ตอนที่ 558 เข้ายึดด่านชีผาน
มือของกวนเสี่ยวซีซุกเอาไว้ในแขนเสื้อ กำปืนที่ซ่อนเอาไว้อย่างแน่นหนา
เมื่อครู่ เขาได้ยินทหารเหล่านี้สนทนากัน จึงได้รับรู้ว่าคนเหล่านี้มิได้ต้องการก่อกบฏ เพียงแค่เพราะพวกเขาเป็นทหารของกองทัพตะวันตก จึงต้องทำตามคำสั่งที่ไร้สมองของเซวี๋ยติ้งชาน
ดังนั้น เขาจึงคิดที่จะลองโน้มน้าวทหารกลุ่มหนึ่งกลับมา
หากโน้มน้าวได้สำเร็จก็คงดี ทุกคนล้วนเป็นคนของราชวงศ์หยู และอาจจะได้ทหารเก่าแก่มาโดยมิต้องออกแรง
หากมิสำเร็จ…เขามองไปรอบกายทั้งสี่ทิศ แล้วหาทางถอยหนี
“อย่ามัวเอ่ยให้มากความ รีบกล่าวมาเสียโดยดี ข้าเองก็มิอยากตายเปล่า” ทหารหนุ่มร่างกำยำนายหนึ่งตะโกนออกมาเสียงดัง
กวนเสี่ยวซีชายตามองพวกเขา “คำเดียวก็คือ ต่อต้าน ! ”
“ไอหยา…” พวกเขาล้วนมองหน้ากันทันพลัน กวนเสี่ยวซีกัดฟันแล้วเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ข้าเองก็มีแม่อายุแปดสิบ และ…ลูกชายที่อายุได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น ข้าขอบอกกับพวกเจ้าตามตรงเลยว่าข้ายังมิอยากตาย และจะตายมิได้ ! ”
“แล้วพวกเราจะทำอันใดได้ ? ” ทหารหนุ่มนายนั้นถามขึ้นมาอีก กวนเสี่ยวซีอาศัยแสงจากโคมไฟที่แขวนอยู่บนกำแพงมองใบหน้าที่แฝงไปด้วยความประหลาดใจของทุกคน หึ ๆ ได้การ !
“พวกเราได้กลายเป็นผู้ร้ายมีความผิดติดตัวไปแล้ว แต่โชคดีที่ฟ้ายังมีตา บัดนี้ทั้งข้าและพวกเจ้ายังมิมีผู้ใดฆ่าทหารของฝ่าบาทแม้แต่คนเดียว จึงยังพอมีวิธีแก้ไข หากจับแม่ทัพใหญ่แล้วฆ่าคนที่ขัดขวางเสีย จากนั้นก็ตัดศีรษะแม่ทัพใหญ่ไปให้ท่านแม่ทัพหยู พวกเจ้าว่าเยี่ยงไร ? ”
ทุกเสียงเงียบลงทันที ทหารทุกนายจับจ้องมายังกวนเสี่ยวซี สีหน้างุนงงแต่ก็แฝงไปด้วยความหวัง
กวนเสี่ยวซีรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย หากเขาคิดผิด ผู้คนมากมายถึงเพียงนี้หากบุกเข้ามาฟันเขาคนละที ปืนในมือของเขามิอาจสู้ได้เป็นแน่
ในจังหวะที่หัวใจกำลังเต้นโครมคราม มืออีกข้างหนึ่งก็ได้กำมีดไว้แน่น ทหารหนุ่มผู้นั้นกัดฟันแล้วกล่าวขึ้นมาว่า “เจ้ามีนามว่าอันใด ? ข้ามีนามว่า จ้าวเหล่าลิ่ว จะร่วมต่อต้านกับเจ้า ! ”
“นี่เจ้า ! พวกเรามีกันเพียงมิกี่คน จะต่อต้านได้เยี่ยงไร ? ” มีทหารนายหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมา
