ในเวลานั้น…
เฉียนห้าวยกมือซ้ายขึ้นมา ง้างธนูของเขาอย่างประหม่า และแล้วลูกธนูก็พุ่งตรงเข้าไปที่ลำคอของทหารชาวฮวงผู้นั้น
ทหารคนนั้นล้มกระแทกกับพื้น ทำให้ทหารฮวงที่เหลือพากันแตกตื่น
ในเสี้ยววินาทีนี้ ก็ได้เกิดการโจมตีกลับมาจากฝั่งของทหารแคว้นฮวง
“ข้าศึกโจมตี… ข้าศึกโจมตี…”
มีเสียงคนตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก และลูกธนูก็ได้พุ่งทะลุลำคอของคนที่ตะโกนเข้าไป
ทหารฮวงที่เหลือชักดาบออกจากฝัก ฟันเข้าไปที่เยียนกุ่ยและทหารคนอื่น ๆ เฉียนห้าวมิมีเวลามาคิดแล้วว่าจะฆ่าชายผู้นี้เยี่ยงไร มิมีแม้กระทั่งเวลาหยิบลูกธนูด้วยซ้ำ ในมือของเขาถือดาบเล่มยาว ฝึกมาตั้งนานเวลานี้แหล่ะที่จะได้ใช้สักที
เขาย่อตัวลงเล็กน้อย โน้มตัวยกดาบขึ้นสูงแล้วปักลงอย่างเต็มแรงหวังฆ่าให้ตาย แต่กลับพลาด ศัตรูหันหลบคมดาบได้อย่างรวดเร็ว สุดท้ายเขาก็หาโอกาสเชือดคอศัตรูเสียจนขาด
ขณะที่กำลังเอี้ยวตัวกลับมา เขาเห็นศัตรูคนหนึ่งกำลังเล็งดาบไปยังสหายร่วมทีม เขาจึงขว้างดาบออกจากมือ ดาบยาวพุ่งตรงดิ่งแทงเข้าไปทะลุลำคอ
เขาหยิบดาบอีกเล่มที่หลังออกมา ปัดป้องไปยังใบมีดของศัตรู สหายร่วมทีมฉวยโอกาสนี้ปลิดชีพศัตรูด้วยธนูทันที
การร่วมรบของพวกเขาดำเนินไปได้ด้วยดี การต่อสู้กับทหารของชาวฮวงทั้งสามสิบคนนั้น มิมีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเลยสักคนเดียว และเพียงแค่ไม่กี่สิบอึดใจแน่นอนว่าทหารของแคว้นฮวงทั้งสามสิบนายเหล่านั้นก็มิมีผู้ใดรอดชีวิตเช่นกัน
เยียนกุ่ยคาบบ้องยาสูบเอาไว้ในปาก พร้อมตบเข้าที่ไหล่ของเฉียนห้าว “เจ้าหนู เก่งใช้ได้นี่ ! ”
สหายของเขาหัวเราะแล้วยกนิ้วโป้งให้ “เจ้าหนู เจ้ามันแน่จริง ๆ ! ”
นี่คือการฆ่าหมูเยี่ยงนั้นหรือ ?
ทันใดนั้น เฉียนห้าวก็รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าเขาก็ทำได้และยังจะทำได้ดีกว่านี้อีกด้วย
เขาหัวเราะออกมา โดยที่มิได้สังเกตเลยว่าร่างกายของเขาขณะนี้ชุ่มไปด้วยเลือด
บริเวณรอบ ๆ กระโจมนี้ เรียกว่าเป็นที่ที่สังหารศัตรูมากกว่าห้าพันคน และขณะนี้กองพลที่สามก็ยังมิได้รับความเสียหายใด ๆ เลยแม้แต่น้อย
แต่แล้วการต่อสู้ที่โหดร้ายก็ได้มาถึง !
ภายในกระโจมแน่นไปด้วยทหารที่มารวมตัวกัน ความตรึงเครียดมีมากยิ่งขึ้น การลาดตระเวนก็เพิ่มมากขึ้น เมื่อทหารของตนมากกว่าสองพันคนถูกลอบสังหารในที่สุดกองพลที่สามก็ถูกเปิดโปง
เสียงแตรฉุกเฉินดังเข้ามาภายในค่าย ท่าป๋าฉงสะดุ้งตกใจและคว้าดาบที่วางไว้บนโต๊ะขึ้นมา “ข้าศึกโจมตี ! ข้าจะไปจัดการมัน ! ”
นายพลทั้งสามถึงกับผงะ หรือว่าเป็นเพราะข่าวรั่วไหล เผิงเฉิงอู่ถึงได้นำทหารกลับมาแก้มือเยี่ยงนั้นหรือ ?
