นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 566

ตอนที่ 566 ดาบนั้นคืนสนอง

ศิษย์พี่ใหญ่ซูเจวี๋ยถือศีรษะของสีฮวาเอาไว้แล้วกระโดดหายไปจากด่านชีผานอย่างรวดเร็ว

หากนับตามเวลาที่คาดการณ์เอาไว้ เฟ่ยอันน่าจะเดินทางมาถึงเจี้ยนเหมินในอีก 1 วันข้างหน้า ส่วนกองทัพของเซวี๋ยติ้งชานคาดว่าจะมาถึงอีก 2 วันหากเดินเท้า

จากด่านชีผานมายังเจี้ยนเหมิน ยังต้องใช้เส้นทางสายเก่าจินหนิว ถนนหนทางช่างลำบากลำบนราวกับขึ้นสู่ยอดนภา

ฟู่เสี่ยวกวนทำได้เพียงขอให้ศิษย์พี่ใหญ่ออกหน้าด้วยตนเอง ให้รั้งเฟ่ยอันเอาไว้ที่แม่น้ำไป๋สุ่ยบริเวณตะวันตก ซึ่งห่างจากเจี้ยนเหมินออกไปราว 30 ลี้

ส่วนศีรษะของสีฮวา ได้ให้ศิษย์พี่ใหญ่แขวนเอาไว้บนกำแพงเมือง อีกทั้งยังเขียนจดหมายไปถึงขุนนางระดับสูงจือโจวเเห่งเจี้ยนเหมิน ให้รีบพาราษฎรถอยไปยังแม่น้ำไป๋สุ่ย

เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เกรงว่าจะดำเนินการมิทัน จึงเอาเป็นว่าสามารถช่วยเหลือได้เท่าใดก็เท่านั้น

จากนั้นฟู่เสี่ยวกวนก็กำชับให้กองกำลังดาบเทวะกองพลที่สามจำนวน 500 นายปิดกั้นทางออกตั้งแต่ด่านชีผานไปจนถึงถนนเจี้ยนหนาน มิให้เรื่องที่สีฮวาถูกสังหารแล้วลอยไปถึงหูของเซวี๋ยติ้งชาน

มีเพียงแบบนี้เท่านั้น เซวี๋ยติ้งชานถึงจะเดินทางเข้าสู่เมืองเจี้ยนเหมิน มิเช่นนั้นคงเลือกหลบหนีโดยใช้เส้นทางหวายอันเป็นแน่

ทหารดาบเทวะกองพลที่สามสูญเสียไปราว 100 นายจากการต่อสู้ในช่วงฟ้าสาง บาดเจ็บทั้งสิ้น 67 นาย ผู้ที่ยังสามารถต่อสู้ได้มีอีกราว 2,800 นาย ฟู่เสี่ยวกวนไม่ได้ให้เวลาพักผ่อนแก่พวกเขา เขาสั่งให้ซูม่อพาทหารจำนวน 2,300 นายไล่ตามกองทัพของเซวี๋ยติ้งชานไป

“หากพบว่ากองทัพของเซวี๋ยติ้งชานมุ่งหน้าไปยังเส้นทางหวายอัน ศิษย์น้องแปดเอ๋ย จงจำเอาไว้ว่า หากเป็นกลางวัน อย่าได้ทำการต่อสู้กับเซวี๋ยติ้งชานบนเส้นทางหวายอันนั้น ทหารดาบเทวะจงถอยกลับไปยังหรงโจว และอาศัยหรงโจวเป็นที่คุ้มกัน รอจนกระทั่งกองทัพของเซวี๋ยติ้งชานมาถึง แต่หากเป็นยามราตรี…” ฟู่เสี่ยวกวนเลิกคิ้วขึ้น “ก็จัดการมันไปเสีย ! ”

ซูม่อนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ เขาเข้าใจความหมายของฟู่เสี่ยวกวนเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงพาทหารจำนวน 2,300 นายนี้ออกไปจากด่านชีผาน

เว่ยอู๋ปิ้งขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยว่าเพราะเหตุใด ?

