ฟู่เสี่ยวกวนใคร่ครวญอยู่เนิ่นนาน ก็ยังคงส่ายหน้าดังเดิม
“เจ้ามิต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนเยี่ยนเสี่ยวโหลว…ถึงแม้ข้าจะเคยพบกับนางมาก่อน แต่ในยามนี้ก็มิมีความรู้สึกอื่นใดขึ้นมา ตระกูลเยี่ยนเป็นต้นไม้ใหญ่ของราชวงศ์หยู เยี่ยนเป่ยซีมิมีทางปล่อยให้ต้นไม้ใหญ่นี้ล้มลงอย่างง่ายดาย เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าทุกสิ่งของตระกูลเยี่ยนมาจากฮ่องเต้ หลังจากเริ่มทำงาน เขาจะเรียกตัวเยี่ยนฮ่าวชูกลับมา และให้เยี่ยนฮ่าวชูบอกลาตำแหน่งแม่ทัพกองทัพชายแดนตะวันออก เป็นการแสดงความตั้งใจของตระกูลเยี่ยนต่อฮ่องเต้”
“เหตุใดเขาต้องทำเยี่ยงนี้ด้วย ? มิใช่เป็นการหักแขนของตัวเองหรอกรึ ? ” หยูเวิ่นหวินเอ่ยถาม
“เขาชราแล้ว วางใจเถิด เขามิกล้าลงพนันหรอก !”
และในยามนี้ ภายในจวนเยี่ยนที่เข้มงวด เยี่ยนเป่ยซีและเยี่ยนซือเต้ากำลังนั่งคุยกันอยู่ในห้องอักษร
เยี่ยนซือเต้าก็ถามว่าทำไมเช่นกัน
เยี่ยนเป่ยซีครุ่นคิดอยู่เนิ่นนาน และกล่าวว่า “ข้าชราแล้ว แต่ฝ่าบาทยังหนุ่มยังแน่น ข้ามิสามารถนำชีวิตนับพันคนในตระกูลเยี่ยนไปเดิมพันกับสิ่งใดที่มีผลลัพธ์ที่มิสามารถจะคาดเดาได้”
“ดังนั้นจึงต้องถอนตัวออกจากกองทัพชายแดนตะวันออกหรือ ?”
“ในตอนที่ฟู่เสี่ยวกวนถามข้าด้วยคำถามนั้น ข้ามิได้ตอบกลับไป ขูดกระดูกเพื่อรักษาพิษและตัดแขนต่างก็มีความเจ็บปวดบนร่างตัวเองทั้งสิ้น ความแตกต่างอยู่ที่ความเจ็บปวดระยะสั้นกับระยะยาว โบราณกล่าวว่าความเจ็บปวดระยะยาวมิสู้ความเจ็บปวดระยะสั้น เยี่ยงนั้นตัดแขนไปเสียย่อมจะเป็นการดีกว่า”
เยี่ยนซือเต้าคิ้วขมวด แต่เยี่ยนเป่ยซีกลับยิ้มบาง ๆ และกล่าวอีกว่า “เขามิได้ถามคำถามกับข้า แต่เป็นการแสดงปัญหาออกมาให้เห็นโดยชัด และให้ตัวเลือกแก่ข้า ไม่ว่าจะเลือกหนทางใด ตระกูลเยี่ยนก็ได้รับความเสียหายอย่างมากทั้งสิ้น แน่นอน ว่าการให้ตระกูลเยี่ยนเสียหายนั้นมิเท่าเทียม เนื่องจากต้องปกป้องประเทศนี้ ตระกูลอื่นก็ต้องตัดแขนของตนเองเช่นกัน หากจะเจ็บก็ต้องเจ็บกันทุกฝ่าย”
“ท่านพ่อมีแผนว่าเยี่ยงไรบ้าง ? ”
“องค์ชายใหญ่ชื่นชอบการสู้รบมิใช่หรือ ลองเสนอไปเถิด พระองค์ค่อนข้างเหมาะสมกับตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพชายแดนตะวันออก”
“นั่น… เกรงว่าฝ่าบาทจะมิทรงเห็นด้วย”
“ไม่ ฝ่าบาทจะทรงเห็นด้วย”
เยี่ยนซือเต้ามิเข้าใจว่าเหตุใดบิดาถึงแน่ใจยิ่งนัก ทันทีที่องค์ชายใหญ่ออกห่างเมืองหลวง หากคิดอยากจะกลับไปก็มิง่ายดายอีกแล้ว หากฮ่องเต้ให้เขาอยู่ที่เมืองหลวง ก็กล่าวได้ว่าฝ่าบาทต้องการให้เขาขึ้นตำแหน่งองค์รัชทายาท แต่หากฝ่าบาททรงเห็นด้วยจริง ๆ…เยี่ยงนั้นตำแหน่งองค์รัชทายาทของเขาก็ยากที่จะช่วงชิงแล้ว
“หากองค์ชายใหญ่ไปกองทัพชายแดนตะวันออก เยี่ยงนั้นก็ต้องย้ายผู้บัญชาการเซวี๋ยติ้งชานกองทัพชายแดนตะวันตกกลับมา”
