ตอนที่ 809 บุปผาบานสะพรั่งหน้าสุสาน ( 1 )
สุริยายังมิลาลับท้องนภา ทว่าสายลมจากทุ่งหญ้าเริ่มพัดแรงขึ้นแล้ว
สายลมพัดจนทำให้ยอดหญ้าโอนอ่อน ขี้เถ้าจากการเผากระดาษเงินปลิวว่อนไปตามทิศทางของลม
ฟู่เสี่ยวกวนยืนนิ่งท่ามกลางแสงสุริยายามเย็น เขายังมิได้ผละสายตาออกไปจากสุสาน ท่าป๋าเฟิงรู้สึกแปลกใจมิน้อยเนื่องจากธรรมเนียมของชาวฮวงจะมิมีการฝังศพหลังจากที่เสียชีวิต ทว่าสิ่งที่เขาแปลกใจมิใช่ธรรมเนียมนี้เพียงอย่างเดียว สถานะของฟู่เสี่ยวกวนมิจำเป็นต้องเดินทางมาไกลถึงเพียงนี้ เพื่อเคารพศพของแม่ทัพที่เคยคิดสังหารตน
ดังนั้นท่าป๋าเฟิงจึงเอ่ยถามออกมาว่า “กำลังคิดอันใดอยู่กัน ? ”
“ข้ากำลังคิดเรื่องชีวิตของคนผู้นี้ มิว่าจะมีชีวิตที่แสนธรรมดาหรือสูงส่งเทียมฟ้า สุดท้ายก็มีเพียงโลงศพที่นอนอยู่เป็นเพื่อนเท่านั้น”
“…นี่มิใช่สิ่งที่คนเยี่ยงท่านควรจะนึกถึงเลยด้วยซ้ำ”
ฟูเสี่ยวกวนยกยิ้มขึ้น จากนั้นก็จ้องมองไปยังท้องนภายามสุริยาตกดินแล้วถอนหายใจออกมา “ตัวข้าเองก็อยากเป็นเพียงเศรษฐีที่ดิน ที่หากินไปวัน ๆ และรอวันตายเท่านั้น ! ”
สีหน้าของท่าป๋าเฟิงพลันมืดครึ้มขึ้นมาทันใด พลางคิดในใจว่าหากมิใช่เพราะเศรษฐีที่ดินเยี่ยงเจ้า แคว้นของข้าจะสูญสิ้นเอกราชเยี่ยงนี้หรือ ?
หากเจ้าเป็นเศรษฐีที่ดินอย่างแท้จริง ในใต้หล้าก็คงจะมิมีปัญหามากมายเยี่ยงนี้
เป่ยหวังฉวนส่ายศีรษะเมื่อได้ยินสิ่งที่ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ย ทว่าหนิงซือเหยียนกลับจ้องมองไปที่ฟู่เสี่ยวกวน
ทันใดนั้นเป่ยหวังฉวนก็ได้ยินเสียงผ่านเข้ามาในหู เขาเงี่ยหูฟังอย่างรอบคอบพลางขมวดคิ้วเป็นปม แล้วเอ่ยเสียงเข้มว่า “เกิดการสู้รบขึ้นทางทิศใต้”
ฟู่เสี่ยวกวนตื่นตกใจขึ้นมาทันพลัน จากนั้นก็โบกมือออกคำสั่ง “ไปดูสถานการณ์กันเถิด”
ทุกคนจึงกระโดดขึ้นหลังอาชาแล้วมุ่งหน้าลงทางใต้โดยมีเป่ยหวังฉวนห้อตะบึงนำไปก่อน
เวลาผ่านไปครึ่งถ้วยชา ฟู่เสี่ยวกวนก็ได้เห็นการต่อสู้บนทุ่งหญ้าปรากฏสู่สายตา…
มีทหารม้าราว 1,000 นายและทหารราบราว 2,000 – 3,000 นาย หากพิจารณาจากเครื่องแบบที่พวกเขาสวมใส่ก็รู้ได้ทันทีว่าทหารม้าคืออดีตชาวฮวง ส่วนทหารราบนั้น…ฟู่เสี่ยวกวนขมวดคิ้วมุ่น พวกเขาคือทหารราบจากชายแดนเหนือ !
