นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 397

สรุปบท ตอนที่ 397 หนทางที่ยาวไกล: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

ตอน ตอนที่ 397 หนทางที่ยาวไกล จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 397 หนทางที่ยาวไกล คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 397 หนทางที่ยาวไกล

รัชสมัยเซวียนลี่ที่เก้า เดือนแปด วันที่สิบหก

รถม้าคันหนึ่งวิ่งออกจากที่จวนฟู่ในหลินเจียง ควบไปยังซีซาน และกลับมาที่เดิมในยามพลบค่ำ แต่กลับมิได้พาต่งชูหลานมาด้วย

“อะไรกัน ? ”

“เรียนฮูหยินรอง ชุนซิ่วกล่าวว่าคุณหนูต่งชูหลานมิว่างขอรับ”

ฉีซื่อและอนุทั้งห้าคนขมวดคิ้ว มิว่างเยี่ยงนั้นหรือ ?

เพียงแค่มาเจรจาเหตุผลกันกลับบอกว่ามิว่าง ?

หรือว่านางคิดที่จะฮุบเอากิจการใหญ่โตของตระกูลฟู่ไว้เพียงคนเดียวเยี่ยงนั้นหรือ ?

“นางไปใด ? ”

“ชุนซิ่วกล่าวว่ามิทราบเช่นกันว่าคุณหนูต่งไปที่ใด หากแต่นายหญิงทุกท่านอยากไปพบนายหญิงน้อย เช่นนั้นขอเชิญให้ไปพบด้วยตนเอง”

ฉีซื่อใบหน้าแข็งทื่อขึ้นทันพลัน “ชุนซิ่ว นังบ่าวรับใช้ชั้นต่ำยังกำเริบเสิบสานได้ถึงเพียงนี้ นายหญิงน้อยเยี่ยงนั้นหรือ หึ หน้ามิอายกล้าแสดงตนว่าเป็นสะใภ้ มิเคยเห็นข้าอยู่ในสายตาเลยหรือเยี่ยงไรกัน ! ”

“มิได้การล่ะ ข้าต้องไปซีซานด้วยตนเองสักครา…พวกเจ้าจะไปด้วยกันกับข้าหรือไม่ ? ”

อนุทั้งห้าต่างคนต่างมองท้องที่ใหญ่โตของตนเอง จะไปได้เยี่ยงไรเล่า ?

อนุสามกล่าวว่า “ในเมื่อท่านพี่ตั้งใจเช่นนี้ คงต้องรบกวนท่านพี่แล้ว พวกเราจะรอ…อยู่ที่จวนนี้รอข่าวดีจากท่านพี่”

ฉีซื่อสูดลมหายใจลึก “พรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปแต่เช้าตรู่ ไปหารือกับนังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวนี้เสียหน่อย ! ”

……

ต่งชูหลานบัดนี้กำลังนั่งอยู่ในรถม้าบนเส้นทางภูเขาที่คดเคี้ยวมุ่งหน้าไปที่ภูเขาเฟิ่งหลิน

นางรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก จนหยูเวิ่นหวินและเยี่ยนเสี่ยวโหลวที่โดยสารมาด้วยกันกับนางรู้สึกเป็นห่วงนางยิ่ง

พวกเขามิรู้ว่ารีบร้อนมาทำอันใดบนถนนที่คดเคี้ยวนี้ ต่งชูหลานมิได้บอกกล่าวกับพวกนาง เพียงแต่ดูจากสีหน้านางแล้วคงมิใช่เรื่องมิดี แต่กลับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก

ต่งชูหลานยกม่านหน้าต่างรถม้าขึ้นมองไปยังด้านนอก มีไป๋ยู่เหลี่ยนควบรถอยู่นางมิได้กลัวว่าจะมิปลอดภัย หากแต่รู้สึกว่าถนนเส้นนี้ยาวไกลมากยิ่งนัก

สุริยาลาลับขอบฟ้า จันทราลอยเด่น บนเส้นทางที่ห่างไกลในป่าเขาแห่งนี้เงียบสงัดยิ่ง

นางปล่อยม่านรถม้าลง หันหน้าไปทางหยูเวิ่นหวินและเยี่ยนเสี่ยวโหลว ริมฝีปากยกยิ้มขึ้น เลิกคิ้วสูง บนใบหน้าสวยหวานของนางแสดงความปิติยินดียิ่ง

“เอาล่ะ บัดนี้ข้าสามารถบอกกับพวกเจ้าได้แล้ว ข้าอึดอัดมากยิ่งนักที่ต้องเก็บไว้คนเดียวเสียเนิ่นนาน”

หยูเวินเหวินและเยี่ยนเสี่ยวโหลวโน้มตัวลง มองต่งชูหลานด้วยอารามประหลาดใจ

ต่งชูหลานกัดริมฝีปาก กล่าวด้วยเสียงอันเบาว่า “ฟู่เสี่ยวกวนกลับมาแล้ว ! ”

