ตอนที่ 653 ติดประกาศ
หยุนซีเหยียนรู้สึกกระวนกระวายใจเสียจนอยู่มิเป็นสุข !
สหายซือหม่าท่านนี้มิจริงใจต่อกันเยี่ยงนั้นหรือ !
เขารีบเข้าไปตบบ่าของซือหม่าเช่อทันที แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับหลบหลีกเขาได้เสียก่อนจึงพลาดเป้าไป
“น้องซือหม่า ข้าขอสนทนากับท่านเป็นการส่วนตัวได้หรือไม่ ? ”
ซือหม่าเช่อยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็เดินตามหยุนซีเหยียนไปทันที
“น้องซือหม่าอย่าได้ล้อข้าเล่น ข้าหาเงินมาได้เพียงเท่านี้ มันจะทำให้คุณชายตระกูลซือหม่าเยี่ยงท่านสนใจได้เยี่ยงไรกัน ? ทว่าตอนนี้ข้ากำลังเงินขาดมือ ! เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ วันนี้ข้าจะเป็นเจ้ามือและจะเชิญท่านกับคุณชายฟู่ไปร่วมกินหม้อไฟด้วยกัน เพราะข้ามีความเห็นว่าตนเองกับน้องซือหม่าจะสอบได้คะแนนดี ส่วนพี่ฟู่อาจจะสอบได้ลำดับสุดท้าย”
“พี่ฟู่นั้นเป็นคนดีควรค่าแก่การคบหาเอาไว้ เชื่อข้าเถิดว่าสายตาของข้ามองคนมิผิดอย่างแน่นอน”
เมื่อซือหม่าเช่อได้ฟังเช่นนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา ดูเหมือนบุรุษผู้นี้จะมิรู้ว่าฟู่เสี่ยวกวนเป็นใครมาจากไหนอย่างแท้จริง
“พี่หยุนมิกลัวว่าหากติ้งอันป๋อทราบเรื่องนี้เข้า แล้วเขาจะตัดท่านออกจากรายชื่อติดประกาศหรือ ? ”
หยุนซีเหยียนหัวเราะร่า “เขาเป็นคนบุญหนักศักดิ์ใหญ่ บุคคลสูงส่งเยี่ยงติ้งอันป๋อย่อมกังวลอยู่กับเรื่องการบ้านการเมือง เขาเป็นดั่งนกเหยี่ยวที่บินร่อนเหินเวหา คงมิชายตามองผู้น้อยตัวเล็กเหมือนมดเยี่ยงข้าหรอก”
“ท่านช่างเจียมตัวเสียเหลือเกิน…”
ยังมิทันสิ้นเสียงของซือหม่าเช่อก็มีเสียงโห่ร้องดังมาจากทิศทางของหอหลานถิง นางจึงรีบชะโงกศีรษะเข้าไปดู จากนั้นเหล่าฝูงชนก็แยกออกเป็นสองฝั่ง เหล่าขุนนางเดินมาจากทางชายฝั่งของทะเลสาบ
“ติดประกาศแล้ว ! ”
“ไอหยา… ข้าขอไปดูเสียหน่อยว่าคุณชายฟู่อยู่ที่นี่หรือไม่ ? ”
เมื่อเอ่ยจบหยุนซีเหยียนก็หนีหายเข้ากลีบเมฆ เขาไม่รีบร้อนที่จะทราบผลสอบ เขารู้สึกเป็นกังวลมากยิ่งนัก เพราะกลัวว่าคุณชายซื่อหม่าท่านนี้จะตามมาเอ่ยถึงเรื่องการแบ่งผลประโยชน์อีก
ซือหม่าจือมองตามแผ่นหลังของชายหนุ่มที่หายไปต่อหน้าต่อตาแล้วเอ่ยถามว่า “ท่านพี่หญิง คนผู้นี้คือผู้ใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“หยุนซีเหยียนจากเฉิงตู ถือว่าเป็นชายหนุ่มที่มากความสามารถคนหนึ่งเลยล่ะ”
“เขาขายหนังสือรวมบทกวีเล่มละ 30 ตำลึงเชียวนะ…”