พวกเขารีบออกจากกระโจมหลังใหญ่และกลับไปประจำการที่หน่วยของตน จึงได้พบว่าทหารของพวกเขาถูกฆ่าตายและบาดเจ็บนับมิถ้วน
หวังเสี่ยวจ้วงหน้านิ่วคิ้วขมวด ยังมีศัตรูอีกนับหมื่นเยี่ยงนั้นหรือ ข้าต้องจัดการให้สิ้นซากให้ราบเป็นหน้ากลอง !
นี่เป็นคราแรกที่หวังเสี่ยวจ้วงนำกองทัพเข้าต่อสู้กับศัตรู เขามิเคยทำมาก่อน เขากำลังคิดบางอย่างและอยู่ ๆ เขาก็คิดถึงสิ่งที่ไป๋ยู่เหลียนเคยสอนเขา
เมื่อต้องโจมตีซึ่งหน้ากับศัตรู พวกเราต้องแสดงแสนยานุภาพอาวุธของพวกเราให้ศัตรูได้รู้ว่าพวกเราเหนือกว่าแค่ไหน จะต้องทำให้พวกมันขวัญหนีดีฝ่อให้จงได้ !
ใช่ ถูกต้องแล้ว !
“กองพันที่หนึ่ง กองพันที่สองคอยคุ้มกัน กองพันที่สามบุกเข้าไปกับข้า ใช้ระเบิดไฟเพื่อเปิดทาง ! ”
สิ้นเสียงออกคำสั่ง พลทหารทั้งหลายก็ได้วิ่งนำออกไปก่อนที่จะหยิบลูกระเบิดออกมาจากกระเป๋า ดึงสลักแล้วโยนออกไปท่ามกลางเหล่าศัตรู
“ตู้ม… ! ” เสียงระเบิดดังก้อง บัดนี้การโจมตีเปิดฉากขึ้นแล้ว มีผู้บาดเจ็บหลายสิบคน ทหารของแคว้นฮวงวิ่งแตกตื่นหนีกันกระเจิง นี่มันอาวุธประเภทใดกัน ?
ถูฟูเห็นหัวหน้ากองพลวิ่งไปนำทัพหน้าสุด นี่มันเกิดเหตุอันใดขึ้นกัน ?
“พี่น้องทั้งหลาย ตามข้ามา ! ”
เขาชักปืนออกมา มือขวาถือปืนขณะที่มือซ้ายกำระเบิดไฟ เขาใช้ปากกัดสลักออก และขว้างออกไปทันทีทันใด ระเบิดลอยไปตกที่บริเวณใกล้ ๆ กับที่ข้าศึกรวมตัวอยู่
แม่ทัพคนหนึ่งของฝั่งศัตรูก็ได้อยู่ที่นั่นเช่นกัน เขายังมิทันหายตระหนกจากระเบิดไฟลูกแรก ระเบิดไฟลูกที่สองก็ได้หล่นลงมาข้าง ๆ ตัวเขา
จนกระทั่งเขาตายตก เขาก็ยังมิรู้เลยว่าอาวุธที่ทรงพลังถึงเพียงนี้คืออะไร และถือว่าเป็นเกียรติมากที่เขาเป็นแม่ทัพคนแรกที่ตายด้วยอาวุธชนิดใหม่นี้
เสียงปืนดังขึ้น ศัตรูค่อย ๆ ทยอยล้มตายไป
เสียงปืนที่ดังอย่างต่อเนื่อง เสียงรบราฆ่าฟันและเสียงระเบิดไฟที่ดังขึ้นเป็นครั้งครานั้น ทำเอาศัตรูมิสามารถเปิดการโจมตีกองพลที่สามได้เลย หลายคนตายเพราะถูกยิงจากระยะไกลบางคนโดนแรงระเบิดจนร่างกายหลุดรุ่ยเลือดอาบไปทั่วทั้งร่าง เหลือเพียงลมหายใจที่แผ่วเบา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)