ตอนที่ 148 จักก่อกบฏหรือ ?
สายฝนในฤดูหนาวได้หยุดลง หมอกในยามเช้าค่อย ๆ จางหาย เปลี่ยนเป็นดวงอาทิตย์เข้ามาแทนที่
ในวันนี้โรงผลิตสบู่ของเขาจะทำการทดลองผลิตเป็นคราแรก ดังนั้นฟู่เสี่ยวกวนจึงได้เดินทางมาแต่เช้าตรู่
ผู้รับผิดชอบโรงผลิตสบู่นี้มีนามว่าหลินเฉิงปิ่ง เป็นลูกพี่ลูกน้องของจางเช่อ ก่อนหน้านี้เขาได้สอนหนังสือในสำนักศึกษาแห่งหนึ่ง ซึ่งได้รับค่าตอบแทนเพียงเดือนละ 500 อีแปะ เขาดูแลคนทั้งครอบครัวเพียงผู้เดียว จางเช่อจึงให้เขาออกจากสำนักศึกษาแห่งนั้นแล้วมารับผิดชอบโรงผลิตสบู่แห่งนี้
ฟู่เสี่ยวกวนมิได้ออกความคิดเห็นใด เนื่องจากเขาไว้ใจจางเช่อมาก หากเขาตัดสินใจเช่นนี้ หลินเฉิงปิ่งคงสามารถดูแลโรงผลิตสบู่นี้ได้ไม่มีปัญหา
บัดนี้หลินเฉิงปิ่งนำคนจำนวนกว่าร้อยคนเข้าไปยังโรงงานผลิต เขาได้เรียนรู้ทักษะขั้นตอนต่าง ๆ มาอย่างแตกฉาน แต่บัดนี้ก็ยังคงมีความตื่นเต้นเล็กน้อย
สำหรับผู้เป็นอาจารย์แล้วนั้น สิ่งเหล่านี้คงมิใช่เรื่องถนัดนัก แต่เมื่อได้ยินว่าค่าตอบแทนวันละ 100 อีแปะ หนึ่งเดือนก็ได้ค่าตอบแทนถึง 3,000 อีแปะ นี่เป็นเงินก้อนใหญ่เลยทีเดียว หากเขามีเงินจำนวนนี้ก็จะสามารถให้ครอบครัวอยู่อย่างมีความสุขได้ ดังนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจทิ้งศักดิ์ศรีในการเป็นอาจารย์และเดินทางมายังที่แห่งนี้ เนื่องจากปากท้องต้องมาก่อนเสมอ
หลินเฉิงปิ่งสูดหายใจเข้าแล้วทำท่าทีจะอธิบายขั้นตอนในการทำสบู่ ก็พบว่าคุณชายฟู่เดินทางมาถึงพอดี เขารีบเดินหน้าขึ้นไปทำความเคารพด้วยท่าทีตื่นเต้น
ฟู่เสี่ยวกวนหัวเราะเหอะ ๆ จากนั้นจับมือกับเขากล่าวว่า “ท่านหลี่อย่าได้เกรงใจไป ทำตัวตามสบาย ข้าเพียงแวะมาเยี่ยมดูเท่านั้น ที่นี่เจ้าเป็นผู้รับผิดชอบ คำพูดของเจ้าถือว่าเด็ดขาด จงกล้าที่จะทดลองเถิด อย่าได้เกรงกลัวความพ่ายแพ้”
หลินเฉิงปิ่งตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนหน้านี้จางเช่อเคยกล่าวกับตนว่าคุณชายมิเหมือนผู้ใด มองดูแล้วคงเป็นเยี่ยงนั้น
“คุณชายเชื่อมั่นในตัวข้าเช่นนี้ ข้า เฉิงปิ่ง จะมิทำให้ท่านผิดหวัง ! ”
คุณชายไว้ใจเขาเพียงนี้ เขาก็รู้สึกถึงความมั่นใจขึ้นมา บัดนี้เขายืนอยู่ต่อหน้าคนงานนับร้อยคน ไม่ต่างอันใดกับยืนอยู่ด้านบนเวที หลินเฉิงปิ่งส่งสายตามองไปยังพวกเขาเหล่านั้น แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอันดังฟังชัดว่า “พวกเราจะทำการทดลองในปริมาณน้อยเสียก่อน จงดูให้ดี ข้าจะทำให้ดูหนึ่งครั้ง จากนั้นพวกเจ้าจงทำตามที่ข้าสอน”
หลินเฉิงปิ่งพับแขนเสื้อขึ้นมาจากนั้นเริ่มลงมือทำการทดลอง ทุกขั้นตอนเขาช่างใส่ใจและระมัดระวัง เขาทำตามในกระดาษที่ฟู่เสี่ยวกวนบันทึกไว้ในทุกขั้นตอน ฟู่เสี่ยวกวนยืนดูอยู่สักพัก เมื่อเห็นว่ามิมีปัญหาใดที่น่ากังวลจึงได้เดินจากไปอย่างเงียบ ๆ
เขาไปยังโรงกลั่นน้ำหอม จากนั้นไปยังโรงกลั่นสุราและโรงผลิตกระดาษ ที่นี่กำลังเตรียมการ คาดว่าหลังปีใหม่คงจะได้เริ่มทดลองผลิต
ท้ายที่สุดเขาเดินทางไปยังกระท่อมที่ปลูกขึ้นมาอย่างเรียบง่าย ที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับศึกษาและดูแลผู้ชรา ในปีหน้าจึงจะเปิดรับสมัครนักเรียนรุ่นที่หนึ่ง ส่วนบ้านพักคนชรานั้นมีทั้งชายและหญิงชราอยู่ด้านใน
ฟู่เสี่ยวกวนเดินทางมายังที่แห่งนี้ด้วยตนเอง พวกเขาตื้นตันใจยิ่งนัก ทุกคนค่อย ๆ มาล้อมรอบฟู่เสี่ยวกวนด้วยท่าทางซาบซึ้งใจ และได้ฟังเรื่องราวที่คุณชายกล่าวให้ฟังเกี่ยวกับเมืองหลวง พวกเขาพูดคุยกันกระทั่งเวลาเที่ยงตรง จางเช่อเข้ามาหาเขาและรายงานว่านายท่านเดินทางมายังเรือนซีซาน
ฟู่เสี่ยวกวนจึงได้กล่าวอำลากับคนชราทั้งหลาย จากนั้นตามจางเช่อกลับเรือนไป
“ข้านำสิ่งของขนย้ายมาบางส่วน สิ่งอื่นเมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะส่งตามมา…ลูกชายข้า นี่เจ้าคิดจะก่อกบฏหรือ ?”
สองพ่อลูกนั่งอยู่ที่ลานด้านหลังเพียงลำพัง บัดนี้ฟู่ต้ากวนนั่งจ้องฟู่เสี่ยวกวนตาเขม็ง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงอันเบา อีกทั้งแววตาเป็นกังวล
ฟู่เสี่ยวกวนหัวเราะออกมาแล้วกล่าวว่า “ท่านพ่อคิดอันใดอยู่กัน ? ข้าเพียงแต่ต้องการฝึกฝนผู้คุ้มกันเรือนแห่งนี้เท่านั้น ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)