ตอนที่ 757 กายชิดใกล้ใจออกห่าง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า… ! ”
ฮ่องเต้ส่งเสียงพระสรวลดังลั่น
พระองค์ทรงสูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นก็รินชาให้กับฟู่เสี่ยวกวนหนึ่งถ้วย “ข้าเป็นคนให้ฮองเฮาซั่งกำจัดมันทิ้งเอง… ในเมื่อลูกเขยคิดว่าถ้ามีสีสันคงดีกว่า เยี่ยงนั้นข้าก็จะให้ฮองเฮาซั่งปลูกใหม่อีกครา เมื่อถึงฤดูหนาวปีหน้าหากลูกเขยมาที่นี่อีกคราก็จะได้เห็นดอกหล้าเหมยสีแดงท่ามกลางหิมะขาวโพลนอย่างแน่นอน”
“ช่างเป็นพระมหากรุณาอันล้นพ้นพ่ะย่ะค่ะ ! ”
“เจ้ามีเพียงคำขอเรียบง่ายเท่านี้น่ะหรือ ? ”
“กระหม่อมพอใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้เงียบอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็หยิบถ้วยชาขึ้นมา “ราชโองการลับที่มอบให้แก่แม่ทัพใหญ่เผิง ข้าได้ตัดสินใจไปแล้ว ในตอนนี้กรมคลังก็เริ่มระดมเสบียงส่งไปทางเหนือแล้ว…”
“เสี่ยวกวนเอ๋ย ! ”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท ! ”
“เจ้าคือราชบุตรเขยของข้า ! ”
“กระหม่อมคือบุตรเขยของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ! ”
ฮ่องเต้ทอดพระเนตรฟู่เสี่ยวกวนด้วยดวงเนตรค่อนข้างแข็งกร้าวและสุรเสียงก็ค่อนข้างดุดันเช่นกัน “เรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้เหตุใดเจ้าถึงมิบอกข้าก่อน ? ”
นี่คือความสงสัยของฮ่องเต้ เมื่อคืนวานองค์หญิงใหญ่ก็ได้เอ่ยถามฟู่เสี่ยวกวนเยี่ยงนี้เช่นกัน นางคิดว่าฟู่เสี่ยวกวนกำลังหยั่งเชิงท่าทีของฮ่องเต้ที่มีต่อตน อีกทั้งฟู่เสี่ยวกวนก็มิได้ปฏิเสธแต่อย่างใด
บัดนี้ฮ่องเต้ได้ตรัสถามขึ้นอีกครา แต่ฟู่เสี่ยวกวนกลับหัวเราะขึ้นมาเสียดื้อ ๆ “ทูลฝ่าบาท ในยามที่กระหม่อมกลับมาค่อนข้างเร่งรีบ หากมาทูลฝ่าบาทแล้วรั้งรอการตอบกลับจากฝ่าบาท กระหม่อมคงมิสามารถเคลื่อนทัพทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งได้อย่างทันท่วงทีพ่ะย่ะค่ะ ดังนั้น…กระหม่อมคิดว่าการยึดแคว้นที่ใหญ่โตแห่งหนึ่งเพื่อราชวงศ์หยู ฝ่าบาทย่อมมีพระทัยกว้างขวางและคงมิกล่าวโทษกระหม่อมเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ขมวดพระขนงเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบถ้วยชาขึ้นมาลิ้มรส “แต่เยี่ยงไรมันก็เป็นเรื่องศึกสงคราม อีกทั้งยังเป็นสงครามคราใหญ่ถึงเพียงนี้ ในภายภาคหน้าเจ้าจงจำเอาไว้ว่าต้องมาบอกข้าก่อน”
“กระหม่อมทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ได้ยินมาว่าไป๋ยู่เหลียนไปยังราชวงศ์อู๋แล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยทูลด้วยใบหน้าจริงใจ “ทูลฝ่าบาท ราชวงศ์อู๋ก็จำเป็นต้องมีกองทัพเยี่ยงนี้พ่ะย่ะค่ะ องค์ชายห้าสามารถแสดงทักษะการฝึกวิชาทหารดาบเทวะออกมาได้อย่างโดดเด่น และได้เข้าใจแก่นแท้ในการฝึกฝนของทหารดาบเทวะทั้งหมดแล้ว…
