ตอนที่ 1360 คว้าชัย
รัชสมัยต้าเซี่ยที่หก เดือนสิบ วันที่หนึ่ง
ฟู่เสี่ยวกวนได้ทำการเจรจากับฝูหล่างจีสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และในวันนั้นเอง ในที่สุดกองทัพที่หนึ่งก็มาถึงเสียที
กองทัพภายใต้บังคับบัญชาของฟู่เสี่ยวกวนได้รวมพลกับกองทัพของกวนเสี่ยวซีที่เมืองบาห์เรน เมืองหลวงของฝูหล่างจี
และการรวมตัวครานี้ย่อมอยู่ในสถานการณ์ที่สงบและเป็นมิตร
ภายใต้ประกาศของสมเด็จพระราชินีมารีอาที่สองและนครวาติกันแห่งฝูหล่างจี ย่อมมิมีใครหน้าไหนกล้าเข้ามาสร้างปัญหาให้แก่กวนเสี่ยวซี
กระทั่งวันเดียวกันนั่นเอง ทั่วทั้งเมืองบาห์เรนเกิดภาพเหตุการณ์ที่คนหลายหมื่นคนมาพบปะกัน…
ชาวเมืองทั้งหมดได้มารวมตัวกันที่ศูนย์กลางเมืองในจัตุรัสแห่งชัยชนะ ได้เกิดปรากฏการณ์ที่สองกองทัพมารวมพลกัน
ในช่วงระยะเวลาสองเดือนนี้ วาติกันได้ทำการเผยแพร่ตำนานตะวันออก นครวาติกันนั้นเปรียบเสมือนตัวแทนของพระเจ้าสำหรับหมู่มวลประชา ชาวฝูหล่างจีจึงเคารพนบนอบต่อประเทศตะวันออกอันศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างยิ่งยวด
เมื่อเห็นชุดเกราะสีเงินพวกเขาก็พลันคิดว่านักรบเหล่านี้เป็นนักรบของพระเจ้า
สมเด็จพระราชินีมารีอาที่สองได้กล่าวปาฐกถาในจัตุรัสแห่งชัยชนะ นางได้บรรยายถึงความร่ำรวยและงดงามของดินแดนตะวันออกแห่งนั้น ทั้งยังสาธยายอนาคตที่กำลังจะมาถึงอย่างละเอียด
และแน่นอนว่าถ้อยคำของนางได้รับการสนับสนุนจากราษฎรอย่างล้นหลาม นี่ก็เพื่อสร้างรากฐานอนาคตอันงดงามให้ทั้งแก่ชาติตะวันตกและชาติตะวันออก
ในตอนนั้นเอง เส้นทางสายไหมที่ฟู่เสี่ยวกวนได้ผลักดันมานานหลายปีก็เชื่อมเข้าหากันทั้งหมด
ฟู่เสี่ยวกวนเป็นตัวแทนของต้าเซี่ยในการลงนามในสนธิสัญญากับฝูหล่างจี
สัญญานี้มิได้มีเพียงเรื่องค้าขายเท่านั้น ทว่ายังมีเรื่องวัฒนธรรม การทหารและความร่วมมือต่าง ๆ อีกมากมาย
รัชสมัยต้าเซี่ยที่หก เดือนสิบ วันที่ห้า ฟู่เสี่ยวกวนได้นำกองทัพเรือและกองทัพบกออกเดินทางจากเมืองบาห์เรนในช่วงเช้าตรู่และได้เดินทางไปถึงเมืองลิสบอนในวันที่ยี่สิบห้า เดือนสิบ จากนั้นก็ขึ้นไปประจำการบนเรือฉางอัน
กองทัพร่วมต้าเซี่ยได้เคลื่อนขบวนเรือรบออกมาจากเมืองลิสบอนเพื่อมุ่งหน้ากลับต้าเซี่ย
……
……
แสงสุริยาสว่างไสวมากกว่าเดิม
ณ เรือฉางอัน ฟู่เสี่ยวกวนนั่งอยู่หน้าโต๊ะบนดาดฟ้าชั้นสามอย่างสบายอุรา เขายืดเหยียดเอวที่แข็งทื่อ พลางจ้องมองกวนเสี่ยวซีที่นั่งอยู่เบื้องหน้า
“ตลอดการเดินทางมานี้ ลำบากพวกเจ้าแล้ว ! ”
กวนเสี่ยวซีนิ่งเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นก็เผยอมุมปากขึ้น “ทว่าท้ายที่สุดมันช่างคุ้มค่ายิ่งนัก”
“ก็ใช่น่ะสิ มันช่างคุ้มค่าเสียจริง”
ฟู่เสี่ยวกวนจัดแจงชงชา “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองของต้าเซี่ย หลังจากนี้สินค้าของต้าเซี่ยจะถูกส่งมาขายยังทวีปยุโรปมิขาดสาย… และแน่นอนว่าสินค้าของทวีปยุโรปก็จะถูกนำเข้ามาขายในต้าเซี่ยด้วยเช่นกัน”
“จากนั้นก็จะเข้าสู่ยุคการค้าระหว่างประเทศ”
“สินค้าของต้าเซี่ยจะได้รับการทดสอบจากเวทีที่ใหญ่กว่า สิ่งนี้จะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมของต้าเซี่ยก้าวขึ้นไปอีกขั้น และสิ่งนี้จะช่วยขับเคลื่อนความก้าวหน้าของเครื่องจักรด้วยเช่นกัน”
“ทว่ามันก็เป็นดาบสองคมเช่นกัน ! ”
กวนเสี่ยวซีมิเข้าใจในกลยุทธ์เหล่านี้ สำหรับเขา…ในเมื่อแผนการเดินทางครานี้สำเร็จลุล่วงแล้ว เช่นนั้นอนาคตก็ต้องงดงามอย่างแน่นอน มันมิมีทางทำให้ต้าเซี่ยสูญเสียผลประโยชน์อย่างแน่นอน
เขาจ้องมองฟู่เสี่ยวกวนด้วยความสงสัย ทว่าฟู่เสี่ยวกวนมิได้อธิบายอันใดเพิ่มเติม แต่เขากลับเอ่ยถามเรื่องอื่นออกมาแทน
“ท่านแม่ทัพเผิง… รวมถึงทหารในกองทัพเรือและกองทัพบกได้เสียสละตนเองเพื่อศึกพิชิตแดนไกลครานี้ ในระหว่างที่เดินทางกลับ เจ้าและจั่วมู่จงเขียนชื่อและบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขามาให้หมด”
“ศพของพวกเขาถูกทิ้งไว้ในที่แดนไกล ทว่าวิญญาณของพวกเขา…จะต้องกลับไปที่ต้าเซี่ย”
“เมื่อเดินทางถึงฉางอันแล้ว ข้าจะให้องค์จักรพรรดิสร้างอนุสรณ์สถานขึ้นมาแล้วเขียนชื่อของพวกเขาทุกคนเอาไว้บนนั้น”
“ข้าอยากให้ชาวต้าเซี่ยทุกคนจดจำชื่อของพวกเขาเอาไว้ ให้พึงระลึกว่าความเจริญรุ่งเรืองของต้าเซี่ยเกิดมาจากการอุทิศตนของพวกเขา”
“อีกประเดี๋ยวเมื่อหยูติ้งชานตื่นขึ้นมา ข้าจะเรียกเขามาพบ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)