ซือหม่าเช่อผงะเล็กน้อย จากนั้นสายตาของนางก็มองไปยังหนังสือที่ญาติผู้น้องกำลังถืออยู่ในมือ
“เจ้าซื้อแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ” ซือหม่าเช่อเอ่ยถามออกไปอย่างมิเชื่อสายตา
“ใช่ ! ข้าเกือบแย่งมันมามิได้แล้วเชียว หนังสือรวมบทกวีของติ้งอันป๋อ ท่านเองก็ชอบเขามากมิใช่หรือ ? ดังนั้นหนังสือเล่มนี้ข้าขอมอบให้ท่าน”
ทันใดนั้นซือหม่าเช่อก็เหมือนจะนึกอันใดบางอย่างขึ้นมาได้ เอาเถิด… เล่มละ 30 ตำลึงก็ถือว่าให้อาหารสุนัขเสียก็แล้วกัน
นางรับหนังสือเล่มนั้นมา แล้วยัดเข้าไปในกระเป๋าตรงชายแขนเสื้อ “ไปเถิด ไปดูประกาศ ดูสิว่าพี่สาวของเจ้าจะอยู่ในอันดับที่เท่าใด”
……
……
การติดประกาศ ณ หลานถิงจี๋ในวันนี้ หวางซุนอู๋หยา หลู่ซีฮุ่น โจ่งจี้ถัง และหยูซิ๋งเจี่ยน ก็ได้มารวมตัวกันที่นี่ด้วยเช่นกัน
รายชื่อที่อยู่ในป้ายประกาศนี้ล้วนแต่เป็นคนที่ติ้งอันป๋อเลือกเองกับมือ ถือเป็นขุนนางกลุ่มใหม่ที่จะได้ไปรับราชการ ณ ว่อเฟิงเต้า
รายชื่อของบุคคนเหล่านี้จึงมีความสำคัญต่อการก่อตั้งกิจการของตระกูลผู้นำการค้าใหญ่ของพวกตน
แม้ว่าฝ่าบาทจะยกระดับสถานะของพ่อค้าแล้วก็ตาม แต่ทว่าเหล่าพ่อค้าก็ยังต้องถูกควบคุมดูแลจากขุนนางในท้องถิ่นอยู่ดี ถ้าหากรู้ล่วงหน้าว่าผู้ใดเป็นขุนนางที่จะมาควบคุม ก็อาจจะมีการติดสินบนไว้ล่วงหน้าเพื่อป้องกันมิให้ถูกกลั่นแกล้งในภายหลังในตอนที่ก่อสร้างโรงงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว
หากรอถึงตอนนั้นคงเจ็บปวดน่าดู เช่นนี้ต้องติดสินบนก้อนโต ให้ขุนนางพวกนั้นกลายเป็นปลิงสูบเลือดเนื้อของพวกตนด้วยความเต็มใจ
“ผู้คนมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ ? ” โจ่งจี้ถังมองภาพหลานถิงจี๋ที่อัดแน่นไปด้วยผู้คน จนแทบมิอยากจะเชื่อสายตา
“พี่โจ่ง ท่านเองก็ทราบนี่ว่าการสอบเอินเคอในครานี้มิธรรมดา” หลู่ซีฮุ่นยืดคอขึ้นไปทอดมองทั่วสารทิศแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “การสอบแข่งขันทางราชสำนักในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี คนที่สอบผ่านมีจำนวนมากถึงสามหรือสี่ร้อยคน แม้ว่าจะสอบผ่านไปแล้ว แต่ในช่วงสองสามปีมานี้ฝ่าบาทได้เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามทุจริตจึงทำให้เหลือตำแหน่งทางราชการว่างไว้อย่างมากมาย การต้องรอนานถึงสามหรือห้าปีจึงถือเป็นเรื่องปกติ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)