นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 454

ตอนที่ 454 จงฟังข้า
ตอนที่ 454 จงฟังข้า

คณะเจรจาจากแคว้นอี๋จะเดินทางมาถึงเมืองจินหลิงในวันพรุ่งนี้

ฟู่เสี่ยวกวนในฐานะผู้นำทูตเจรจาในครานี้ เขาจะต้องมาสื่อสารกับคณะเจรจาของแคว้นอี๋

และมีสวี่หวยซู่เสนาบดีกรมพิธีการเป็นรองผู้นำทูต เขาเองก็มีสิทธิ์ในการเจรจาเช่นกัน

กรมพิธีการใหญ่โตถึงเพียงนี้ ขุนนางมากมายต่างพากันจ้องมองภาพเบื้องหน้าด้วยท่าทีตกตะลึง

ฟู่เสี่ยวกวนนำขาข้างหนึ่งเหยียบลงบนเก้าอี้แล้วถกแขนเสื้อขึ้นพร้อมกับกล่าวด้วยสีหน้าเหมือนอันธพาล

“ข้าต่างหากที่เป็นผู้นำทูต และขอบอกกล่าวกับพวกเจ้าทุกคนเอาไว้เลยว่า คณะเจรจาจากแคว้นอี๋จะเดินทางมาถึงในวันพรุ่งนี้ แต่ยังมิต้องไปต้อนรับ ! มิต้องไปสนใจ ! มิต้องจัดเตรียมที่พัก ! แม้แต่เรื่องอาหารการกินก็เช่นกัน ! ”

สวี่หวยซู่หน้าแดงขึ้นมาด้วยอารามโกรธ เขารู้สึกได้ว่าหลานชายผู้นี้ต้องการขัดแย้งเขา เมื่อคราที่เดินทางไปยังแคว้นอู๋ ความคิดเห็นของทั้งสองก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เเม้ว่าเจ้าหมอนี่จะมิได้เดินทางไปยังแคว้นฮวง แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไป๋ยู่เหลียนคือตัวแทนของเขา

และบัดนี้ เจ้าหมอนี่ก็มิเห็นด้วยกับรายละเอียดต่าง ๆ ที่เขาได้เตรียมต้อนรับเอาไว้ อีกทั้งยังโต้แย้งอย่างเด็ดขาดอีกด้วย เรียกได้ว่าปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง !

“ราชวงศ์หยูอันสูงส่ง มีคณะทูตเจรจาเดินทางมาจากแคว้นอี๋ หากแคว้นเรามิต้อนรับดูแลพวกเขาให้ดี แล้วพวกเขาจะมองแคว้นเราเยี่ยงไร ? หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ผู้คนทั่วทั้งใต้หล้าจะมองราชวงศ์หยูเยี่ยงไร ? ราชวงศ์หยูเป็นแหล่งกำเนิดของตำราศักดิ์สิทธิ์ เรื่องของมารยาทต่าง ๆ พวกเราควรเป็นแบบอย่างที่ดี ! ”

“แบบอย่างบ้าบออันใดกัน ! ”

ฟู่เสี่ยวกวนมิได้ไว้หน้าท่านลุงของเขาผู้นี้แม้แต่น้อย

“ให้ตายสิ ! พวกเขาเดินทางมากันตั้งร้อยกว่าคน จะต้องใช้เงินจำนวนเท่าใดมาต้อนรับกัน ? เงินเหล่านี้นำไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจนเดือดร้อนจะมิมีประโยชน์มากกว่านี้หรือ ? ”

“บัดนี้ข้ามิอยากจะทะเลาะกับท่านด้วยเรื่องมารยาทเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นสิ่งจอมปลอมทั้งสิ้น ข้าต้องการความเป็นจริงและจับต้องได้ ที่สามารถทำให้ราชวงศ์หยูได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง ! ”

“หากท่านยังคิดจะคัดค้านข้าอีก ข้าจะปลดตำแหน่งรองทูตเจรจาของท่านเสีย ! ”

ฟู่เสี่ยวกวนแทบจะกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะที่สวี่หวยซู่นั่งอยู่ สวี่หวยซู่หน้าแดงจนลามไปถึงใบหูทั้งสองข้างด้วยอารามเดือดดาล “เจ้า เจ้า ! เจ้ามัน มิมีเหตุผลเอาเสียเลย ! ”

