ตอน ตอนที่ 615 ความเจ้าเล่ห์ของทั้งสอง จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 615 ความเจ้าเล่ห์ของทั้งสอง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 615 ความเจ้าเล่ห์ของทั้งสอง
“คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู…”
“ซิงเอ๋อร์ เจ้าดูสิ ข้าใส่ชุดนี้แล้วสวยหรือไม่ ? ”
เสี่ยวซิงเอ๋อร์ทำปากจู๋หน้ามุ่ยแล้วลอบคิดในใจว่าอาการของคุณหนูเป็นเอาหนักมิน้อย ก็ไหนบอกว่าไปฟังการบรรยายเพื่อเป็นแนวทางในการค้าเท่านั้นมิใช่หรือ แต่เพียงแค่คำเชิญชวนจากคนผู้นั้นคำเดียว คุณหนูถึงกับต้องกลับมาแต่งตัวให้มีรูปลักษณ์ที่งดงามที่สุดเลยหรือ
สตรีตั้งใจแต่งหน้าเพื่อคนรัก คุณหนูพบกับคนที่ตนเองรักแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ?
“งดงามมากเจ้าค่ะคุณหนู ปกติคุณหนูก็สวยมากอยู่แล้ว ใส่อันใดก็สวยไปหมดเจ้าค่ะ ! ”
“ซิงเอ๋อร์ เจ้าเพียงแค่ชมไปอย่างนั้น…ไปหาที่คาดผมของข้ามาสิ มันเป็นผ้าที่เย็บปักแบบซู เราซื้อมา 2 ผืนมิใช่หรือ ? ”
“แล้วผืนเดิมคุณหนูเอาไปวางไว้ตรงที่ใดเจ้าคะ ? ”
“…หายไปแล้ว” ใบหน้าของซือหม่าเช่อเริ่มมีอาการกระดากอาย
ใส่ไว้บนศีรษะยังหายได้หรือ ?
เสี่ยวซิงเอ๋อร์เหลือบมองคุณหนูและค้นดูในกล่องเพื่อหาผ้าคาดผม ซือหม่าเช่อกลับไปนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วมองใบหน้าที่งดงามในกระจก พลางกัดริมฝีปากเผยให้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
……
……
พอฟู่เสี่ยวกวนออกจากสำนักศึกษาจี้เซี่ยก็มิได้กลับจวนฟู่ไปอย่างใด แต่ทว่าเขากลับตรงไปที่วังหลวง
เมื่อวานนี้ได้ตรวจประเมินผลและประวัติการทำงานของเจ้าหน้าที่บางคนของกรมขุนนางแล้ว จึงได้เปลี่ยนความคิดบางอย่าง ทั้งสามจวนโจวต้องการผู้ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมเพื่อเป็นผู้นำใหม่ของว่อเฟิงเต้า
แม้จะเป็นเรื่องปกติที่จะใช้คนใหม่ทำงาน แต่ถ้าเจอคนหัวรุนแรงอาจจะนำไปสู่การเบี่ยงเบนคราใหญ่ได้อย่างง่ายดาย เขาจำเป็นต้องแก้ไขข้อผิดพลาดตลอดเวลาซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเป็นอย่างมาก
เมื่อเขาก้าวเข้าไปที่กรมคลังก็ได้ทำให้ต่งคังผิงตื่นตกใจมากยิ่งนัก
เจ้าเด็กนี่มาเอาเงินเยี่ยงนั้นหรือ ?
เขากล้าเอ่ยปากขอเงินจากฝ่าบาท 100 ล้านตำลึงและท้ายที่สุดฝ่าบาทก็ได้อนุมัติให้เขาไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือ 50 ล้านตำลึง !
เมื่อใดก็ตามที่นึกถึงเรื่องนี้ ต่งคังผิงรู้สึกว่าในใจกำลังกระอักโลหิต ซึ่งมันทรมานเสียยิ่งกว่าการมาตัดชิ้นเนื้อของเขาเสียอีก
ถ้าบอกว่าเจ้าเอาเงิน 50 ล้านไปลงทุน ไปสร้างงานเชิงปฏิบัติการหรือซื้อที่ดินข้าจะมิว่าอันใดเลย แต่ฟู่เสี่ยวกวนกลับคิดจะเอาเงินมากมายถึงเพียงนี้ไปสร้างถนน !
เห็นได้ชัดว่าเป็นการสิ้นเปลืองเสียเปล่า ๆ !
เหมือนเอาเงินไปโยนทิ้งลงในแม่น้ำ !
แต่มิรู้ว่าเหตุใดฝ่าบาทจึงได้ตอบตกลงกัน เฮ้อ… !