ก่อนที่ฟู่เสี่ยวกวนจะได้ตัดสินใจ ทันใดนั้นก็เห็นเงาดาบเล่มหนึ่งส่องกระทบต้องแสงสุริยา หลังจากนั้นก็เห็นสตรีนางหนึ่งสวมใส่อาภรณ์สีแดงสดเหาะขึ้นไปบนนภา
ดวงตาของฟู่เสี่ยวกวนเบิกกว้าง และในระหว่างที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นเจ้าของอาภรณ์สีแดงสดก็ได้ยกดาบพุ่งเข้าใส่เหล่าทหารม้าที่อยู่เบื้องหน้าอย่างชำนาญ !
อู๋หลิงเอ๋อร์ !
ฟู่เสี่ยวกวนใจหายวาบ จากนั้นก็ออกคำสั่งว่า “จงกำจัดชาวฮวงให้สิ้น ! ”
หนิงซือเหยียนมิได้ชักดาบออกมา ทว่าใช้วิชาตัวเบาลอยตัวขึ้นจากหลังอาชา จากนั้นก็พุ่งเข้าไปกลางสนามรบราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่
เป่ยหวังฉวนยกธนูสุริยะพินาศขึ้นมา เกี่ยวลูกศรกับสายธนู เล็งเป้าแล้วยิงมันออกไป เพียงชั่วพริบตามันก็ทะลุลำคอของชาวฮวงคนหนึ่ง จากนั้นก็ทะลุไปปักบนหน้าผากของชาวฮวงคนที่สองต่อ
เฮ้อซานเตาตะโกนเสียงดังลั่น “สหายทุกท่าน บุกเข้าไป ! ”
เขากระแทกน่องทั้งสองข้างพร้อมกันเพื่อบังคับอาชาให้บุกเข้าไปทันที
เฮ้อซานเตานำทหารดาบเทวะกองพลน้อยที่สามจำนวน 500 นายบุกทะลวง… นี่คือพี่น้องทหารดาบเทวะกองพลน้อยที่สามที่เหลือรอดชีวิตมาจากสงครามเซียวเหอหยวน
หนึ่งกองพลน้อยมีทหารทั้งหมด 5,000 นาย และกองพลน้อยที่สามได้รับความสูญเสียมากที่สุด
บัดนี้พวกเขารับหน้าที่เป็นองครักษ์ยามที่ฟู่เสี่ยวกวนออกตรวจราชการไปยังสถานที่ต่าง ๆ
ฝ่ายเฉินเฉียนเห็นบรรดาพวกพ้องล้มตายไปทีละคนจึงเริ่มควบคุมตนเองมิได้ พลันนึกไปว่าตนและพี่น้องทั้งหลายคงต้องละทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี่เสียแล้ว
น่าเสียดายที่ยังไปมิถึงสุสานของท่านแม่ทัพใหญ่
น่าเสียดายที่มิได้ตายเบื้องหน้าสุสานของท่านแม่ทัพใหญ่
อาชาศึกปรากฏตัวขึ้นมาเบื้องหน้าของเขา จากนั้นดาบยาวก็พุ่งตรงเข้ามา
ดาบที่อยู่ในมือของเขายกขึ้นป้องดาบที่พุ่งเข้ามาโดยแรงนั้น… เขามิสามารถต้านทานได้หรอก ทว่าเขาต้องต้านมันเอาไว้อย่างสุดความสามารถเนื่องจากมีสหายร่วมรบยืนอยู่ด้านหลัง
หากต้องตายด้วยดาบเล่มนี้ก็มิเป็นไร อย่างน้อยก็สามารถช่วยชีวิตสหายร่วมรบที่อยู่ด้านหลังได้ แม้จะรู้แต่แรกว่าสุดท้ายทุกคนก็จะมิรอดชีวิตอยู่ดี
ทว่าดาบของตนที่ใช้ป้องเอาไว้ กลับมิได้สัมผัสกับดาบที่พุ่งเข้ามาแต่อย่างใด
เขาผละแขนข้างที่บดบังสายตาออก จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองชาวฮวงคนที่ใช้ดาบฟันลงมายังดาบของตน พบว่าอีกฝ่ายโดนฟันจนร่างขาดเป็นสองซีกแล้ว !
ดาบปริศนายังคงตัดฉับลงไปอย่างต่อเนื่อง จนอาชาก็ขาดเป็นสองซีกเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)