ตอนที่ 149 สอดแนม
ไม่กี่วันหลังจากนั้น ร้านอาหารแห่งหนึ่งในหมู่บ้านเซี่ยชุน
กลุ่มชายหนุ่มท่าทางเหมือนพ่อค้าห้าคนกำลังกินอาหารดื่มสุราอยู่ในห้องหรูหรา ผู้ที่อยู่หัวโต๊ะคือชายหน้าดำ ไหล่ลู่เหมือนเหยี่ยว ดวงตาเหมือนตาจิ้งจอก ค่อนข้างดุร้าย
“การสังเกตการณ์ของเจ้าตอนนี้เป็นเยี่ยงไรบ้าง?”
“รายงานท่านทูตต้าเฉินจินกัง การป้องกันของซีซานค่อนข้างเข้มงวด บริเวณโดยรอยในช่วงหนึ่งลี้มักจะมีหน่อยลาดตระเวนกลุ่มเล็ก ๆ อยู่ตลอดเวลา ฟู่เสี่ยวกวนผู้นั้นแทบจะหดหัวอยู่แต่ในเรือนซีซานและออกมาน้อยมาก มิใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเข้าไปสอดแนม… ข้าน้อยคิดว่าควรรอท่านทูตปี้ตู๋จินกังมาก่อน แล้วค่อยวางแผนกันใหม่ ? ”
“เหอะ…”
ชายโหดเหี้ยมหน้าดำผู้นี้คือหนึ่งในจินกังทั้งแปดที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของหัวหน้ากองโจรกงเซินจ่างแห่งแม่น้ำหวงเหอ ในยามนี้ดวงตาคู่นั้นของเขาถลึงจนโต ปากก็อ้ากว้างขึ้น และกล่าวไปว่า “เหตุใดพวกเจ้าจึงขี้ขลาดกันนัก? วันนี้คนของข้าสามร้อยคนได้มาถึงหมู่บ้านเซี่ยชุนแล้ว แต่พวกเจ้ากลับบอกให้ข้ารอ ! พี่กงของข้ายังคงรอให้ข้านำหัวของคนผู้นั้นกลับไปที่ผิงหลิง มิมีทาง ต้องลงมือภายในคืนนี้เท่านั้น!”
“นั่น… ท่านทูตคงยังมิทราบ ที่ด้านใต้ภูเขาไต้ชานยังคงมีทหารที่ทำการฝึกอยู่อีกมากมาย ระดับการป้องกันของที่นั่นพรั่งพร้อมอย่างมาก พวกข้ามิกล้าเข้าไปใกล้ นอกจากนี้ข่าวสารจากท่านทูตมาอย่างล่าช้า และก็มิทราบว่าภายในเรือนซีซานแห่งนั้นมียอดฝีมือระดับสูงอยู่หรือไม่ หากมียอดฝีมือระดับสูงอยู่ แล้วท่านทูตรีบบุกเข้าไป แล้วถูกยอดฝีมือเหล่านั้นคอยก่อกวนจนทหารที่อยู่ด้านใต้ของภูเขาไต้ชานมาช่วยได้ทันกาล ก็ย่อมย่ำแย่เป็นแน่ ท่านทูตช่วยพิจารณาอีกคราด้วย ! ”
ในตอนที่ต้าเฉินจินกังกำลังจะสาดโทสะ ชายวัยกลางคนท่าทางเหมือนที่ปรึกษาที่อยู่ทางด้านขวาของเขาก็ตบมือเขา แล้วกล่าวว่า “ในตอนที่ข้าเพิ่งมาถึง พวกเขาดูคุ้นชินกับสถานที่นี้ดี ข้ารู้สึกว่าไม่ควรหุนหันกับเรื่องนี้ ไม่ก็เยี่ยงนี้ คืนนี้ก็ให้ทั้งสามไปสืบข่าวที่เรือนซีซานอีก ข้าและท่านทูตจะพานักรบทั้งสามร้อยคนไปดูลาดเลาที่ภูเขาไต้ชาน หลังจากที่พวกเจ้าสืบจนได้ข่าวคราวก็มารวมตัวกับพวกข้าที่ภูเขาไต้ชาน แล้วค่อยตัดสินใจอีกคราว่าจะรอกลุ่มของท่านทูตปี้ตู๋จินกังหรือไม่ เห็นว่าเยี่ยงไรบ้าง ”