ฟู่เสี่ยวกวนหรี่ตาพร้อมกับยกยิ้ม สีหน้าของต่งคังผิงดูคล้ำขึ้น เจ้าหน้าที่ของแผนกกรมคลังเห็นว่าอีกคนคือพ่อตาอีกคนคือลูกเขย หนึ่งคนสีหน้ามิรู้สึกรู้สา กับอีกคนสีหน้าราวกับกำลังจะแดงขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขากำลังคิดอันใดกันอยู่เยี่ยงนั้นหรือ ?
แสดงละครอยู่หรือ ?
อย่าไปมองนานเลย เพราะอีกคนคือเจ้านาย อีกคนคือติ้งอันป๋อ !
เจ้าหน้าที่หลายคนนำมือประสานกันแล้วยกขึ้นในระดับหน้าอก พลางเอ่ยว่า ‘คารวะติ้งอันป๋อ’ จากนั้นก็หลีกทางให้เขาเดินเข้าไป
ฟู่เสี่ยวกวนเดินไปจนถึงต่งคังผิง อีกฝ่ายวางสมุดบัญชีในมือลงแล้วจ้องมองฟู่เสี่ยวกวนเขม็ง จากนั้นก็ได้พาเขาเข้าไปในห้องทำงาน
พอเข้ามาด้านใน ประตูถูกปิดลง เจ้าหน้าที่กรมคลังกอดคอกัน จากนั้นก็มองไปรอบ ๆ พลางกระซิบว่า
เจ้าเด็กนี่มาเพื่อขายจวนโจวให้ข้าเยี่ยงนั้นหรือ ?
ทันทีที่ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ต่งคังผิงเข้าใจความหมายของฟู่เสี่ยวกวน ภายในใจก็เต็มไปด้วยความสุข เพียงแค่สีหน้ายังเคร่งขรึมอยู่ก็เท่านั้น
“มิใช่ว่าต้องผ่านการสอบเอินเคอก่อนแล้วค่อยเลือกหรือ ? ”
“ลูกเขยผู้นี้คิดแล้วคิดอีกว่าสำหรับเจ้าหน้าที่ทั่วไปคัดเลือกจากการสอบเอินเคอถึงจะเหมาะสมกว่าขอรับ พวกเขาจำเป็นต้องเริ่มจากขั้นพื้นฐาน แต่ทว่าสำหรับตำแหน่งการปกครองของจวนโจวเหมาะสมที่จะเลือกจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในราชสำนัก หากท่านพ่อตามิมีผู้ใดเล็งไว้ ลูกเขยผู้นี้จะลองไปถามท่านพ่อตาอีกคนขอรับ”
ฟู่เสี่ยวกวนตั้งท่าจะลุกขึ้น
“เจ้าหยุดประเดี๋ยวนี้ ! นั่งลง ! ”
“ลูกเขยรับบัญชาขอรับ ! ”
ต่งคังผิงหยิบกาน้ำชาแล้วรินน้ำชาให้กับฟู่เสี่ยวกวนหนึ่งถ้วย เขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “คนแรกคือท่านลุงสองของเจ้า ต่งเสียงฟาง ตอนนี้เป็นเฉาชิงอยู่ที่หงหลูซื่อ ส่วนอีกคนเป็นท่านลุงสามของเจ้า หยวนซุ่ย เป็นซือหลางจงฝ่ายขวาของสำนักเสมียนกลาง …เป็นความสัมพันธ์เครือญาติ ฝ่าบาทจะทรงเห็นด้วยเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“เรื่องนี้มิเกี่ยวกับเครือญาติ ถ้ามีความสามารถก็มิจำเป็นต้องกังวล ท่านได้อย่าเป็นห่วงเลย แต่ทว่าสองคนเยอะจนเกินไป เลือกได้เพียงคนเดียวเท่านั้นขอรับ”
ต่งคังผิงมองฟู่เสี่ยวกวนด้วยความหมายลึกซึ้ง “ถ้าเช่นนั้น ข้าเลือกตระกูลต่งของเรา”
“ตามประสงค์ของท่านพ่อตา …ถ้าเช่นนั้นเรื่องของท่านลุงสอง ควรบอกท่านลุงสองให้เตรียมตัวไว้แต่เนิ่น ๆ เพราะหากได้รายชื่อครบแล้วจะต้องออกเดินทางทันที”
“ยังเหลืออีกสองจวนโจว เจ้าจะจัดการเยี่ยงไร ? ”
“ขายหนึ่งจวนให้ท่านอัครมหาเสนาบดีเยี่ยน เหลืออีกหนึ่งจวนท่านพ่อตาคิดว่าขายให้ผู้ใดดีเล่า ? ”
“องค์หญิงใหญ่ ! ”
“… ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)