อ่านสรุป ตอนที่ 796 อาทิตย์อัสดงราวกับสีของโลหิต จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 796 อาทิตย์อัสดงราวกับสีของโลหิต คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 796 อาทิตย์อัสดงราวกับสีของโลหิต
อาทิตย์อัสดงทอแสงไปทั่วท้องนภา ราวกับสีของโลหิต
ณ กำแพงเมืองชางยิง
ฟู่เสี่ยวกวนและเผิงเฉิงอู่ยืนอยู่บนหอคอย พวกเขาทั้งสองคนจ้องมองไปที่สุริยาที่กำลังจะลาลับขอบฟ้าในระยะไกล
“จะไปจริงหรือ ? ”
“หากมิไป ข้าก็จะมิสบายใจ…และจะมิสบายใจไปชั่วชีวิต ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนเงียบไปชั่วครู่ “นั่นคือกองทัพดาบสวรรค์จำนวน 200,000 นาย ท่านคิดว่ากองทัพชายแดนเหนือกว่า 200,000 นายจะสามารถเอาชนะพวกมันได้เยี่ยงนั้นหรือ ? ”
เผิงเฉิงอู่หัวเราะออกมาเบา ๆ “เกรงว่าท่านจะประเมินกองทัพชายแดนเหนือต่ำจนเกินไป…”
ทันใดนั้นเผิงเฉิงอู่ก็สูดหายใจเข้าลึก รอยยิ้มบนใบหน้ามลายหายไปจนสิ้น เหลือไว้เพียงใบหน้าเศร้าหมอง “เหล่าทหารใต้บัญชามีความคิดที่ยิ่งใหญ่มากกว่าข้าเสียอีก พวกเขาเห็นว่าในเมื่อละทิ้งด่านภูเขาเยี่ยนและเมืองซินโจวไปแล้วแต่ยังมิได้สู้รบเลย ดังนั้นพวกเขาจึงอยากสู้รบสักครา แน่นอนว่าต้องเป็นการสู้รบอย่างแท้จริง”
“ท่าป๋าเฟิงตกไปอยู่ในเงื้อมมือของกองพลอิสระดาบเทวะแล้ว พวกเขาได้ยึดครองพระราชวังป๋ายจินฮ่านโดยมีจักรพรรดิแคว้นฮวงอยู่ใต้อาณัติ ดังนั้นกองทัพดาบสวรรค์ทำได้เพียงยอมจำนน มันคุ้มค่าแล้วหรือที่ท่านจะเอาชีวิตทหารไปเสี่ยง ? ”
“ชาวฮวงมีความทะเยอทะยานและดุร้ายมาโดยตลอด พวกมันยังหลงเหลืออยู่อาจจะก่อความวุ่นวายขึ้นมาอีก ข้าคิดว่าควรสังหารพวกมันเสียให้สิ้น ! ”
เผิงเฉิงอู่หยุดไปชั่วครู่ “ท่านคิดเสียว่าให้ข้าออกรบสักครา เพื่อเป็นการแก้แค้นให้กับพี่น้องทหารและราษฎรที่ตกตายในด่านภูเขาเยี่ยนกับเมืองซินโจวก็แล้วกัน”
ฟู่เสี่ยวกวนถอนสายตากลับมาจ้องมองเผิงเฉิงอู่ เขารู้ว่าเผิงเฉิงอู่กำลังจะตายเพราะเขามีความผิด และด้วยศักดิ์ศรีในฐานะทหารจึงอยากออกรบเป็นคราสุดท้าย
“ก่อนจะตาย ท่านจะมิบอกข้าสักหน่อยหรือ ว่าฮ่องเต้ตรัสสิ่งใดกับท่านเอาไว้บ้าง ? ”
เผิงเฉิงอู่ยกยิ้มขึ้น “ข้ามิสามารถบอกได้จริง ๆ เพราะถึงเยี่ยงไรเขาก็เป็นฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หยู ส่วนข้าก็ยังเป็นข้าราชบริพารของเขาอยู่”
ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้า “ข้าจะมิบังคับท่าน เช่นนั้นท่านก็ไปเถิด”
“ก่อนไป ข้าอยากจะเอ่ยกับท่านอีกเรื่องหนึ่งว่า… เขาเป็นพ่อตาของท่านและสิ่งที่เขาทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อราชวงศ์หยู วันหนึ่งที่ท่านได้เป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์อู๋แล้วได้เผชิญหน้ากับเขาในสถานการณ์เยี่ยงนี้อีก ทางเลือกของท่านก็คงมิต่างจากเขาหรอก”
เมื่อเอ่ยจบเผิงเฉิงอู่ก็ได้ทำความเคารพหนึ่งครา จากนั้นก็หันหลังเดินลงหอคอยทันที เขานำกองทัพทหาร 200,000 นายเดินย่ำเท้าไปบนพื้นที่เต็มไปด้วยโลหิตแล้วมุ่งหน้าไปทางสุริยาที่กำลังตกดิน
ฟู่เสี่ยวกวนเหลือบมองไปทางอาทิตย์อัสดง ส่วนไป๋ยู่เหลียนถอนหายใจออกมาพลางเอ่ยว่า “ท่านจะช่วยเขาหรือไม่ ? ”
ฟู่เสี่ยวกวนส่ายศีรษะ “สั่งกองพลที่สามและสี่ของกองทัพที่สองในเมืองกูหยุนให้เคลื่อนพลไปยังฮวงถิงได้”
“ทว่าเขา… เขาและทหารชายแดนเหนือทั้งหมดอาจจะตายได้ ! ”