หยูเวิ่นเหวินและเยี่ยนเสี่ยวโหลวตกตะลึงขึ้นทันใด ดวงตาทั้งสองข้างของพวกนางเบิกกว้าง มองต่งชูหลานราวกับยากที่จะเชื่อ

ผ่านไปหลายอึดใจ หยูเวิ่นหวินถึงได้กลั้นหายใจเอ่ยถามด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “จริงเยี่ยงนั้นหรือ ? อย่าหลอกพวกเรานะ ! ”

“ย่อมเป็นความจริงอย่างแน่นอน ไป๋ยู่เหลียนบอกกับข้าด้วยตนเอง เขาเกรงว่าพวกเราจะทำให้ผู้อื่นในเรือนซีซานตื่นตกใจ ดังนั้น…ข้าจึงรอให้ถึงตอนนี้แล้วค่อยบอกกับพวกเจ้า หากแต่ว่าเรื่องนี้ที่ข้าต้องเก็บเอาไว้คนเดียว แท้ที่จริงแล้วข้าอึดอัดมากยิ่งนัก”

หยูเวิ่นหวินและเยี่ยนเสี่ยวโหลวค่อย ๆ เผยรอยยิ้มออกมา

ราวกับมีสายลมของฤดูใบไม้ผลิพัดโชยมา พัดน้ำแข็งในทะเลสาบเว่ยยางให้ละลายหายไป ราวกับดอกไม้นับร้อยที่เริ่มผลิบานในฤดูใบไม้ผลิ

พวกนางสูดลมหายใจเข้าเสียยาวเหยียด มิได้โห่ร้องด้วยความยินดี แต่กลับกำหมัดแน่นทำให้ร่างกายสั่นไหวเล็กน้อย นัยน์ตานั้นทอแสงประกายเจิดจ้า พวกนางได้แสดงความตื่นเต้นออกมาหลังจากที่ได้ทราบข่าว

เขายังมีชีวิตอยู่ !

“มิเป็นไร”

สตรีทั้งสามคนไหนเลยจะคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องเช่นนี้ ขณะนี้จิตใจของพวกนางได้โบยบินไปถึงฝั่งแล้ว โบยบินไปอยู่ข้างกายคนผู้นั้นแล้ว

เรืออูเผิงเทียบฝั่งแล้ว พวกนางทั้งสามคนจ้องไปยังบนฝั่ง เห็นคนผู้หนึ่งยืนถือโคมไฟดวงนั้น

เขายืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ รอยยิ้มบนใบหน้าที่ดูคุ้นเคย แววตาลับ ๆ ล่อ ๆ จ้องมองมาที่พวกนาง

ไป๋ยู่เหลียนยักไหล่ โบกมือไปมา และหันหัวเรือจากไป ในใจพลางคิดว่าคฤหาสน์หยุนหูแห่งนี้ เกรงว่าคืนนี้คงจะได้เติมเต็มพลังแห่งชีวิต !

พวกนางทั้งสามคนมาถึงเบื้องหน้าของฟู่เสี่ยวกวน พวกนางจ้องมองฟู่เสี่ยวกวนอย่างละเอียดอีกครา มิอยากจะเชื่อว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องจริง

กี่คืนแล้วที่ข่มตานอนมิหลับ กี่วันแล้วที่ต้องคอยหวาดผวา

พวกนางคอยฟังข่าวคราวทุกอย่างของราชวงศ์อู๋ แต่ข่าวคราวที่ได้กลับมาล้วนทำให้พวกนางต้องปวดใจและสิ้นหวัง

เดิมทีพวกนางคิดว่าในชีวิตนี้คงมิได้เจอคนผู้นี้อีกแล้ว ถึงขนาดที่ว่าพวกนางได้เตรียมพื้นที่ภูเขาด้านหลังเรือนซีซานเพื่อสร้างสุสานให้กับเขาไว้แล้วด้วยซ้ำ

ในขณะนี้เขาได้ปรากฎตัวออกมาแล้ว

เขาที่ยังคงมีชีวิตอยู่ กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าของพวกนาง

ความดีใจและแปลกใจนี้ทำให้พวกนางราวกับตกอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน แม้แต่ต่งชูหลานเองก็มิใช่ข้อยกเว้น ในใจของพวกนางยังมิอยากจะเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง

ฟู่เสี่ยวกวนยกมือขึ้นลูบหน้าตนเอง และเอ่ยถามอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ “อะไรกัน เพียงแค่ครึ่งปีก็จำกันมิได้แล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

ต่งชูหลานกลอกตาใส่เขา หยูเวิ่นเหวินกลืนน้ำลายเบา ๆ เยี่ยนเสี่ยวโหลวโผเข้าไปหาเขาทันที

ในคืนนี้ ณ เกาะกลางทะเลสาบหยุนหูแห่งนี้ ได้เกิดโศกนาฏกรรมนองเลือดขึ้นแล้ว !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)