กวนเสี่ยวซีเอ่ยขึ้นอย่างมีเลศนัยว่า “ข้าน้อย กวนเสี่ยวซี พวกเจ้าลองไตร่ตรองดู พี่น้องทหารของเราจะมีสักกี่คนที่ยินยอมก่อกบฏครานี้ ? แคว้นฝานทางตะวันตกมิได้เคลื่อนไหวอันใดเลย ชีวิตดีมีความสุขมิต้องการหรือ ? จะเอาศีรษะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เพื่อสิ่งใดกัน พวกเจ้ากินอิ่มเกินไปเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนต่างก็พากันพยักหน้าเห็นด้วย
“ผู้ใดที่จะเข้าร่วมต่อต้านกับข้า ประเดี๋ยวพวกเราจะแยกย้ายกันไป ชักชวนเพื่อนพ้องคนอื่น ๆ อีก 2 เค่อกลับมารวมตัวกันที่นี่ จงจำเอาไว้ให้ดีว่า หากผู้ใดมิต้องการเข้าร่วมก็จงปลิดชีพทิ้งเสีย มิเช่นนั้นความลับอาจจะรั่วไหลไปได้ พวกเราก็จะจบเห่กันพอดีน่ะสิ ! ”
“ตกลงตามนั้น พวกเรา ฟังที่ท่านกวนกล่าว ! ”
อยู่ ๆ ทางด้านซ้ายของกวนเสี่ยวซีก็มีทหารนายหนึ่งชักดาบออกมา แต่ทว่ายังไม่ได้ยกมันขึ้นมาด้วยซ้ำ กลับถูกจ้าวเหล่าลิ่วฟันศีรษะลงดังฉึบ
เขาจ้องไปยังคนกลุ่มนี้อย่างดุดัน
“ข้า จ้าวเหล่าลิ่ว เกิดบนราชวงศ์หยู การได้ฆ่าศัตรูจากแคว้นอื่น ข้าสามารถทุ่มเทได้แม้ชีวิต แต่บัดนี้กลับต้องมาสู้รบกันเอง นี่คือสิ่งใด ? ข้ามิเคยคิดก่อกบฏ ดาบของข้าจะมินำไปทำร้ายพี่น้องราชวงศ์หยูเป็นอันขาด ! พวกเราช่วยกันเกลี้ยกล่อมพรรคพวกเถิด พวกเราได้คลุกคลีกันมานานหลายปี ข้ามิอยากเห็นพวกเขานำชีวิตไปทิ้งโดยเปล่าประโยชน์”
“ตกลง ! ที่ค่ายของข้ายังมีพี่น้องร่วมสาบานอยู่อีกหลายคน มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน การได้รับคำแนะนำจากท่านกวน ในที่สุดพวกเราก็มีหนทางรอด มิตรภาพในครานี้ รอให้ทำสำเร็จ ข้า โจวเถี่ยหนิว จะเลี้ยงสุราท่าน ! ”
พวกเขากำมือขึ้นคารวะกวนเสี่ยวซีแล้วเดินจากไป จากนั้นกวนเสี่ยวซีก็ได้นั่งลงบนพื้น ปล่อยให้สายลมพัดพา เขาจึงรู้สึกตัวว่าที่แผ่นหลังมีเหงื่อเย็นไหลย้อย
ให้ตายเถอะ !
เขาถอนหายใจออกมายาว ๆ พลันได้ยินเสียงร้องดังมาจากหอกวนโหลว
เขาเงยหน้ามองหอสูงตระหง่านนั้น และลุกขึ้นทันใด เฮ้อ ! เจ้าพวกนี้ เรื่องเล็กน้อยก็ยังจัดการมิได้ !
โชคดีที่ศัตรูยังมิทันเป่าแตรส่งสัญญาณ ข้าต้องรีบไปหาท่านแม่ทัพใหญ่ของที่นี่เสียแล้ว
กวนเสี่ยวซีก้าวเท้าไปยังค่ายทหาร ส่วนเผิงยวี๋เยี่ยนยืนขมวดคิ้วอยู่ที่เชิงเขา…
ผ่านไปตั้งครึ่งชั่วยามแล้ว เหตุใดกวนเสี่ยวซียังมิส่งสัญญาณอีก ?
เขามิได้มีอันตรายใช่หรือไม่ ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)