นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 1359

ตอนที่​ 1359 รากเหง้า​

“ความฝัน​ที่สอง​ ปัญญาประดิษฐ์​… สิ่งเหล่านี้​คือ​อัน​ใด​กัน​ ? ”

ดวงตา​สีฟ้างดงาม​ของ​สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​ จดจ้อง​ไป​ยัง​ฟู่เสี่ย​วกวน​พลาง​เอ่ย​ถามด้วย​ความสงสัย​

บัดนี้​ยิ่ง​ทำให้​นาง​ปักใจ​เชื่อ​ว่า​ฟู่เสี่ย​วกวน​มิใช่คน​ของ​โลก​ใบ​นี้​ คาด​ว่า​เขา​น่าจะ​มาจาก​อีก​โลก​หนึ่ง​เหมือนกับ​คน​พวก​นั้น​ ซึ่งเป็น​ดั่ง​พระเจ้า​ใน​สายตา​ของ​วาติกัน​

ส่วน​นาง​ก็​มอง​ฟู่เสี่ย​วกวน​ด้วย​สายตา​ที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความ​เคารพนับถือ​เช่นกัน​ ราวกับว่า​ฟู่เสี่ย​วกวน​ใน​สภาพ​ที่​เปียกปอน​มีแสงสีทอง​ส่อง​มาจาก​ร่าง​ของ​เขา​ ถ้าหากว่า​ฟู่เสี่ย​วกวน​มิได้​เป็นกันเอง​เช่นนี้​ นาง​คง​เคารพบูชา​เขา​ไป​แล้ว​

ที่​เขา​ยก​นิ้วกลาง​ขึ้น​กลางอากาศ​เมื่อ​ครู่​… บางที​อาจจะ​เป็น​การสื่อสาร​กับ​พระเจ้า​ก็​เป็นได้​

แต่​เหตุใด​เขา​ถึงเอ่ย​ว่า​ต่อให้​เป็น​พระเจ้า​ก็​ใช่ว่า​จะเก่งกล้า​สามารถ​ไป​เสีย​ทุก​เรื่อง​กัน​เล่า​ ?

เขา​เอ่ย​ว่า​เขา​อยาก​ใช้ชีวิต​ธรรมดา​ ๆ เท่านั้น​… แล้ว​ชีวิต​ธรรมดา​ที่ว่า​นั้น​คือ​ชีวิต​แบบ​ใด​กัน​เล่า​ ?

ความสงสัย​ได้​ถาโถมเข้าใส่​สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​ ฟู่เสี่ย​วกวน​มิรู้​ว่า​จะอธิบาย​ให้​นาง​เยี่ยง​ไร​ เขา​นิ่งเงียบ​ไป​ชั่วครู่​ จากนั้น​ถึงได้​ตอบ​ว่า​

“เมื่อ​เทคโนโลยี​ของ​มนุษย์​พัฒนา​จนถึง​ขีดสุด​แล้ว​ เจ้าจะเข้าใจ​ว่า​มัน​เป็น​เครื่องมือ​อย่างหนึ่ง​ที่​มีสติปัญญา​มาก​ ! ”

“มัน​มิใช่มนุษย์​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ”

“มิใช่ ! มัน​มีรูปร่าง​เหมือน​มนุษย์​ก็​จริง​ ทว่า​มัน​มิมีความรู้สึก​ สิ่งที่​ไหลเวียน​อยู่​ภายใน​ร่างกาย​ของ​มัน​มิใช่เลือด​… ขอ​เพียงแค่​มีพลังงาน​ให้​มัน​ หาก​ส่วนสำคัญ​ของ​มัน​มิเกิด​ปัญหา​ มัน​ก็​จะสามารถ​อยู่​ยืนนาน​ได้​หลาย​พันปี​ ! ”

สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​มิเข้าใจ​ใน​สิ่งที่​ฟู่เสี่ย​วกวน​เอ่ย​ออกมา​ นาง​จ้องมอง​ฟู่เสี่ย​วกวน​ด้วย​สายตา​ประหลาดใจ​ พลาง​คิด​ว่า​นี่​คง​เป็น​ความแตกต่าง​ระหว่าง​ความคิด​

ความ​ฉงน​ยัง​เต็ม​ปริ่ม​อยู่​ใน​ใจของ​นาง​ นาง​อยาก​ไป​เห็น​เครื่องมือ​ที่​ชื่อว่า​ความฝัน​ที่สอง​ด้วย​ตา​ของ​ตนเอง​เสีย​เหลือเกิน​

“ถ้าหากว่า​…ถ้าเกิด​ว่า​ท่าน​เดินทาง​ไป​ยัง​ทุ่ง​น้ำแข็ง​นั่น​จริง ๆ​ ท่าน​พา​ข้า​ไป​ด้วย​ได้​หรือไม่​ ? ”

“ข้า​ยัง​เดินทาง​ไป​มิได้​หรอก​ ข้า​เดินทาง​มาที่นี่​ก็​เพื่อ​จะเจรจา​เรื่อง​อนาคต​ของ​ต้าเซี่ย​และ​ฝูหล่า​งจี… เมื่อ​การ​เจรา​จาครา​นี้​เสร็จสิ้น​ ข้า​จะต้อง​เดินทาง​กลับ​ต้าเซี่ย”​

“เส้นทาง​กลับ​ต้าเซี่ย​ จำต้อง​เดิน​ทางผ่าน​อิง​เทียน​ ข้า​จะพำนัก​อยู่​ที่นั่น​สัก​ระยะ​หนึ่ง​ หลังจากนั้น​ค่อย​เดินทาง​กลับ​ต้าเซี่ย”​

