ตอนที่ 154 เจ้าต้องการทำสิ่งใดกันแน่
เยี่ยนซีเหวินมองไปยังยุ้งฉางที่เต็มไปด้วยธัญพืช ในใจเขาจึงได้ผ่อนคลายความกังวลลง
ถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นกับธัญพืชเหล่านี้ เยี่ยงนั้นคงเกิดเรื่องใหญ่
ยุ้งฉางแห่งนี้ใช้เก็บเสบียงอาหารสำหรับทำสงคราม หากเป็นช่วงเวลาสงบสุขไร้สงคราม อาจมิเกิดประโยชน์ใด ๆ เนื่องจากอาหารเหล่านี้ล้วนมาจากพ่อค้าข้าว คลังเก็บเสบียงของอำเภอมักขายอาหารเหล่านี้ในช่วงฤดูกาลที่สำคัญ จากนั้นก็นำเงินไปซื้ออาหารใหม่เข้ามาเก็บสำรองไว้ต่อไป
แต่เยี่ยนซีเหวินเข้าใจดีว่าหากเกิดสงครามขึ้น ทางการอาจประกาศขนย้ายเสบียง เมื่อถึงเวลานั้นหากทางการมีคำสั่งให้อำเภอเหยาขนส่งเสบียงไป แต่อำเภอเหยากลับมิมีเสบียง นี่เป็นความผิดอันใหญ่หลวง
แม้ว่าบัดนี้สถานการณ์จะอยู่ในความสงบ แต่สิ่งที่เรียกว่าสงครามนี้ หารู้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด
อาจารย์กู้เหวินที่เขาพามาจากเมืองหลวงด้วยก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก และกล่าวกับเยี่ยนซีเหวินว่า “คุณชาย ฟู่เสี่ยวกวนได้เชิญท่านไปซีซาน กล่าวว่าจะมอบหมายหน้าที่ใหญ่หลวงแก่ท่าน……ท่านจะไปหรือไม่ ? ”
“ไป ข้าเองก็อยากจะรู้ยิ่งว่าเขาต้องการให้ข้าทำสิ่งใด”
“ถ้าเช่นนั้นท่านจะให้ข้าจัดเตรียมรถม้าเลยหรือไม่ ? ”
“อืม ช้าก่อน นำไม้ทับกระดาษไปด้วย เรื่องเสบียงในครานี้ ข้าติดหนี้บุญคุณเขาไม่น้อย”
กู้เหวินตกตะลึงเล็กน้อย ที่ทับกระดาษนั้นเป็นสิ่งของที่คุณชายรักและหวงแหน มองดูแล้วความสัมพันธ์กับคุณชายและฟู่เสี่ยวกวนช่างต่างจากที่เคยได้ยินมาว่าทั้งสองไม่ถูกกัน
ช่วงบ่ายของวันต่อมา เยี่ยนซีเหวินเดินทางมายังเรือนซีซานอีกครั้งหนึ่ง ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยทักทายเขาอยู่สองสามคำก็พาเขาไปยังภูเขาไต้ชาน
“คือเช่นนี้ ครั้งที่แล้วเจ้ากล่าวกับข้าว่ามีโจรมายังสองฝั่งแม่น้ำใช่หรือไม่? เป็นเรื่องบังเอิญเสียจริงที่โจรเหล่านั้นเล็งเป้าหมายมายังข้า ดังนั้นข้าจึงได้ทำลายพวกเขาเสียหมดสิ้น แน่นอนว่าความดีงามนี้ข้ารับไว้คงไร้ประโยชน์ แต่เมื่อข้าคิดไปคิดมา สิ่งนี้อาจทำประโยชน์แก่เจ้าได้ เจ้าจงลองดู”
เมื่อเยี่ยนซีเหวินมองไปยังซากศพนับร้อยที่กองกระจัดกระจายอยู่ เขาก็กลั้นจมูกจนแทบไม่มีอากาศหายใจ
เขามิเคยเห็นภาพอันน่าสยดสยองเช่นนี้มาก่อน เขาตกตะลึงไปชั่วครู่ จากนั้นวิ่งออกไปอาเจียนข้าง ๆ
กู้เหวินเองก็มิเคยพบเห็นมาก่อน แต่เขามีวัยวุฒิกว่าจึงอดกลั้นเอาไว้ได้ เขาเดินเข้าไปพยุงเยี่ยนซีเหวินเอาไว้ ในใจก็นึกว่าหากคุณชายได้ผลงานเหล่านี้มา คงจะส่งผลดีไม่น้อย
ผ่านไปเนิ่นนาน เยี่ยนซีเหวินจึงตั้งสติได้ เขาเอามือข้างหนึ่งตบหน้าอกตัวเอง อีกข้างหนึ่งชี้ไปยังฟู่เสี่ยวกวนแล้วกล่าวว่า “เจ้ามันช่างโหดร้ายนัก ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนยักไหล่อย่างไม่แยแสแล้วกล่าวว่า “เจ้ากล่าวว่าข้าเยี่ยงนี้ได้อย่างไร ? ข้าขอถามเจ้าครั้งเดียวว่า นี่คือผลงานที่ยิ่งใหญ่ใช่หรือไม่ ? แล้วเจ้าจะรับไว้หรือไม่ ? ”
กลิ่นอายผลงานการเมืองลอยมาปะทะกับจมูกของเยี่ยนซีเหวิน เขาเข้าใจถึงความหมายนั้นดี จึงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “รับสิ ข้าเดินทางมาไกลเช่นนี้ จะให้กลับไปมือเปล่าได้อย่างไร”
“ตามนั้น ในเมื่อเจ้าเดินทางมาไกลเช่นนี้ หากไม่รีบร้อนก็พักที่นี่สักหนึ่งคืนเป็นไร ข้ายังมีบางสิ่งจะมอบแก่เจ้าอีก”
เยี่ยนซีเหวินลุกขึ้นยืนตัวตรง ขมวดคิ้วมองดูฟู่เสี่ยวกวนแล้วเอ่ยถามว่า “ยังมีโจรอีกงั้นหรือ ? ”
“อืม ไปเถอะ กลับไปแล้วข้าจะเล่าให้ฟัง”
ทั้งสามเดินทางกลับมายังเรือนซีซาน เยี่ยนซีเหวินนั่งอยู่ที่สวนด้านหลัง เขาดื่มน้ำชาเข้าไปสามแก้วจึงรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)