นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 653

สรุปบท ตอนที่ 653 ติดประกาศ: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 653 ติดประกาศ – นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet

บท ตอนที่ 653 ติดประกาศ ของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ในหมวดนิยายทะลุมิติ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 653 ติดประกาศ

หยุนซีเหยียนรู้สึกกระวนกระวายใจเสียจนอยู่มิเป็นสุข !

สหายซือหม่าท่านนี้มิจริงใจต่อกันเยี่ยงนั้นหรือ !

เขารีบเข้าไปตบบ่าของซือหม่าเช่อทันที แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับหลบหลีกเขาได้เสียก่อนจึงพลาดเป้าไป

“น้องซือหม่า ข้าขอสนทนากับท่านเป็นการส่วนตัวได้หรือไม่ ? ”

ซือหม่าเช่อยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็เดินตามหยุนซีเหยียนไปทันที

“น้องซือหม่าอย่าได้ล้อข้าเล่น ข้าหาเงินมาได้เพียงเท่านี้ มันจะทำให้คุณชายตระกูลซือหม่าเยี่ยงท่านสนใจได้เยี่ยงไรกัน ? ทว่าตอนนี้ข้ากำลังเงินขาดมือ ! เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ วันนี้ข้าจะเป็นเจ้ามือและจะเชิญท่านกับคุณชายฟู่ไปร่วมกินหม้อไฟด้วยกัน เพราะข้ามีความเห็นว่าตนเองกับน้องซือหม่าจะสอบได้คะแนนดี ส่วนพี่ฟู่อาจจะสอบได้ลำดับสุดท้าย”

“พี่ฟู่นั้นเป็นคนดีควรค่าแก่การคบหาเอาไว้ เชื่อข้าเถิดว่าสายตาของข้ามองคนมิผิดอย่างแน่นอน”

เมื่อซือหม่าเช่อได้ฟังเช่นนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา ดูเหมือนบุรุษผู้นี้จะมิรู้ว่าฟู่เสี่ยวกวนเป็นใครมาจากไหนอย่างแท้จริง

“พี่หยุนมิกลัวว่าหากติ้งอันป๋อทราบเรื่องนี้เข้า แล้วเขาจะตัดท่านออกจากรายชื่อติดประกาศหรือ ? ”

หยุนซีเหยียนหัวเราะร่า “เขาเป็นคนบุญหนักศักดิ์ใหญ่ บุคคลสูงส่งเยี่ยงติ้งอันป๋อย่อมกังวลอยู่กับเรื่องการบ้านการเมือง เขาเป็นดั่งนกเหยี่ยวที่บินร่อนเหินเวหา คงมิชายตามองผู้น้อยตัวเล็กเหมือนมดเยี่ยงข้าหรอก”

“ท่านช่างเจียมตัวเสียเหลือเกิน…”

ยังมิทันสิ้นเสียงของซือหม่าเช่อก็มีเสียงโห่ร้องดังมาจากทิศทางของหอหลานถิง นางจึงรีบชะโงกศีรษะเข้าไปดู จากนั้นเหล่าฝูงชนก็แยกออกเป็นสองฝั่ง เหล่าขุนนางเดินมาจากทางชายฝั่งของทะเลสาบ

“ติดประกาศแล้ว ! ”

“ไอหยา… ข้าขอไปดูเสียหน่อยว่าคุณชายฟู่อยู่ที่นี่หรือไม่ ? ”

เมื่อเอ่ยจบหยุนซีเหยียนก็หนีหายเข้ากลีบเมฆ เขาไม่รีบร้อนที่จะทราบผลสอบ เขารู้สึกเป็นกังวลมากยิ่งนัก เพราะกลัวว่าคุณชายซื่อหม่าท่านนี้จะตามมาเอ่ยถึงเรื่องการแบ่งผลประโยชน์อีก

ซือหม่าจือมองตามแผ่นหลังของชายหนุ่มที่หายไปต่อหน้าต่อตาแล้วเอ่ยถามว่า “ท่านพี่หญิง คนผู้นี้คือผู้ใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“หยุนซีเหยียนจากเฉิงตู ถือว่าเป็นชายหนุ่มที่มากความสามารถคนหนึ่งเลยล่ะ”

“เขาขายหนังสือรวมบทกวีเล่มละ 30 ตำลึงเชียวนะ…”

ซือหม่าเช่อผงะเล็กน้อย จากนั้นสายตาของนางก็มองไปยังหนังสือที่ญาติผู้น้องกำลังถืออยู่ในมือ

“เจ้าซื้อแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ” ซือหม่าเช่อเอ่ยถามออกไปอย่างมิเชื่อสายตา

“ใช่ ! ข้าเกือบแย่งมันมามิได้แล้วเชียว หนังสือรวมบทกวีของติ้งอันป๋อ ท่านเองก็ชอบเขามากมิใช่หรือ ? ดังนั้นหนังสือเล่มนี้ข้าขอมอบให้ท่าน”

ทันใดนั้นซือหม่าเช่อก็เหมือนจะนึกอันใดบางอย่างขึ้นมาได้ เอาเถิด… เล่มละ 30 ตำลึงก็ถือว่าให้อาหารสุนัขเสียก็แล้วกัน

นางรับหนังสือเล่มนั้นมา แล้วยัดเข้าไปในกระเป๋าตรงชายแขนเสื้อ “ไปเถิด ไปดูประกาศ ดูสิว่าพี่สาวของเจ้าจะอยู่ในอันดับที่เท่าใด”

……

……

การติดประกาศ ณ หลานถิงจี๋ในวันนี้ หวางซุนอู๋หยา หลู่ซีฮุ่น โจ่งจี้ถัง และหยูซิ๋งเจี่ยน ก็ได้มารวมตัวกันที่นี่ด้วยเช่นกัน

