ใหม่จริง ๆ เพิ่งได้รู้ว่าจักรพรรดิผู้ซึ่งมีพระชนมพรรษาแค่ 14 พรรษาก็เป็นจักรพรรดิที่รักและห่วงใยราษฎรเช่นกัน
นี่เป็นเรื่องดีเหลือหลาย
หมายความว่านโยบายของต้าเซี่ยยังมิเปลี่ยนเเปลง หมายความว่าจักรพรรดิผู้ทรงเมตตาจะเสด็จดำเนินตามหนทางของจักรพรรดิเทียนเต๋อต่อไป
หิมะที่ตกลงมาอย่างเเน่นหนา มิได้ทำให้เมืองกวนหยุนหนาวเหน็บมากขึ้นกว่าเดิม แต่มันกลับตรงกันข้าม เพราะการเสด็จมาเยือนของฝ่าบาท เพราะงานเลี้ยงที่มีผู้ร่วมงานนับร้อยครานั้น ได้ทำให้เมืองกวนหยุนอบอุ่นมากขึ้นกว่าเดิม
ความอบอุ่นเช่นนี้คือสิ่งที่ชาวเมืองกวนหยุนถวิลหา และเป็นสิ่งที่อู๋เทียนซื่อต้องการเช่นเดียวกัน
……
ท่ามกลางพายุหิมะ ดอกเหมยในสวนยังคงเบ่งบาน
อู๋เทียนซื่อที่กำลังยืนชมหิมะอยู่ในศาลารู้สึกกระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษ
เขายืนอยู่ในศาลาชมหิมะพลางจ้องมองต้นเหมยยามราตรีจากมุมสูง อาจเป็นเพราะเขาดื่มสุรามากเกินไป ทำให้ใบหน้าของเขาขึ้นสีเเดงเรื่อ หัวใจเต้นเร็วและแรง
“นี่แหละเสนาบดีที่เจิ้นต้องการ ! ”
“พวกเขาต่างหากที่คู่ควรกับคำว่าเสาหลักของต้าเซี่ย ! ”
“เมื่อมีพวกเขาคอยช่วยเหลือ…เจิ้นก็ไร้ความกังวลว่าจะมิมีคนให้ใช้ ! ”
“บัดนี้ปัญหาเรื่องคนได้รับการแก้ไขเเล้ว ปัญหาต่อไปคือปัญหาด้านการเงิน ! ”
“รอให้เจิ้นมีเวลาว่างสนทนากับเสนาบดีเก่าแก่เหล่านั้นเสียก่อนเถิด เจิ้นจะเดินทางไปที่จายซิงถาย ได้ยินมาว่ามีภูเขาทองคำของเสด็จพ่ออยู่ที่นั่น”
“เมื่อได้ภูเขาทองมา แผนการของเจิ้นก็จะดำเนินการได้อย่างราบรื่น ทว่านี่อยู่ภายใต้ความดูแลของกรมคลัง เช่นนั้นเรื่องปรักปรำความผิดให้หยุนซีเหยียน คงต้องขอให้ใต้เท้ากงช่วยหน่อยก็แล้วกัน ! ”
“กระหม่อม น้อมรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ ! ”
กงฮ้วนอวี่ที่ยืนอยู่ข้างหลังอู๋เทียนซื่อโค้งกายลงคารวะ สายตาของเขาเผยรังสีความเจ้าเล่ห์ออกมา
“จงจำเอาไว้ว่าความผิดของหยุนซีเหยียนจะต้องร้ายแรงและชัดแจ้ง มิเช่นนั้น…เกรงว่าจะเกิดหายนะคราใหญ่ขึ้นมา ! ”
……
……
สามวันให้หลังจากนั้น ณ ตรอกเสี่ยวฉือเฉียว ตรงสะพานอู๋เต้าเฉียว เมืองฉางอัน
ในจวนตระกูลจี้
ณ ห้องหนังสือจวนตระกูลจี้ เยี่ยนซีเหวินนั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับจี้หยุนกุย เขาจ้องมองจี้หยุนกุยที่กำลังขมวดคิ้วแน่นเป็นปมพลางเอ่ยขึ้นมาว่า “ที่ข้าเอ่ยไปเมื่อครู่เป็นเพียงแค่สมมุติฐานเท่านั้น ท้ายที่สุดเรื่องราวจะเป็นเยี่ยงไร ก็คงต้องขอให้ท่านใต้เท้าส่งคนเข้าไปตรวจสอบ”
“อีกอย่าง ข้าอยากจะรู้เสียเหลือเกินว่าผู้ที่มีนามว่ากงฮ้วนอวี่นั้นมีที่มาที่ไปเยี่ยงไรกัน ! ”
จี้หยุนกุยสูดลมหายใจเข้าลึก เขาทราบถึงความร้ายแรงของเหตุการณ์ครานี้ผ่านคำเอ่ยของเยี่ยนซีเหวินตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว
ถ้าหากว่าฝ่าบาทนั้นทรงนำเงินในคลังส่วนพระองค์ไปใช้ที่อื่นจริง ๆ เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นดั่งที่เยี่ยนซีเหวินคาดการณ์ไว้จริง ๆ พระองค์ได้ใช้เงินจำนวนมากมายมหาศาลไปกับการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ !
และประเทศนี้ก็จะตกเป็นของอู๋เทียนซื่อ เหตุใดเขาต้องทำเช่นนี้ด้วยกัน ?
แท้ที่จริงเหตุผลนั้นแสนง่ายดาย นั่นคือความขัดแย้งระหว่างเสนาบดีเก่ากับจักรพรรดิพระองค์ใหม่นั่นเอง
แต่ถ้าหากว่าอู๋เทียนซื่อเลือกที่จะทำเช่นนั้นจริง ๆ หากเขาเลือกที่จะเดินบนเส้นทางนี้ เช่นนั้นนี่จะเป็นศึกระหว่างความเป็นกับความตาย ! มันจะนำความอลหม่านมาให้ต้าเซี่ย !
แน่นอนว่าจี้หยุนกุยทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับเสนาบดีทั้งสามฝ่ายเป็นอย่างดี แต่มิว่าเยี่ยงไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ฟู่เสี่ยวกวนได้เดินทางจากต้าเซี่ยไปนั้น เสนาบดีทั้งสามคนต่างก็ทุ่มเทและรับผิดชอบต่อต้าเซี่ยอยู่ตลอดเวลา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)