อ่านสรุป ตอนที่ 426 โจมตีในคืนหิมะตก จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 426 โจมตีในคืนหิมะตก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 426 โจมตีในคืนหิมะตก
เมื่อยามราตรีมาเยือน องค์หญิงสามทรงรับสั่งให้ตั้งค่ายพักท่ามกลางหิมะที่กระหน่ำเทลงมาอย่างต่อเนื่อง
การเดินทางไปยังเมืองหลวงของแคว้นฮวงในครานี้ จากแผนการและความเร็วในตอนนี้ คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกราวครึ่งเดือน
ท่าป๋าชิวมิได้รีบร้อนอันใด เนื่องจากแคว้นฮวงมีโจรบุกเข้ามากลุ่มหนึ่ง แน่นอนว่าเขารู้ดีว่าโจรกลุ่มนั้นหาใช่โจรทั่วไปไม่ แต่คือกองกำลังดาบเทวะที่มาจากภูเขาผิงหลิง
เขาได้รับรายงานเกี่ยวกับกองกำลังทหารเหล่านี้ ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน กองทัพนี้ได้เดินทางผ่านทุ่งหญ้าหกแห่งในระยะทางเกือบพันลี้ และเข้าปล้นเมืองถึงเก้าเมือง
พวกเขาต้องการทำสิ่งใดกัน ?
ท่าป๋ายวนได้เอ่ยถามท่าป๋าชิว
ท่าป๋าชิวตอบกลับด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “หากมองง่าย ๆ พวกเขาต้องการทำให้แคว้นฮวงวุ่นวาย”
เรื่องนี้ท่าป๋ายวนเข้าใจดี เพื่อทำลายล้างกองทัพนี้ แคว้นฮวงได้ส่งกองกำลังทหารถึง 60,000 นายเข้าล้อมจากสามทิศทาง
แต่ที่น่าเสียดายก็คือ จวบจนบัดนี้ก็ยังมิมีโอกาสจับพวกเขาได้ อีกทั้งยังสูญเสียกำลังทหารไปอีกราว 10,000 นาย
กองทัพทหารม้าทั้งหกหมื่นนายลงมือท่ามกลางหิมะที่ตกหนักเยี่ยงนี้ ต้องใช้เสบียงมากโขเสียทีเดียว แม้ว่าจะมิต้องให้กองหลังส่งเสบียงมาเพิ่ม แต่เสบียงเดิมที่กักเก็บไว้ในเมืองเปียนเฉิงก็ใกล้จะหมดลงทุกที
จากจำนวนทหารมิถึง 4,000 นาย สามารถหลบหนีทหารจำนวน 60,000 นายของแคว้นฮวงไปได้ พวกเขาได้ยึดม้าศึกไป อีกทั้งเสบียงอาหารที่จำเป็นก็ถูกพวกเขายึดเอาไปด้วย พวกทหารเหล่านี้ทำให้แคว้นฮวงเกิดความวุ่นวาย อีกทั้งยังทำให้ผู้คนที่อาศัยตามทุ่งหญ้าหวาดระแวง
“หากว่ามองให้ลึกลงไปเล่า ? ”
ท่าป๋าชิวครุ่นคิดเสียเนิ่นนาน “หากมองให้ลึกลงไป เกรงว่านี่จะเป็นการทำลายล้างแคว้นฮวง”
ท่าป๋ายวนชะงัก กองกำลังเพียงแค่ 4,000 นายจะทำลายล้างแคว้นฮวงเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
เป็นไปมิได้ !
แม้ว่าแคว้นฮวงจะมีพื้นที่น้อยที่สุดในสี่แคว้นนี้ อีกทั้งประชากรก็น้อยที่สุด แต่ก็ยังมีประชากรรวมกันหลายล้านคน เพียงทหาร 4,000 นาย…เกรงว่าท่านพ่อจะคิดมากไปเอง
“หากว่าเจ้ามิเชื่อ คาดว่าองค์จักรพรรดิก็คงมิเชื่อเช่นกัน” ท่าป๋าชิวดื่มสุราหนึ่งจอก ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ ว่า “ถูกต้องแล้ว พวกเขามีเพียง 4,000 นาย นับแต่ทหารเหล่านี้เข้ามายังแคว้นฮวง ก็ได้เข่นฆ่าทหารของพวกเราไปกว่า 16,000 นาย ยังมิรวมกับทหารชั้นเลิศที่ตายในภูเขาผิงหลิงอีก 20,000 นาย”
“พวกมันปล้นม้าไปราว 10,000 ตัว เผาทำลายทุ่งเลี้ยงสัตว์ไป 6 แห่ง อาจจะดูเหมือนว่าพวกเรามิได้เสียหายอันใดมากนัก แต่เจ้าอย่าลืมว่า พวกเราฆ่าพวกมันมิได้แม้แต่คนเดียว ! ”
“ใช้การต่อสู้ในการเพิ่มความแข็งแกร่ง เดิมทีนี่คือนโยบายของแคว้นฮวง แต่บัดนี้กลับถูกเหล่ากองกำลังดาบเทวะใช้มันทำลายพวกเรา ! ”
ท่าป๋าชิวสูดหายใจเข้า น้ำเสียงของเขาดูหนักอึ้ง “มดแม้ว่าจะตัวเล็ก แต่ก็สามารถกัดช้างให้ตายได้ หากพวกเรามิสามารถทำอันใดพวกมันได้เลย ข้าขอถามเจ้าว่า หลังจากนี้อีกหนึ่งปีแคว้นเราจะมีม้าศึกใช้อยู่อีกหรือไม่ ? จะยังมีเหล่าทหารที่มากความสามารถอยู่อีกหรือ ? ”
ท่าป๋าชิวจึงได้ตระหนักว่า กองกำลังดาบเทวะมิได้ต้องการเพียงรุกเข้ามาในแคว้นเพียงเท่านั้น แต่พวกเขาต้องการม้าศึกและทำลายทุ่งเลี้ยงสัตว์ทิ้งเสีย อีกทั้งยังต้องการจัดการกับทหารที่เหลือให้หมดสิ้น เช่นนั้นแล้วแคว้นฮวงยังจะมีสิ่งใดหลงเหลืออีกกัน ?