รายชื่อที่อยู่ในป้ายประกาศนี้ล้วนแต่เป็นคนที่ติ้งอันป๋อเลือกเองกับมือ ถือเป็นขุนนางกลุ่มใหม่ที่จะได้ไปรับราชการ ณ ว่อเฟิงเต้า

รายชื่อของบุคคนเหล่านี้จึงมีความสำคัญต่อการก่อตั้งกิจการของตระกูลผู้นำการค้าใหญ่ของพวกตน

แม้ว่าฝ่าบาทจะยกระดับสถานะของพ่อค้าแล้วก็ตาม แต่ทว่าเหล่าพ่อค้าก็ยังต้องถูกควบคุมดูแลจากขุนนางในท้องถิ่นอยู่ดี ถ้าหากรู้ล่วงหน้าว่าผู้ใดเป็นขุนนางที่จะมาควบคุม ก็อาจจะมีการติดสินบนไว้ล่วงหน้าเพื่อป้องกันมิให้ถูกกลั่นแกล้งในภายหลังในตอนที่ก่อสร้างโรงงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หากรอถึงตอนนั้นคงเจ็บปวดน่าดู เช่นนี้ต้องติดสินบนก้อนโต ให้ขุนนางพวกนั้นกลายเป็นปลิงสูบเลือดเนื้อของพวกตนด้วยความเต็มใจ

“ผู้คนมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ ? ” โจ่งจี้ถังมองภาพหลานถิงจี๋ที่อัดแน่นไปด้วยผู้คน จนแทบมิอยากจะเชื่อสายตา

“พี่โจ่ง ท่านเองก็ทราบนี่ว่าการสอบเอินเคอในครานี้มิธรรมดา” หลู่ซีฮุ่นยืดคอขึ้นไปทอดมองทั่วสารทิศแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “การสอบแข่งขันทางราชสำนักในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี คนที่สอบผ่านมีจำนวนมากถึงสามหรือสี่ร้อยคน แม้ว่าจะสอบผ่านไปแล้ว แต่ในช่วงสองสามปีมานี้ฝ่าบาทได้เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามทุจริตจึงทำให้เหลือตำแหน่งทางราชการว่างไว้อย่างมากมาย การต้องรอนานถึงสามหรือห้าปีจึงถือเป็นเรื่องปกติ”

“ไอหยา… ข้าก็ผ่านแล้ว ! มิหนำซ้ำยังเป็นยี่สิบห้ารายชื่อแรกเสียด้วย ! ”

“ช่วยดูหน่อยว่ามีชื่อข้าหรือไม่ ? ”

“ผู้ใดที่สอบผ่านก็ขอให้ไปรวมตัวดีใจกันที่ฟากหนึ่ง ส่วนผู้ใดที่สอบมิผ่านก็ให้พากันไปร้องห่มร้องไห้อีกฟากหนึ่ง ช่วยเปิดทางให้ข้าไปดูข้างหน้าหน่อยเถิด ! ”

“ที่สอง…ข้าสอบได้ที่สอง ! ฟ้ามีตาเสียจริง ! ท่านแม่ข้าสอบได้ที่สองล่ะ ! ”

ชายหนุ่มที่มีสภาพราวกับเสียสติคนหนึ่งทั้งร้องไห้และหัวเราะ เหล่าปัญญาชนที่เหลือจึงอดมิได้ที่จะชายตามองไปที่เขา ผู้สอบได้ลำดับที่สอง…เหอเชิงอัน เจ้าหมอนี้เก่งใช้ได้ !

ชายหนุ่มผู้มีนามว่าเหอเชิงอันวิ่งเบียดเสียดออกไปจากฝูงชนราวกับเสียสติ เขาตรงดิ่งไปยังฝั่งทะเลสาบเว่ยยาง คุกเข่าลงไปแล้วโขกศีรษะไปทางทิศใต้ดัง ‘โป๊ก โป๊ก โป๊ก’ สามคราติดกัน จากนั้นก็ถลึงตาโตด้วยความงุนงง

เพราะในสายตาของเขามองเห็นรองเท้าผ้าสีครามสองข้าง !

เขาเงยหน้าขึ้นมอง พบว่าเป็นชายหนุ่มอายุไล่เลี่ยกันกำลังแทะน่องไก่พร้อมกับส่งยิ้มมาทางตน

ข้ากำลังโขกหน้าผากคำนับมารดา ส่วนเจ้ามายืนอยู่ตรงนี้หมายความว่าเยี่ยงไร ?

แน่นอนว่าบุรุษผู้นั้นก็คือหยุนซีเหยียน ที่กำลังแทะน่องไก่พร้อมเอ่ยกับอีกฝ่ายว่า “ลุกขึ้นเถิด ท่านสอบผ่านแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“ท่านทำเช่นนี้เห็นทีจะมิถูกต้อง” เหอเชิงอันยืนขึ้นแล้วถลึงตาใส่หยุนซีเหยียนด้วยความโกรธ

“อ่า…ก็แค่สอบผ่านเท่านั้นมิใช่หรือ ? นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ทางเดินแห่งอนาคตสิ ถึงจะเป็นทางเดินที่สำคัญอย่างแท้จริง”

เหอเชิงอันตะลึงงัน สองมือคำนับต่ออีกฝ่าย “คุณชายเอ่ยมีเหตุผลมากยิ่งนัก”

“มิทราบว่าท่านสอบได้ลำดับที่เท่าใด ? ”

“ลำดับที่สอง”

“แล้ว…ที่หนึ่งคือผู้ใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)