“บัดนี้ข้ามิอยากใช้เหตุผลสนทนากับท่าน…” ฟู่เสี่ยวกวนเก็บขาข้างนั้นลงมา แล้วมองไปยังเหล่าขุนนางที่กำลังตกตะลึงอยู่ “พวกเจ้าจำเอาไว้ให้จงดี หากผู้ใดละเมิดคำสั่งของข้า ข้าจะทูลให้ฝ่าบาทปลดตำแหน่งของพวกเจ้าเสีย ! ”

เขาจ้องมองไปยังขุนนางเหล่านั้นตาเขม็งแล้วกล่าวต่อไปว่า “หากคิดว่าข้าทำมิได้ก็ลองดู ข้าคือบุตรเขยของฝ่าบาท ! หากจะกล่าวถึงภูมิหลัง พวกเจ้ามิอาจเปรียบเทียบกับข้าได้ หากจะกล่าวถึงตำแหน่ง ข้าเป็นถึงขุนนางระดับสาม ดังนั้นพวกเจ้าจงตั้งใจฟังเอาไว้ให้จงดี ! ”

“เมื่อคณะทูตเจรจาจากแคว้นอี๋เดินทางมาถึง มิต้องสนใจ มิต้องเอ่ยถาม มิต้องต้อนรับ จงจับตาดูให้ดี จำไว้ว่าต้องรอให้ถึงปีใหม่เสียก่อน ! ”

“หึ ๆ เมื่อข้ามปีใหม่แล้วค่อยมาเจรจากัน ตอนเจรจาพวกเจ้าจงฟังและจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรก็พอ ส่วนจะเจรจาเยี่ยงไร เจรจาถึงขั้นไหน นั่นเป็นเรื่องของข้า พวกเจ้านั้นมิต้องเป็นเดือดเป็นร้อน ! ”

ฟู่เสี่ยวกวนยักไหล่แล้วก้าวขาทำท่าจะเดินจากไป “พวกเจ้านั้นพลาดโอกาสในการกอบโกยเงินทองเสียแล้ว ! ”

เขาทิ้งท้ายด้วยประโยคนี้ก่อนจะเดินทางออกจากกรมพิธีการไป แล้วมุ่งตรงไปยังกรมการค้า

ขุนนางกรมพิธีการยังมิได้สติคืนกลับมา พวกเขามองไปยังสวี่หวยซู่ ว่ากันว่าญาติฝั่งแม่นั้นลุงคือผู้ที่มีอำนาจสูงสุด แต่ท่านเสนาบดีช่างเป็นลุงที่น่าสมเพชเสียจริง

“มองอันใดกัน ! ”

“…ท่านเสนาบดี บัดนี้พวกเราจะ… ? ”

สวี่หวยซู่นั่งลงบนเก้าอี้แล้วเบิกตากว้าง ผ่านไปเนิ่นนานก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วกล่าวอย่างเบื่อหน่ายว่า “จะทำอันใดได้อีก ? ทำเป็นมิรับรู้เรื่องนี้ก็แล้วกัน รอดูว่าเมื่อถึงเวลาเขาจะจัดการเยี่ยงไร ! ”

ขุนนางทั้งหลายจึงได้ดึงสติกลับคืนมา ท่านเสนาบดีพ่ายแพ้แก่ฟู่เสี่ยวกวนอีกแล้วเยี่ยงนั้นหรือ แต่ที่ฟู่เสี่ยวกวนกล่าวว่าพวกเขาพลาดโอกาสกอบโกยเงินทอง หมายถึงหุ้นที่เพิ่งเปิดกิจการวันนี้เยี่ยงนั้นหรือ ?

ดังนั้นขุนนางทั้งหลายจึงมิได้สนทนาถึงเรื่องการต้อนรับคณะเจรจาจากแคว้นอี๋อีก แต่กลับนำเรื่องหุ้นขึ้นมาสนทนาแทน

“เมื่อตอนกลางวันข้าได้เดินไปดู มีคนอยู่มากมายอย่างแท้จริง แต่ข้าได้ยินคนเหล่านั้นกล่าวว่าสิ่งนี้มิมั่นคงเท่าใดนัก”

“โชคดีที่เจ้ามิได้ซื้อ ใช้เงินจริง ๆ ไปแลกกระดาษเพียงแผ่นเดียว คงมีเพียงฟู่เสี่ยวกวนเท่านั้นที่กล้าทำเช่นนี้ หากเป็นผู้อื่นละก็ ถุย ! เกรงว่าชาวบ้านในเมืองหลวงจะกล่าวหาว่าเขาคือพวกหลอกลวงนะสิ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)