“การ​เดินทาง​ครา​นี้​อาจจะ​ใช้เวลานาน​กว่า​สามปี​ เกรง​ว่า​ข้า​คง​มิอาจ​พา​เจ้าไป​ด้วย​ได้​”

“ข้า​จะเดินทาง​ตาม​ท่าน​ไป​ด้วย​” สายตา​ของ​สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​ทอ​ประกาย​

“แล้ว​ประเทศ​ของ​เจ้าเล่า​ ? ” ฟู่เสี่ย​วกวน​ผงะ​

“ก็​มอบหมาย​ให้​วาติกัน​ดูแล​เสีย​ ข้า​อยาก​เดินทาง​ไป​ยัง​ดิน​แด​นบ​รู​พา​มาเนิ่นนาน​แล้ว​ ข้า​อยาก​จะเห็น​ประเทศ​ที่​ยิ่งใหญ่​ซึ่งสร้าง​ด้วย​ฝีมือ​ของ​ท่าน​เสีย​จริง​ ข้า​อยาก​จะติดตาม​ท่าน​ไป​ที่นั่น​เสีย​เหลือเกิน​”

ฟู่เสี่ย​วกวน​มิได้​คิดมาก​กับ​ประโยค​นี้​ เขา​เพียงแค่​คิด​ว่า​สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​อยากรู้อยากเห็น​ก็​เท่านั้น​ พระนาง​อยากรู้อยากเห็น​ใน​เรื่อง​ที่​มิเคย​ทราบ​มาก่อน​

และ​นี่​ก็​คือ​นิสัย​ของ​มนุษย์​

สังคม​ก้าวหน้า​ขึ้น​มาได้​เพราะ​ความสงสัย​ใคร่รู้​ของ​มนุษย์​และ​มัน​ก็ได้​สร้าง​อารยธรรม​ที่​รุ่งเรือง​ขึ้น​มา

และ​ในขณะเดียวกัน​มนุษย์​ก็​ค่อย ๆ​ เข้าใจ​ใน​สิ่งที่​มิเคย​รู้​มาก่อน​มากขึ้น​เรื่อย ๆ​ และ​สิ่งที่​ตามมา​คือ​ความละโมบ​อย่าง​ไร้​จุดสิ้นสุด​

เมื่อ​มีความละโมบ​ย่อม​เกิด​สงคราม​ขึ้น​

เมื่อ​มีสงคราม​ ท้ายที่สุด​สังคม​มนุษย์​ก็​จะดำเนิน​ไป​ถึงขั้น​ที่​มนุษย์​ลงมือ​ทำลาย​ตนเอง​

เป็น​เหมือน​ที่​หนังสือ​ครึ่ง​เล่ม​นั้น​ได้​กล่าว​เอาไว้​ มนุษย์​พยาม​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​สุด​ชีวิต​ โดย​ข้าม​ผ่าน​ขวากหนาม​ต่าง ๆ​ ทว่า​ท้ายที่สุด​ก็​พบ​ว่า​เท้า​ของ​ตน​ได้​เดิน​ย่ำ​เป็น​วงกลม​

“การ​เดินทาง​ลำบาก​ยิ่งนัก​”

“ข้า​มิกลัว​ความลำบาก​”

“ใน​มหาสมุทร​อัน​ยิ่งใหญ่​ เมื่อ​ออกเดินทาง​ก็​จะมิเห็น​ผืน​ปฐพี​นาน​หลาย​เดือน​ รู้สึก​ว้าเหว่​มิน้อย​เลย​ทีเดียว​”

“ข้า​มิกลัว​เช่นกัน​ จะว่า​ไป​ก็​มีท่าน​อยู่​ด้วย​มิใช่หรือ​ ? ”

“เช่นนั้น​ก็ดี​ ข้า​จะพา​เจ้าไป​เยี่ยมชม​ต้าเซี่ย​ก็แล้วกัน​”

ทันใดนั้น​สมเด็จ​พระราชินี​มารี​อา​ที่สอง​ก็​โพล่ง​ยิ้ม​ออกมา​ ใบหน้า​งดงาม​น่า​ทะนุถนอม​เป็น​ดั่ง​ดอกกุหลาบ​ที่​เบ่งบาน​ท่ามกลาง​หยาดฝน​…

ดู​สะอาด​ กระตือรือร้น​ และ​ยัง​บริสุทธิ์​มาก​อีกด้วย​

ฟู่เสี่ย​วกวน​ใจเต้น​แรง​ ดังนั้น​เขา​จึงรีบ​เบน​สายตา​ถอย​หนี​ แล้ว​เปลี่ยน​เรื่อง​ทันที​

“เจ้าเอ่ย​ว่า​หลังจากที่​พระ​คาร์​นิ​ดัล​กลับมา​ ช่วง​ระยะ​หลาย​ปี​มานี้​มัน​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ขึ้น​มาอย่าง​มหาศาล​ใช่หรือไม่​ ? ”

“อืม​…เขา​ชรา​ลง​มาก​นัก​ แม้แต่​หนวดเครา​บน​ใบหน้า​ก็​มิมี เหมือนว่า​เลือด​เนื้อใน​ตัว​เขา​ค่อย ๆ​ แห้งเหือด​ไป​”

“พระ​คาร์​นิ​ดัล​กล่าวว่า​เป็น​เพราะ​เขา​ดูหมิ่น​โบสถ์​ของ​พระเจ้า​ ซึ่งนั่น​ก็​คือ​ฐาน​นิวเคลียร์​นั่นเอง​”

“พา​ข้า​ไป​พบ​เขา​หน่อย​สิ ”ฟู่เสี่ย​วกวน​ตื่นตกใจ​ขึ้น​มาทัน​พลัน​

“ได้​สิ ! ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)