ในเมื่อฝ่าบาทต้องการฝึกกองทัพใหญ่จำนวน 100,000 นาย กองทัพเช่นนี้มีองค์ชายห้าเป็นผู้ฝึกด้วยพระองค์เองก็ถือเป็นเรื่องที่ดีมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ อย่างน้อยพวกเขาจะได้จงรักภักดีต่อองค์ชายห้า อีกทั้งกองทัพที่ไป๋ยู่เหลียนไปฝึกก็มิใช่ผู้ถูกคัดเลือกที่ดีที่สุดพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้มิได้ใส่พระทัยปัญหานี้อีกจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาและเอ่ยถามถึงปัญหาแสนละเอียดอ่อน
“เจ้าเตรียมกลับไปราชวงศ์อู๋เมื่อใด ? ”
ฟู่เสี่ยวกวนลังเลอยู่ชั่วครู่ “กระหม่อมจะรุดไปยึดแคว้นฮวงด้วยตนเอง หลังจากสงครามนี้จบลงกระหม่อมจึงจะกลับไปยังราชวงศ์อู๋ หนทางการไปราชวงศ์อู๋นั้นห่างไกลมากยิ่งนัก กระหม่อมยังมีเรื่องอยากทูลขอพ่ะย่ะค่ะ”
“อือ… เจ้าลองว่ามาสิ”
“กระหม่อมอยากให้พวกเวิ่นหวินออกเดินทางช่วงเดือนเก้าของปีหน้า เวลานั้นเด็ก ๆ คงโตขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว และอากาศก็กำลังดี มิทราบว่าฝ่าบาทมีพระประสงค์เยี่ยงไรพ่ะย่ะค่ะ ? ”
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องไปแล้วจริง ๆ
ฮ่องเต้มิยินยอมที่จะปล่อยมือจากเขาไป
ฟู่เสี่ยวกวนได้ทำเพื่อราชวงศ์หยูมามากมาย เขาได้กำหนดนโยบายพัฒนา ส่งเสริมกฎหมาย สร้างว่อเฟิงเต้า อีกทั้งยังมีข้าวเปลือกที่ผลผลิตมากกว่า 700 ชั่ง มันเทศที่ผลผลิตมากกว่า 5,000 ชั่ง รวมไปถึงได้มอบปืนคาบศิลา ปืนใหญ่หงอีและอื่น ๆ ให้แก่ราชวงศ์หยู
คนเยี่ยงนี้หากสามารถทำให้อยู่ในราชวงศ์หยูตลอดไปได้ ย่อมเป็นผลดีอย่างแน่นอน
สุดท้ายเขาก็ต้องจากไป สีพระพักตร์จึงดูหดหู่ไปชั่วขณะหนึ่ง
“หลังจากที่กระหม่อมไปแล้ว ศูนย์วิจัยซีซาน สำนักหล่อซีซาน และสำนักหล่อผิงหลิง ทั้งหมดนี้กระหม่อมถวายให้แก่ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”
“กระหม่อมเคยกล่าวไปแล้วว่าตนเองเกิดที่ราชวงศ์หยู เติบโตที่ราชวงศ์หยู ที่นี่คือบ้านเกิดของกระหม่อม ช่วงเวลาในภายภาคหน้าหากฝ่าบาทคิดถึงเวิ่นหวิน กระหม่อมก็จะพาครอบครัวกลับมาพักที่นี่พ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ถอนหายใจยาวเหยียด “เยี่ยงนั้นก็ให้พวกนางล่วงหน้าไปก่อนในเดือนเก้าปีหน้าเถิด”
“เจ้า… เจ้ามิจำเป็นต้องไปสนามรบแคว้นฮวง เพราะถึงเยี่ยงไรสงครามก็เป็นเรื่องอันตรายและเจ้ามิจำเป็นต้องพาตนเองไปเสี่ยง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)