นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 146

สรุปบท ตอนที่ 146 จอมโจร: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

อ่านสรุป ตอนที่ 146 จอมโจร จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 146 จอมโจร คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 146 จอมโจร

เยี่ยนซีเหวินมองดูฟู่เสี่ยวกวน “ข้ามิอยากเอาเปรียบเจ้า เจ้าขายให้กับข้าในราคาตลาด เพราะอย่างไรเสียเงินก็มิใช่ของข้า”

“เรื่องนี้มิเป็นปัญหา”

ธัญพืชนั้นเดิมทีก็ต้องขาย ไม่ว่าขายให้แก่ผู้ใดก็มีค่าเท่ากัน อีกทั้งราคาที่เยี่ยนซีเหวินรับซื้อนั้นสูงกว่าถึงสองเท่า

เยี่ยนซีเหวินจึงได้วางใจ เดิมทีเขายังกังวลใจว่าฟู่เสี่ยวกวนจะมิขายให้แก่เขา หากเป็นเช่นนั้นเขาจะต้องเดินทางไปยังอำเภออื่นเพื่อซื้อธัญพืช แม้จะซื้อได้เช่นกัน แต่ก็ไม่รวดเร็วเท่าซื้อกับฟู่เสี่ยวกวน

คลังอาหารเหลือเพียงน้อยนิด หากมิรีบจัดซื้ออาหารเข้าคลังก็คงเกิดเรื่องใหญ่เป็นแน่

“เจ้าต้องการวันใด ? ” ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยถาม

“หากวันนี้ส่งได้จักดียิ่งนัก”

“ตกลง แต่ค่าขนส่งเจ้าต้องเป็นคนจ่าย ข้าจะจัดส่งไปให้ยังจวน”

เยี่ยนซีเหวินเบ้ปากแล้วกล่าวว่า “เอาเถิด ๆ ตามอย่างที่เจ้าว่าเลย”

“เชิญนั่งก่อนข้าไปจัดการสักครู่”

ฟู่เสี่ยวกวนเดินออกไปจากห้องโถง เยี่ยนซีเหวินจึงได้ถอนหายใจออกมา การเดินทางมาซีซานครั้งนี้เขามีความประทับใจดีทีเดียว

หมู่บ้านเซี่ยชุนนั้นมีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งนัก ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้หมู่บ้านเซี่ยชุนมิได้เป็นเช่นนี้ นับแต่คุณชายเดินทางมาที่ซีซานก็ได้ปรับปรุงหลาย ๆ อย่างกระทั่งปัจจุบัน

เนื่องจากคุณชายได้สร้างอุตสาหกรรมจำนวนมากในซีซาน ชาวบ้านและเกษตรกรได้รับเงินจำนวนไม่น้อย จากนั้นยังมีผู้ประสบภัยอีกหลายหมื่นคน พวกเขาเหล่านั้นถูกเรียกว่าชาวซีซาน พวกเขาต่างก็วุ่นวายอยู่กับหน้าที่ของตน กลุ่มที่ใหญ่สุดอยู่ในภูเขาเฟิ่งหลินทำเหมืองแร่ ฟู่เสี่ยวกวนมีข้อกำหนดว่า ทุกเดือนหลังจากจ่ายค่าแรงจะทำการหยุด 2 วัน ดังนั้นพวกเขาจะไปยังหมู่บ้านเซี่ยชุน จึงทำให้หมู่บ้านเซี่ยชุนรุ่งเรืองขึ้นจวบจนปัจจุบัน

ได้ยินชาวซีซานกลุ่มนั้นกล่าวว่าเมื่อใดที่พวกเขาเก็บเงินได้มากพอก็จะไปสร้างบ้านอยู่ที่หมู่บ้านเซี่ยชุน 50,000 คนเชียว ! ภายในสองปีคาดว่าหมู่บ้านเซี่ยชุนคงจะรุ่งโรจน์กว่าอำเภอเหยาเป็นแน่

เขาผู้นี้มีความสามารถจริง !

เยี่ยนซีเหวินนับถือเขามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขามองไปยังโรงอิฐขนาดใหญ่นั่น จึงพบว่าตนร่ำเรียนตำรามามากมายก็ยังมิอาจเข้าใจได้ อีกทั้งมิอาจทำเยี่ยงเขาได้

หากเขาปรับปรุงหมู่บ้านเซี่ยชุนไปเรื่อย ๆ สักสองปีคาดว่าอาจรุ่งเรืองเทียบเท่าเมืองหลวงก็เป็นได้ หรือว่าเขาจะ… ?