ฟู่เสี่ยวกวนหัวเราะ หึ ! กวนเสี่ยวซีเหล่ตามองเว่ยอู๋ปิ้งแล้วกล่าวว่า “ทหารดาบเทวะมีความชำนาญด้านการต่อสู้ในภูเขา เส้นทางหวายอันเป็นพื้นที่ราบ หากเป็นกลางวันกองทัพของเซวี๋ยติ้งชานจะได้เปรียบในการโจมตี หากเป็นยามราตรี ทหารดาบเทวะจะได้เปรียบในการซุ่มโจมตี และจะได้รับชัยชนะจากความอลหม่าน มิเช่นนั้นต่อให้ชนะศึก ก็ต้องสูญเสียจำนวนคนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก มิคุ้มค่าเอาเสียเลย”

เว่ยอู๋ปิ้งจึงได้เข้าใจขึ้นมา “นี่คือกลยุทธ์การใช้ภูมิศาสตร์ เวลาและอากาศเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“ใช่แล้ว ! ผู้ทำสงครามทุกคนให้ความสำคัญกับระยะเวลาในการจัดการกับศัตรูได้เร็วที่สุด ทหารดาบเทวะได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี เพื่อให้มีแรงผลักดันในการเอาชนะศัตรูทุกย่างก้าว คำว่านักรบ ต้องมีความเด็ดเดี่ยวและกระหาย หากพวกกบฏสกัดกั้นการเข้าโจมตีของทหารดาบเทวะได้ การต่อสู้หลังจากนั้น คาดว่าจะมิเป็นผลดีต่อทหารดาบเทวะสักเท่าใดนัก โดยเฉพาะการต่อสู้ในพื้นที่ราบ”

ฟู่เสี่ยวกวนอธิบายเพิ่มเติม จากนั้นก็หันไปมองกวนเสี่ยวซี “นายทหารผู้นี้คือ… ? ”

กวนเสี่ยวซีมองไปทางเผิงยวี๋เยี่ยน ส่วนนางเองก็จ้องเขาตาเขม็งก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วกล่าวว่า “เจ้านี่มีนามว่ากวนเสี่ยวซี อายุ 22 ปี เป็นหยิงเชียนฮู่ของหน่วยสอดแนมกองทหารใต้ นับตั้งแต่ก่อตั้งทหารภูเขาขึ้นมา ข้าก็ได้โยกย้ายเขาเข้ามาอยู่ในกองทหารภูเขานี้ด้วย…”

เผิงยวี๋เยี่ยนหยุดลงชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีกว่า “เจ้านี่บ่นอยู่เสมอว่าอยากเข้าร่วมกองกำลังดาบเทวะ คุณชายฟู่ ความสามารถของเขาพอจะเข้าตาท่านหรือไม่ ? ”

ฟู่เสี่ยวกวนหัวเราะเสียงดัง “นายทหารผู้นี้ มองดูก็รู้แล้วว่ามีความสามารถในการสู้รบสูง ข้าเองก็อยากได้ เพียงแต่ท่านจะมิเสียดายใช่หรือไม่ ? ”

กองกำลังดาบเทวะกองพลที่สองขาดแคลนผู้มีความสามารถเช่นนี้อยู่ หยิงเชียนฮู่ของหน่วยสอดแนมกองทหารใต้ มิใช่ตำแหน่งที่ต่ำต้อยเลยสักนิดเดียว หากสามารถนำกลับไปให้ไป๋ยู่เหลียนขัดเกลาอีกสักหน่อยได้ เจ้าหมอนี่จะสามารถปฏิบัติภารกิจใหญ่ได้เลยทีเดียว !

เมื่อกวนเสี่ยวซีได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเขาก็พลันแสดงออกถึงความยินดียิ่ง แต่ก็ได้เก็บอาการนั้นเอาไว้ ขณะที่กำลังจะเอ่ยบางสิ่งออกมา คาดมิถึงว่าเผิงยวี๋เยี่ยนจะเอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน แท้จริงแล้วจะว่านางเอ่ยก็มิถูก เพราะนางได้เอ่ยกวีออกมาบทหนึ่งต่างหาก

“เมามายจุดตะเกียงพินิจกระบี่

ตื่นจากฝันด้วยเสียงแตรรวมกองทัพ

แปดร้อยลี้วางธงทัพปักเนื้อย่าง

บรรเลงดนตรีสะท้อนบทเพลงไปไกลยังชายแดน

เหล่าทหารบนสนามรบฤดูใบไม้ผลิ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)