ในหัวของสวี่หวยซู่เต็มไปด้วยคำถาม บุตรสาว ข้ามีบุตรสาวตั้งแต่เมื่อใดกัน ?
ภรรยาของข้าก็ยังอยู่ในจวน เจ้าอย่าริอาจมากระตุกหนวดแม่เสือได้หรือไม่ !
“เจ้าใส่ความข้า ! ”
“ท่านลุง ข้าเอ่ยเรื่องจริง… ไปเถิด พวกเราเข้าไปสนทนากันด้านใน”
“มิได้ ! เจ้าต้องอธิบายให้ข้าฟังโดยละเอียด จวนสวี่เป็นตระกูลของผู้ศึกษาตำราและเคร่งครัดยิ่ง พวกเราให้ความสำคัญต่อเรื่องในครอบครัว เจ้าอย่าได้มาทำลายชื่อเสียงของข้า”
สมองของท่านลุงช่างกลวงเสียจริง มิรู้ว่าสามารถขึ้นสู่ตำแหน่งเสนาบดีกรมพิธีการได้เยี่ยงไร
ฟู่เสี่ยวกวนส่ายศีรษะแล้วเดินนำเข้าไปด้านใน พร้อมกับลากแขนสวี่หวยซู่ตามเข้าไปด้วย
“ท่านลุง ข้าพบบุตรสาวของท่านจริง ๆ ท่านมิอยากได้บุตรสาวหรอกหรือ ? บัดนี้นางกลับมาและได้พำนักอยู่ที่จวนข้า ประเดี๋ยวข้าจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียด แล้วท่านจะเข้าใจเอง”
สวี่หวยซู่ได้สติคืนมาจากความมึนงง พลางคิดขึ้นมาได้ว่าฟู่เสี่ยวกวนมิเคยกระทำเรื่องมิเป็นเรื่องมาก่อน การที่อีกฝ่ายเดินทางมาเองและกล่าวเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ออกมา คาดว่าจะต้องมีจุดประสงค์แฝงอยู่เป็นแน่
ดังนั้น ชายสูงวัยจึงมองซ้ายแลขวาแล้วกระซิบเสียงเบาว่า “เจ้ากำลังคิดทำสิ่งใดอยู่กันแน่ ? ”
“ความลับมิอาจแพร่งพรายออกไปได้ พวกเราเข้าไปคุยในห้องอักษรของท่านจะดีกว่า”
“เจ้าปล่อยแขนข้าก่อน ! ”
“อ่า… อืม”
สวี่หวยซู่สะบัดแขนออก เจ้านี่แรงเยอะใช่ย่อย บีบแขนข้าจนเจ็บไปหมด
เขาพาฟู่เสี่ยวกวนเข้ามาในห้องอักษร ต้มชามาหนึ่งกาแล้วจ้องมองฟู่เสี่ยวกวน ก่อนจะเอ่ยอย่างจริงจังขึ้นมาว่า “เกิดเรื่องอันใดขึ้นกัน ? ”
ฟู่เสี่ยวกวนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่แล้วมองไปยังอีกฝ่าย เขาเอ่ยด้วยท่าทางจริงจังมิแพ้กันว่า “ปีไท่เหอที่สี่สิบสี่ ท่านป้าได้พาลูกพี่ลูกน้องวัยสามขวบของข้ากลับบ้านเกิดนางที่เหอตงเต้า เมื่อเดินทางไปถึงเมืองเฉิงอันจึงได้พบกับกองโจร ผู้คุ้มกันพยายามต่อสู้กับฝูงโจร ทว่าสุดท้าย ผู้คุ้มกันเหล่านั้นก็มิอาจต้านทานได้ พวกมันจึงชิงตัวลูกพี่ลูกน้องของข้าไป”
สวี่หวยซู่ขมวดคิ้ว “โป้ปด ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนเผยอริมฝีปากขึ้น “อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ ฟังข้าก่อน”
“ดังนั้น ท่านลุงจึงสูญเสียบุตรสาวไป นางมีนามว่าสวี่ซินเหยียน นางเติบโตด้วยการฝึกตนจนมีความสามารถที่หลากหลาย พอรู้ชาติกำเนิดที่แท้จริงจึงได้เดินทางมายังเมืองจินหลิงเพื่อตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงของตนเอง”
“อาจจะเพราะคิดถึงบ้านเกิด สวี่ซินเหยียนจึงมิได้เดินทางมายังจวนสวี่โดยทันที แต่ทว่าเมื่อคืน นางไปยังหงซิ่วจาวซึ่งบังเอิญว่าข้าอยู่ที่นั่นด้วย”
สวี่หวยซู่เบิกตาโต เมื่อคืน หงซิ่วจาว ?
เมื่อคืน เจ้าเด็กนี่ถูกลอบโจมตีที่หงซิ่วจาว สาเหตุนี้ทำให้ฝ่าบาทเปี่ยมโทสะขึ้นมา และได้บัญชาการให้ทหารตะวันตกบุกโจมตีซีหรงเพื่อฆ่าผู้ร้ายเหล่านั้นเสีย ส่วนฟู่เสี่ยวกวนเดินทางมายังจวนสวี่ด้วยตนเอง ทั้งยังตั้งใจแต่งเรื่องที่คล้ายความจริงนี้ขึ้นมา สตรีนามว่าสวี่ซินเหยียนเป็นผู้ใกันแน่ ? ”
อืม…สวี่หวยซู่เข้าใจในทันที !
ใบหน้าของฟู่เสี่ยวกวนในยามนี้ดูเจ้าเล่ห์ยิ่ง คาดว่าคงจะแอบไปพบกับแม่นางสวี่ซินเหยียนแต่คาดมิถึงว่าจะมีคนลอบทำร้าย แม้ว่าจะรักษาชีวิตของนางเอาไว้ได้ แต่เขาก็คงจะกลัวว่าตัวตนของสวี่ซินเหยียนจะถูกเปิดเผยออกมา
ภูมิหลังของภรรยาทั้งสามของอีกฝ่ายช่างแข็งแกร่งยิ่ง แน่นอนว่าเขาย่อมมิกล้านำสตรีนางนั้นเข้าจวนเป็นแน่ ดังนั้น… การที่เขามาทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ก็เพื่อต้องการให้ตนรับสวี่ซินเหยียนเป็นบุตรสาว ในภายภาคหน้าเขาจะได้มาพบนางที่จวนสวี่ได้อย่างเปิดเผย
หากมองจากภายนอก ฟู่เสี่ยวกวนดูสงบเสงี่ยม แต่คาดมิถึงว่าภายในจะร้ายใช่ย่อย !
แต่สวี่หวยซู่ก็เข้าใจได้ในทันใด บุรุษล้วนมักมากในกาม การที่เจ้าหมอนี่เลี้ยงอนุเอาไว้ด้านนอกก็นับว่าเป็นเรื่องปกติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)