เซวี๋ยติ้งชานคืออาขององค์ชายใหญ่หยูเวิ่นเทียนและองค์ชายสี่หยูเวิ่นชู คนผู้นี้ได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้อย่างยิ่ง ตั้งแต่เซวี๋ยปิงหลานสิ้นใจไปหลังคลอด ฝ่าบาทก็จัดงานราชาภิเษก และประทานบรรดาศักดิ์แต่งตั้งชายาเอกเซวี๋ยปิงหลานเป็นองค์จักรพรรดินี ในขณะเดียวกันก็มีรับสั่งให้เซวี๋ยติ้งชานเป็นแม่ทัพของกองทัพชายแดนตะวันตก
ตระกูลเซวี๋ยที่ต่ำต้อยในเมืองหลวงตลอดมา สตรีทั้งสองอภิเษกสมรสกับฮ่องเต้ ต่อให้เซวี๋ยปิงหลานตายไปแล้ว แต่ก็ยังคงถูกจารึกให้เป็นองค์จักรพรรดินี พอจะเห็นได้แล้วว่าฝ่าบาทมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งให้แก่เซวี๋ยปิงหลาน และก็พอจะเห็นได้ว่าความเมตตาของฝ่าบาทที่มีต่อตระกูลเซวี๋ย
ดังนั้นหากคิดจะไปแตะต้องเซวี๋ยติ้งชาน เรื่องราวจะต้องลำบากมากเป็นแน่
เยี่ยนเป่ยซีส่ายหน้า “เคลื่อนไหวเซวี๋ยติ้งชานมิได้แล้ว…ทำเช่นนี้ไปก่อนเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว ข้าจะใคร่ครวญเรื่องอื่นในภายหลัง”
เยี่ยนซือเต้าเงยหน้ามองไปทางที่บิดาเดินไป จึงได้เห็นร่องรอยความอ่อนเพลียบนใบหน้า
ก่อนที่จะรู้สึกตัวได้ ผมของเขาก็ขาวโพลนแล้ว บนใบหน้าของเขาก็มีริ้วรอยของกาลเวลาที่ผ่านมานานหลายปี หนังตาของเขาหย่อนคล้อย ในยามนี้ที่ก้มต่ำ จึงมองมิเห็นว่าดวงตาคู่นั้นกำลังลืมตื่นหรือปิดสนิทอยู่
เยี่ยนซือเต้าโค้งคำนับและถอยออกมา ยืนอยู่ท่ามกลางหิมะในลานบ้าน มองแปลงดินที่อยู่ตรงมุมนั้น ฤดูใบไม้ผลิ บิดาได้ปลูกผักกุยช่ายที่แปลงตรงนั้น หลังจากนั้นเพราะงานที่มากมายจึงมิมีเวลามาจัดการ สุดท้ายก็กลายเป็นวัชพืชที่เติบโต ผักกุยช่ายเหล่านั้นถูกวัชพืชปกคลุมจนหมด จนมองมิออกว่าไหนผักกุยช่ายไหนวัชพืช
ยังจดจำเช้าตรู่ในวันนั้นได้ บิดาเหม่อมองแปลงดินผืนนั้นอยู่เนิ่นนาน สุดท้ายก็หัวเราะออกมา หยิบจอบขนาดเล็กมา และพลิกผืนดินจนหมด เพียงไม่นาน ผืนดินนั้นก็เต็มไปด้วยวัชพืชอีกครา บิดามิได้สนใจไยดีอีก จนถึงฤดูใบไม้ร่วง วัชพืชเหล่านั้นก็เหี่ยวเฉา จนถึงฤดูหนาว บนผืนดินนั้นนอกจากหิมะแล้ว ก็มิเห็นร่องรอยของวัชพืชอีก
ปัจจุบันบิดาอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถึงแม้เขาจะตัดสินใจมาแล้ว แต่เยี่ยนซือเต้าก็เข้าใจว่าการตัดสินใจในครานี้ยากถึงเพียงไหน
ขูดกระดูกรักษาพิษ ตัดแขนของตนเอง จะต้องทำเยี่ยงนั้นจริง ๆ รึ ?
คำถามของฟู่เสี่ยวกวนแท้จริงแล้วมีความนัยซ่อนอยู่หรือไม่ ?
หรือว่าเขารู้เรื่องภายในของการตาย ณ ที่ราบสีหม่ากัน ?
มิฉะนั้นเขาจะรู้เรื่องที่เป่ยหวังฉวนยิงธนูได้เยี่ยงไร ?
แล้วเหตุใดบิดาจึงมิตัดสินสังหารฟู่เสี่ยวกวนกลับอยากจะให้เสี่ยวโหลวตกแต่งกับฟู่เสี่ยวกวนแทนกัน ?
เยี่ยนซือเต้าคิดอย่างไรก็คิดมิตก ก้มหน้าก้มตาเดินไปเรือนของเขา เฟ่ยอู่ผู้บัญชากองทหารม้าของกองทัพชายแดนตะวันออกได้เดินทางกลับเมืองหลวงในคืนวันส่งท้ายที่ครึกครื้นที่สุด ในยามนี้กำลังรอความคิดเห็นของเขาอยู่ที่ห้องอักษร
…..
ขันทีเหนียนได้มาถึงจวนฟู่ยามบ่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)