“ข้ารู้ แต่เขาจะนำชัยกลับมาและนี่คือความปรารถนาสุดท้ายของเขาเอง”
ไป๋ยู่เหลียนพลันเข้าใจความหมายขึ้นมาทันใด เนื่องจากเผิงเฉิงอู่ฝ่าฝืนคำสั่งของฮ่องเต้ เขามิได้ลงมือสังหารฟู่เสี่ยวกวน
อีกทั้งยังละทิ้งด่านภูเขาเยี่ยนและเมืองซินโจว ดังนั้นจึงมิสามารถเผชิญหน้ากับสหายทหารและราษฎรที่ตกตายไปได้อีก การสู้รบครานี้จึงเป็นการสู้คราสุดท้ายของเขา
ในฐานะแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพชายแดนเหนือ อุดมการณ์ของเขาคือปรารถนาจะเป็นเหมือนอันกั๋วกงดังเช่นแต่ก่อน ขับไล่ชาวฮวงออกจากผืนปฐพีไปหลายพันลี้ เป็นความปรารถนาคราสุดท้ายของเขาที่ต้องการสู้รบกับชาวฮวงและแสดงความเป็นขุนนางใต้บัญชาแห่งราชวงศ์หยู
“จอมทัพร้อยรบตาย ผ่านศึกสิบปีกลับ1 หากได้รับข่าวคราวก็บอกให้ทหารของพวกเรานำศพของพวกเขาฝังไว้ที่ผืนปฐพีของแคว้นฮวงแห่งนี้ เพราะข้าอยากให้พวกเขาได้เห็นด้วยตาของตนเองว่าแคว้นฮวงในอนาคตจะกลายเป็นแคว้นที่งดงามเพียงใด ! ”
……
……
อาทิตย์อัสดง ณ จินหลิงก็สวยงามมิต่างกัน
ฮ่องเต้กลับมาที่วังเตี๋ยอี๋เพียงลำพัง จากนั้นก็ดำเนินมาที่สวนดอกไม้ด้านหลังวัง
ดอกสาสี่บานสะพรั่งราวกับหิมะขาวโพลน ดอกท้อเปี่ยมสีสันสดใส
แน่นอนว่าอีกฝ่ายคงจะผิดหวังในตัวข้ามากยิ่งนัก เขาจะยกทัพมาโจมตีราชวงศ์หยูหรือไม่ ?
เรื่องนี้น่าปวดหัวมากยิ่งนัก ก่อนอื่นควรจับมือกันไว้ก่อนและรอจนกว่ากองทัพสวรรค์ฆาตของข้าจบการฝึกฝน จึงจะสามารถสู้รบกับทหารดาบเทวะของฟู่เสี่ยวกวนได้
ในยามอาทิตย์อัสดง เยี่ยนเป่ยซีก็ได้ยืนอยู่ในสวนหลังจวนเช่นกัน
เขาจ้องมองสุริยาที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า สีหน้าพลันฉายความกังวลขึ้นมาทันใด
ผลของสนามรบแคว้นฮวงยังมิมีรายงานใด และความปลอดภัยของฟู่เสี่ยวกวนจะมีผลต่อเหตุการณ์ที่จะตามมาในอนาคต
ราชวงศ์อู๋ได้ยึดครองเมืองชายแดนและกำลังมุ่งหน้ามายังชังซี หากเป็นไปตามความคาดหมายก็เกรงว่ากองทัพชายแดนใต้ได้สู้รบกับกองทัพของราชวงศ์อู๋แล้ว
ฮ่องเต้ใช้วิธีสกปรกจนนำไปสู่ความขัดแย้งโดยตรงระหว่างราชวงศ์หยูและราชวงศ์อู๋ซึ่งมีฟู่เสี่ยวกวนเป็นชนวนเหตุ
ฮองเฮาซั่งทรงฉลาดหลักแหลมยิ่ง หากฟู่เสี่ยวกวนมิตาย นางอาจจะสามารถโน้มน้าวให้อู๋ต้าหลางถอยทัพได้สำเร็จ
ถ้าฟู่เสี่ยวกวนตาย…เกรงว่าแม้แต่เง็กเซียนฮ่องเต้ก็มิสามารถช่วยเหลือราชวงศ์หยูได้
“ซือเต้า ไปแจ้งคนที่กำลังจะออกเดินทางว่ามิต้องพกของไปมากนัก นี่มันเวลาใดแล้ว ? จะต้องเตรียมตัวให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้เช้าก็ให้พวกนางเดินทางไปที่แคว้นฝานทันที”
“รับทราบขอรับ… ท่านพ่อ ตั้งแต่มีข่าวการล่มสลายของเมืองซินโจว ผู้คนในราชสำนักก็ตื่นตระหนกและสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ฉินฮุ่ยจือได้โยนความรับผิดชอบนี้ไว้บนศีรษะของเผิงเฉิงอู่ เขาทูลเสนอให้ฝ่าบาทมีราชโองการยึดตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ของเผิงเฉิงอู่แล้วส่งตัวกลับมายังเมืองหลวงเยี่ยงผู้กระทำความผิด”
เยี่ยนเป่ยซียังคงจ้องมองสุริยาที่กำลังตกดินพลางเอ่ยออกมาว่า “ทำถูกต้องแล้ว เนื่องจากเผิงเฉิงอู่ละเลยหน้าที่”
“แต่ว่า…”
“มิมีคำว่าแต่ เพราะมิว่าฟู่เสี่ยวกวนจะมีชีวิตหรือไม่ เผิงเฉิงอู่ก็ต้องตายอยู่ดี ! ”
1 จอมทัพร้อยรบตาย ผ่านศึกสิบปีกลับ มาจาก โคลงมู่หลาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)