ค่ำคืนอันมืดมิด เกล็ดหิมะล่องลอยไปในท้องนภาอันกว้างใหญ่
แสงไฟในเมืองหลวงส่องสว่าง พลุและดอกไม้ไฟถูกจุดมิขาดสาย
แสงไฟในจวนต่งก็สว่างสดใสเช่นกัน ภายในห้องโถงใหญ่มีแสงนวลของเทียนและเสียงหัวเราะฮาเฮ
หลังจากฟู่เสี่ยวกวนเดินทางมาที่แห่งนี้ นี่เป็นปีแรกและครั้งแรกที่เขาได้ร่วมเทศกาลข้ามปี เขามีความสุขมาก แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลจากครอบครัว แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น
จวนต่งต้อนรับเขาเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ยายของเขามีท่าทีที่เปลี่ยนไปจากหลังมือเป็นหน้ามือ ทำให้ฟู่เสี่ยวกวนอดคิดมิได้ว่านี่เขาฝันไปหรือไม่
“เสี่ยวกวน มานี่ ลองชิมปลาดูสิ”
“เสี่ยวกวน กินเยอะ ๆ ลองชิมกุ้งนี่ดูสิ”
“ซิวเต๋อ ! ปลานั้นทำให้เสี่ยวกวนกิน เจ้าอย่าแตะนะ !”
“……”
ต่งซิวเต๋อคล้ายกับถูกกดดัน เขาเอ่ยว่า “ท่านแม่ ข้าอยากจะรู้จริง ๆ ว่าผู้ใดกันแน่ที่เป็นลูกชายของท่าน !”
ทุกคนเมื่อได้ยินดังนั้นก็หัวเราะ ฮูหยินต่งจึงได้รู้สึกตัว นางเอ่ยว่า “เจ้าลูกคนนี้ ! ฟู่เสี่ยวกวนมาจากต่างถิ่น ที่นี่เขามิมีญาติคนอื่นใด แม่จะต้องดูแลเขาอย่างดี !”
ฟู่เสี่ยวกวนยิ้มให้กับต่งซิวเต๋อแล้วกล่าวว่า “ท่านพี่รอง…ท่านแม่เอ่ยมิผิดเพี้ยน ลูกเขยก็คือลูกเช่นกัน ปกติแล้วท่านพี่ก็ได้กินอาหารดี ๆ ทุกวัน แต่ข้าเพิ่งได้กินครั้งแรกเท่านั้น ในฐานะพี่ชาย ท่านพี่ยอมให้ข้าบ้างเถิด”
ต่งชูหลานยื่นมือไปหยิกเข้าที่ขาฟู่เสี่ยวกวน ฟู่เสี่ยวกวนสูดปากด้วยความเจ็บ แม่นางคนนี้มือหนักเสียจริง !
ต่งซิวเต๋อจ้องไปยังฟู่เสี่ยวกวน “ครั้งแรกเยี่ยงนั้นรึ ? เจ้ากินอาหารที่จวนของเรามาตั้งสี่มื้อแล้ว !”
“ซิวเต๋อ เงียบนะ… !” ฮูหยินต่งว่าดุต่งซิวเต๋อ จากนั้นหันมายิ้มให้กับพวกเขาอีกสามคน “พวกเจ้าอย่าได้เกรงใจไป ถือว่าที่นี่เป็นบ้านของตนเอง เชิญกินได้ตามสบาย”
ซูเจวี๋ยโค้งคำนับขอบคุณอย่างมีมารยาท ซูโหรวยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ขอบพระคุณท่านฮูหยิน !” ส่วนซูซู นางเพิ่งเคยสัมผัสบรรยากาศข้ามปีเป็นครั้งแรก นางดีใจเสียจนขอบตาแดง
ฮูหยินต่งมองดูซูซู สตรีงดงามเพียงนี้ แต่ว่า… “แม่นาง สวมใส่เสื้อผ้าบางเช่นนี้ มิหนาวงั้นหรือ ? ”
ที่ห้องโถงมีกองไฟสุมอยู่ แน่นอนว่าไม่หนาวเท่าใดนัก ซูซูส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ท่านฮูหยินต่ง ข้า ข้ามิหนาว”
“มาเถิด กินอาหาร ปลานี้เป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองหลวงเชียว แม่นางลองชิมดู” ฮูหยินต่งคีบปลาชิ้นหนึ่งแล้ววางลงไปในชามของซูซู นางน้ำตาเอ่อล้นออกมา
“หืม ! แม่นางเป็นอะไรไป ?”