ต้าเฉินจินกังครุ่นคิด กลยุทธ์นี้ยอดเยี่ยมยิ่ง จึงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย อีกทั้งสายสืบทั้งสามคนก็ลองใคร่ครวญดูแล้วจึงเห็นว่า คงทำได้เพียงเท่านี้ ทั้งสามคำนับและจากไป ภายในห้องหรูนั้นจึงเหลือเพียงต้าเฉินจินกังและที่ปรึกษาผู้นี้สองคน
“เด็กน้อย เรื่องนี้มิได้ง่ายดายอย่างที่คิดไว้นัก” ที่ปรึกษาผู้นั้นกล่าวขึ้นมา “เจ้าลองคิดดู ว่าเหตุใดองค์ชายแห่งแคว้นฮวง ท่าป๋าชิวจึงต้องมาหาพี่กงของพวกเราและให้เงินค่าหัวของฟู่เสี่ยวกวนผู้นี้กัน นามฟู่เสี่ยวกวนนั้นข้าเคยได้ยินมาก่อน เป็นผู้ประพันธ์ความฝันในหอแดงประพันธ์ทำนองเพลงสายน้ำ และเป็นผู้ได้สลักนามไว้บนหินเชียนเปยสือ คนผู้นี้ก็เป็นเพียงนักกวีผู้หนึ่ง คุ้มกันหรือไม่ที่องค์ชายชาวฮวงจะตั้งค่าหัวของคนผู้นี้ไว้สูง”
ต้าเฉินจินกังที่มีใบหน้าดำผู้นั้นมีนามว่าซ่งต้าเป่า ที่ปรึกษาวัยกลางคนนี้คือนายทหารผู้หนึ่งของกงเซินจ่าง มีนามว่าหลิวซานเปี้ยน
“ความหมายของอาซานเปี่ยนคือ… ฟู่เสี่ยวกวนผู้นี้มิได้ง่ายดายเยี่ยงนั้นหรือ?”
หลิวซานเปี้ยนพยักหน้า “ได้ยินมาว่าซูม่อศิษย์ปิดสำนักของสำนักเต๋าคอยอยู่ข้างกายเขาตลอดเวลา แต่กลับมิเคยได้ยินเรื่องผลการรบที่ยอดเยี่ยมของซูม่อมาก่อน แต่คิดอย่างไรแล้วก็คงมิธรรมดา เขาย่อมมิใช่คู่มือของเจ้าอย่างแน่นอน ข้ากังวลว่าเขาจะดึงตัวเจ้าไว้ หลังจากนั้นจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่หากกลุ่มทหารด้านล่างภูเขาไต้ชานตามมาได้ทัน การเคลื่อนไหวในครานี้ใหญ่หลวงนัก เพราะเกี่ยวข้องไปถึงแผนการใหญ่ของพี่กง พวกเราต้องทำสำเร็จเท่านั้นมิอาจพลาดได้ ทั้งยังต้องสำเร็จภายในคราเดียว มิฉะนั้นจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่หากเรื่องมันไปถึงราชสำนัก ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังกับเรื่องนี้ให้มากยิ่งขึ้น”
“เยี่ยงนั้น… ข้าเชื่อท่าน ค่ำนี้จะพาพี่น้องทั้งหลายไปสังเกตการณ์ที่ภูเขาไต้ชาน”
……
…..
ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม ฟู่เสี่ยวกวนนั่งสมาธิอยู่ในเรือน ส่วนซูโหรวยังคงปักผ้าอยู่ริมลำธารดังเก่า ทันใดนั้นนางก็เงยหน้ามองไปที่ไกลออกไป ก่อนจะหันหน้ามาคุยกับฟู่เสี่ยวกวน “โจรสามคนนั้นสอดแนมอยู่ที่ด้านนอกอีกแล้ว สรุปว่าต้องสังหารพวกเขาหรือไม่”
ฟู่เสี่ยวกวนลืมตาและยกยิ้ม ดูเหมือนว่าโจรกลุ่มนี้มีเป้าหมายจะโจมตีซีซาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)