“พวกเราทำอันใดพวกมันมิได้เลยเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“รอให้อาวุธในมือของพวกมันถูกใช้จนหมดสิ้น พวกเราจึงจะมีโอกาสโจมตีได้…เจ้าเคยพบฟู่เสี่ยวกวนมาก่อนในราชวงศ์อู๋ เขาผู้นี้เป็นคนเยี่ยงไรกันแน่ ? ”
ท่ามกลางหิมะที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เขาได้ยินเสียงฝีเท้าของม้าศึก!
ในที่แห่งนี้ถูกหิมะปกคลุมเป็นชั้นหนาพอควร หากสามารถได้ยินเสียงฝีเท้าของม้าได้ นั่นหมายความว่าทหารม้าเหล่านั้นได้เข้าใกล้มาทุกทีแล้ว
“กองกำลังดาบเทวะเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
ท่าป๋าชิวเองก็ขมวดคิ้วแล้วเอียงหูฟัง ผ่านไปชั่วครู่จึงได้ยิ้มออกมาว่า “ทหารม้า 2,000 นาย มาได้จังหวะพอดี”
ในขณะนั้นเอง ค่ายที่อยู่ไม่ไกลออกไปได้มีกองทัพทหารอยู่ 10,000 นาย พวกเขามุ่งหน้าไล่ติดตามกองกำลังดาบเทวะทั้งสองพันนายเหล่านั้นไปด้วยความเร็ว
ท่าป๋ายวนตกตะลึง ท่าป๋าชิวจึงยกยิ้มแล้วกล่าวขึ้นว่า “พวกเขามาแล้ว มาเพื่อชิงตัวองค์หญิงสามกลับไปยังราชวงศ์หยู ดังนั้นข้าจึงได้จัดเตรียมทหารม้าไว้ 10,000 นายให้รออยู่ที่นี่ อีกทั้งยังมีทหารอีก 10,000 นายเพื่อหลอกล่อเสือให้เข้าถ้ำ”
“ท่านพ่อปรีชายิ่ง เพียงแต่ว่า…หากพวกเขาจะนำตัวองค์หญิงสามกลับไปยังราชวงศ์หยู จะมิทำเกินความจำเป็นไปหน่อยหรือ ? ”
“ไม่ ! ในเมื่อได้ลงนามหนังสือระหว่างแคว้นไว้แล้ว การที่พาตัวองค์หญิงเข้าสู่แคว้นฮวงคือเรื่องที่หลีกเลี่ยงมิได้ หากว่าองค์หญิงสามถูกโจรลักพาตัวไป มิเพียงแต่มิผิดต่อหนังสือสัญญาระหว่างแคว้น แต่ราชวงศ์หยูยังมีข้ออ้างได้อีกด้วย”
ท่าป๋าชิวลุกขึ้นยืนเเล้วเดินไปทางค่ายพักแรม “สงครามชายแดนตะวันออกของแคว้นฮวงย่อมพ่ายแพ้อย่างแน่นอน เมื่อมิกี่วันก่อนเจ้าเองก็ได้เห็นแผนการปลอบใจราษฎรของฟู่เสี่ยวกวนแล้ว หากรอให้ราชวงศ์หยูเตรียมตัวอีกสัก 2 ปี หากว่ากองกำลังดาบเทวะยังคงบุกรุกอยู่ในแคว้นฮวงอีกสัก 2 ปี เจ้าว่าจากการโจมตีของกองทัพทหารจากราชวงศ์หยู แคว้นฮวงจะยังต่อสู้ไปได้อยู่อีกหรือไม่ ? ”
ท่าป๋ายวนตกตะลึงยิ่ง “นี่คือแผนที่ฟู่เสี่ยวกวนได้วางไว้นานแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“นอกจากเขาแล้ว ในใต้หล้านี้ยังมีผู้ใดที่สามารถวางแผนได้แยบยลถึงเพียงนี้อีก ยังมีผู้ใดอีกกัน ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)