“ข้าขอบคุณท่านฮูหยินต่ง ข้า…ข้ามิเป็นไร” ซูซูยกแขนขึ้นมาปาดน้ำตา จากนั้นก้มหน้าก้มกิน
ซูเจวี๋ยตกตะลึงเล็กน้อย เขาเอ่ยกับฮูหยินต่งว่า “ที่จริงพวกเรานั้นล้วนเป็นเด็กกำพร้า เติบโตมาในสำนักเต๋า หลังจากได้รู้จักกับคุณชายฟู่ ก็ได้คุณชายคอยดูแล พวกเราพี่น้องจึงได้อยู่อารักขาคุณชาย ซูซูอายุยังน้อย นางอาจจะยังคิดถึงครอบครัวเดิมอยู่บ้าง ขอฮูหยินอย่าได้ถือสา”
เรื่องของสำนักเต๋า ต่งคังผิงรู้ดี เนื่องจากเขาติดตามเรื่องราวอยู่เสมอ อีกทั้งเขายังมีข้อมูลของสำนักชิงเฟิงซี่หยู่ที่องค์ชายห้าก่อตั้งขึ้นอีกด้วย
เขาคิดมิถึงว่าฟู่เสี่ยวกวนจะรู้จักกับคนเหล่านี้ได้ พวกเขาเปรียบเสมือนดาบสองคม หากฟู่เสี่ยวกวนใช้ถูกก็ได้ประโยชน์ แต่หากใช้ผิดวิธีก็อาจทำให้ตนเองบาดเจ็บได้
เขายกจอกขึ้นแล้วกล่าวว่า “หลังจากเสี่ยวกวนถูกจับตัวในคราก่อน ข้าก็รู้สึกเป็นห่วงถึงความปลอดภัยของเขา ขอบอกตามตรงว่าเสี่ยวกวนมีศัตรูที่เมืองหลวงมากทีเดียว และอาจเป็นพวกคนมีความสามารถ ดังนั้นความปลอดภัยของเสี่ยวกวนคงต้องไหว้วานพวกเจ้าทั้งสามแล้ว ข้าขอดื่มเพื่อทั้งสาม”
ซูเจวี๋ยยกแก้วขึ้น “นายท่านต่งวางใจได้ พวกข้าจะคอยดูแลคุณชายทุกฝีก้าว !”
บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลง ซูซูเดินออกมาจากความทรงจำเก่า ๆ ได้ นางยกแก้วสุราขึ้นดื่ม จากนั้นก็เริ่มเอ่ยเรื่องราวต่าง ๆ ที่พานพบ ทำให้คนอื่น ๆ หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน ฮูหยินต่งยิ่งทวีความเอ็นดูนางมากขึ้น
งานเลี้ยงฉลองอันสำราญดำเนินมากระทั่งเกือบเที่ยงคืน จานชามบนโต๊ะถูกจัดเก็บเรียบร้อย ทุกคนพากันไปยังลานด้านหน้า บ่าวรับใช้ยกน้ำชาและขนมออกมาวางบนโต๊ะ
ขนบธรรมเนียมของราชวงศ์หยู ในค่ำคืนข้ามปีจะต้องเฝ้ารอวันใหม่ แม้จะมิได้อยู่รอกระทั่งตะวันขึ้น แต่ก็ควรจะรอถึงเที่ยงคืน
ฟู่เสี่ยวกวนนั่งลงตรงหน้าต่งคังผิงและฮูหยินต่ง เขาคิดอยู่ชั่วครู่แล้วจึงเอ่ยว่า “ท่านลุงท่านป้า ข้ามีความคิดบางอย่างอยู่ พวกท่านลองฟังดูว่าเหมาะสมหรือไม่ ในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ข้าอยากจะให้ท่านพ่อมาสู่ขอชูหลานที่เมืองหลวง จัดการเรื่องของข้าและแม่นางชูหลานให้เรียบร้อย พวกท่านทราบดีว่าในปีหน้าข้าจะต้องเดินทางไปทำหน้าที่เข้าร่วมงานชุมนุมกวี หากเรื่องนี้ยังมิรีบจัดการ…ข้าเกรงว่าจะมิอาจวางใจปฏิบัติหน้าที่ได้”
ต่งชูหลานเขินอายจนก้มหน้าลงไป หัวใจนางเต้นดังโครมคราม
ต่งคังผิงและต่งหยวนชื่อสบตากัน จากนั้นก็มองไปยังฟู่เสี่ยวกวนด้วยสายตาเคร่งขรึม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)