ตอนที่ 537 ฝ่าบาททรงรับสั่งให้เข้าเฝ้า
จันทราเต็มดวงลอยเหนือท้องนภา ทอแสงสว่างพร่างพรายแผ่กำจายทั่วโลกา
ผ่านพ้นวันขึ้นปีใหม่มาได้สิบกว่าวันแล้ว แต่ทว่าอากาศในจินหลิงยังคงหนาวเหน็บยิ่ง ซูเจวี๋ยได้กลับมาจากหนานซานแล้ว และกำลังนั่งอยู่ในศาลาอี้เหลียงกับฟู่เสี่ยวกวน ส่วนสวี่ซินเหยียนกำลังชงชาจากกาที่เริ่มขึ้นสนิม
“สำนักเต๋าสร้างเสร็จแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“จะรวดเร็วถึงเพียงนั้นได้เยี่ยงไรกัน ? ยังสร้างมิถึงไหนหรอก”
“แล้วที่พำนักของข้าได้สร้างขึ้นแล้วหรือยัง ? ”
“พร้อมสำหรับการเข้าอยู่แล้ว”
ดียิ่ง ช่วงที่ผ่านมา ฟู่เสี่ยวกวนมิมีเวลาไปดูงานที่ภูเขาหนานซานเลย ต่งชูหลานและเยี่ยนเสี่ยวโหลวดูเหมือนจะกังวลเรื่องท้องของพวกนาง ประเดี๋ยวนี้ดูเกียจคร้านกว่าแต่ก่อนมากนัก มากสุดก็เพียงแค่ไปเดินเล่นในเมืองจินหลิงเท่านั้น พอตกค่ำก็เข้าห้องของตนแล้วพักผ่อน
มิรู้ว่าเมล็ดพันธุ์หยั่งรากแล้วหรือยัง ?
ซูเจวี๋ยยื่นจดหมายให้กับฟู่เสี่ยวกวน “อาจารย์ได้เขียนถึงท่าน ลองอ่านดูเถิด”
ฟู่เสี่ยวกวนเปิดจดหมายอ่านทันที
“เมื่อเวลาผ่านไป ห้ามังกรควบคุมน้ำ สามวัวดูแลหว่านไถ แบ่งคนออกเป็นสิบสองฝ่าย มีทั้งน้ำท่วม สงคราม ความอดอยาก ! ”
ข้อความเพียงสั้น ๆ ทำฟู่เสี่ยวกวนตื่นตระหนกเสียจนซูเจวี๋ยต้องเอ่ยถาม “ตกใจเรื่องอันใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“ตามที่ข้าเข้าใจ ท่านอาจารย์ต้องการเตือนให้ข้าระวังปัญหาเหล่านี้”
นี่มิถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ “ท่านมิเชื่อเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“สิ่งนี้เชื่อถือได้เยี่ยงนั้นหรือ ? ” ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยถามและเปี่ยมไปด้วยความสงสัย
ศิษย์พี่ใหญ่ยกมือขึ้นแล้วกล่าวว่า “ข้าจะไปรู้ได้เยี่ยงไร ? แต่ท่านอาจารย์นั้นรอบรู้มากยิ่งนัก เขาสามารถทำนายได้อย่างแม่นยำ สิ่งนี้ย่อมเชื่อถือได้”
ด้วยปัญญาความรู้ของคนในสมัยนี้ ฟู่เสี่ยวกวนย่อมมิเชื่อ เขาจึงเก็บจดหมายไว้ในแขนเสื้อ และมิเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก
เมื่อวานนี้ ทางซีซานได้ส่งปืน 20 กระบอกและกระสุนมา หลังจากได้ยินขันทีเจี่ยบอกว่ามันสามารถใช้สังหารผู้มีวรยุทธได้ เขาจึงให้เหล่าผู้คุ้มกันพกติดตัวเอาไว้
ไม่เว้นแม้กระทั่งภรรยาของเขาทั้งสาม
ตราบที่มิใช่ผู้มีฝีมือระดับกลาง เขาเชื่อว่าเมื่อมีภัยอันตรายมาถึงตัว พวกนางก็จะสามารถรับมือได้
เขาให้ซูเจวี๋ยไว้ 1 กระบอก “ถึงแม้ว่าตอนนี้พี่ใหญ่จะเป็นถึงปรมาจารย์แล้ว แต่จงพกของเล่นนี้ติดตัวเอาไว้ด้วยเถอะ หากเผชิญหน้ากับศัตรูมันจะช่วยผ่อนแรงได้มากโขทีเดียว”
ซูเจวี๋ยรับไว้โดยไร้ความลังเล เขาลองใช้มันดู เมื่อยิงจนพอใจแล้วจึงเก็บปืนและลูกกระสุนเอาไว้ “ท่านอาจารย์กล่าวว่าสิ่งนี้คืออาวุธที่อันตรายมากยิ่งนัก หากผู้คนในใต้หล้าได้ครอบครอง วิชาวรยุทธก็จะมิมีผู้ใดฝึกอีก เช่นนั้น เจ้าก็ฝึกยุทธต่อเถิด เพราะฝึกไว้ก็มิได้เสียหายอันใด”
ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้าเห็นด้วยกับท่านอาจารย์ หลายวันมานี้เขาได้ฝึกฝนมากกว่าแต่ก่อน แต่ทว่าก็ฝึกได้มิค่อยดีเท่าใดนัก
ในตอนนั้นเองซูซูก็ได้เดินเข้ามายืนอยู่เบื้องหน้าฟู่เสียวกวน พลางโน้มกายลงแล้วกล่าวว่า “ข้าก็อยากได้ปืน”
ฟู่เสี่ยวกวนหัวเราะร่า “เป็นสตรีดี ๆ มิชอบ ริอาจจะเล่นปืน เจ้าดีดฉินมิดีกว่าหรือ ? ”
แม้จะกล่าวเช่นนั้นแต่เขาก็ยังยื่นปืน 1 กระบอกให้กับซูซู “รู้วิธีใช้หรือไม่ ? ”
“ ข้ามิรู้ ! ”
สิ่งนี้ใช้ง่ายมากยิ่งนัก ฟู่เสี่ยวกวนสอนซูซูใช้เพียงสองสามรอบจากนั้นนางก็ใช้เป็น นางเอากระสุนใส่อย่างทุลักทุเล พลางเงยหน้าขึ้นเล็งเป้าแล้วยิงขึ้นไปในอากาศ
“ปัง… ! ” สวี่ซินเหยียนตื่นตกใจขึ้นมาทันพลัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)