ความคิดนี้ลอยเข้ามาในสมองของเขา แต่เขาก็สลัดความคิดนี้ทิ้งไปทันควัน จะเป็นไปได้อย่างไรเล่า

ฟู่เสี่ยวกวนเดินกลับมากล่าวว่า “จัดการเรียบร้อยแล้ว ข้าจะส่งไปจำนวน 10,000 ถังก่อน ประเดี๋ยวเจ้าจงไปตรวจสอบบัญชีกับจางเช่อ ข้าจะให้คนครัวทำกับข้าวสักสามสี่อย่าง ร่วมดื่มกันเสียก่อนค่อยกลับเถิด อาจจะมิได้รสดีเท่ากับหอซื่อฟาง แต่สดใหม่กว่าแน่นอน”

เยี่ยนซีเหวินพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “อุตสาหกรรมของเจ้าต้องการขยายใหญ่หรือไม่ ? หากเจ้าต้องการ อำเภอเหยามีพื้นที่กว้างขวาง ข้าสามารถให้เจ้าใช้ได้โดยมิเสียค่าใช้จ่าย”

หืม ? เจ้านี่เริ่มรู้จักวิธีทำการค้าแล้วหรือ

เพียงแต่ฟู่เสี่ยวกวนเพียงยิ้มออกมา “ตอนนี้ยังมิสามารถทำได้ ประการแรกคนงานมิเพียงพอ ประการที่สองโรงงานที่นี่ข้าเองเพิ่งได้เริ่มดำเนินการ นอกเหนือจากโรงกลั่นสุราแล้ว อย่างอื่นยังมิได้วางขาย แต่หากมีโอกาสในภายภาคหน้าข้าจักร่วมมือกับเจ้าแน่นอน เพียงแต่มีข้อแม้ว่าภาษีทุกอีแปะ ข้าจะจ่ายไม่ขาดสักอีแปะเดียว แต่เจ้าก็มิอาจเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการของข้าด้วยเช่นกัน”

“ข้าจะไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการเจ้าทำไมกัน ? หากเจ้ามิได้ทำสิ่งผิดกฎหมายก็เพียงพอ อำเภอเหยายากจนเหลือเกิน เจ้าจงเร่งรีบไปพัฒนาเถิด”

ความคิดของเยี่ยนซีเหวินเตือนเขาได้ว่า โรงงานเหล่านี้มิใช่เรื่องซับซ้อนใด เพียงแต่มีผู้รับผิดชอบก็พอ เขาต้องฝึกฝนพวกคนงานจนชำนาญการเสียก่อน จากนั้นจึงจะส่งตัวไปดูแลในที่ต่าง ๆ ในไม่ช้าก็จะสามารถขยายกิจการได้อย่างรวดเร็ว

ที่นี่เขามีผู้มากความสามารถอยู่หลายคนจึงมิต้องเป็นกังวล แต่จะต้องส่งกำลังคนไปดูแลจวนที่หลินเจียงบ้าง เนื่องจากโจรทั้งสามที่กล่าวมานั้นล้วนมีฝีมือเป็นเลิศ

หากพวกเขาลงมือขึ้นมา ก็ยากที่จะป้องกัน

“ผิงหลิงอยู่ห่างจากกองกำลังทหารเหนือไกลหรือไม่ ? ”

“มิไกลเลย อีกทั้งอยู่ใกล้กับแคว้นฮวง ทหารทางเหนือก็มิกล้าลงมือโดยพลการ มีวิธีใดที่เหมาะสมหรือไม่ ? หากนำกองกำลังทหารจำนวนหนึ่งไปลาดตระเวน แล้วชาวฮวงฉวยโอกาสบุกเข้ามาจักทำเยี่ยงไร ? ”

เมื่อครุ่นคิดดูก็พบว่าจริงดังนั้น ฟู่เสี่ยวกวนจึงมิได้ถามต่อไป ทั้งสองพูดคุยกันในเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ เมืองหลวง เยี่ยนซีเหวินถอนหายใจออกมา กล่าวว่าตนคาดมิถึงที่ชืออีหมิงจะสอบติดจอหงวน

“เจ้าควรเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น เนื่องจากชืออีหมิงนั้นมีความคิดและแผนการแนบเนียน เหตุใดวันนั้นเขาจึงได้ทำให้เจ้าต้องอึดอัดใจกัน ? ฐานะผู้นำตระกูลชือ เขามีความจำเป็นที่จะกล่าวคำเหล่านั้นกับเจ้าหรือ เนื่องจากในตอนนั้นเจ้ามีเพียงชื่อเสียง มิได้มีตำแหน่งใด ๆ เขาไม่จำเป็นต้องเห็นเจ้าในสายตาหรอกมิใช่หรือ ? ”

เรื่องนี้ฟู่เสี่ยวกวนเคยคิดมาก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ไม่เข้าใจ

“ถ้าเช่นนั้นเจ้าว่าเหตุใดในวันนั้นเขาจักต้องทำกับข้าเช่นนั้นกัน ? ”

“เจ้าอยากรู้งั้นรึ ?”

“แน่นอน !”

“รอให้เจ้าสร้างโรงงานที่อำเภอเหยาสักสองสามแห่ง แล้วข้าจักเล่าให้ฟัง”

“ข้าหิวแล้ว ลงมือกินเถิด จงนำยอดสุราซีซานออกมาอีก ! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)