นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 843

ตอนที่ 843 ราตรีที่มิอาจหลับใหล ( 1 )

ยามที่จัวอี้สิงและคนอื่น ๆ เดินทางออกจากพระราชวังก็ได้เป็นเวลายามจื่อเข้าไปแล้ว

ทว่ากลับไร้วี่แววของความเหน็ดเหนื่อยปรากฏให้เห็นบนใบหน้า

การประชุมย่อยครานี้ฟู่เสี่ยวกวนได้มอบบทเรียนที่มีชีวิตชีวาให้แก่พวกเขา !

พวกเขาฟังอย่างตั้งใจราวกับเด็กน้อยที่ตั้งใจฟังอาจารย์อธิบาย แน่นอนว่ามีหลายเรื่องในบทเรียนนี้ที่พวกเขามิสามารถซึมซับเข้าไปได้ แต่สุดท้ายพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดฟู่เสี่ยวกวนถึงกล้าดำเนินระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม

นี่คือการปฏิรูปที่จะคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมที่สุดมาทำงาน !

มันเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยี กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกแขนงอาชีพ เพื่อเบิกทางให้อยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบด้านการค้าของทั่วโลก… คำว่า ‘ทั่วโลก’ เขาได้ขยายความว่ายังมีอีกหลายแคว้นตั้งอยู่อีกฝั่งมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล… ซึ่งทุกคนสามารถยอมรับความคิดนี้ได้ เพราะที่เมืองกวนหยุนเองก็มีสถานทูตของแคว้นที่ตั้งอยู่อีกฟากทะเลอยู่เช่นกัน

ทว่าสิ่งที่ฟู่เสี่ยวกวนหมายถึงจริง ๆ คือแคว้นที่ตั้งอยู่ไกลออกไปหรือแคว้นทรงอำนาจอันยิ่งใหญ่ เพียงแต่บัดนี้พวกเขายังมิเคยได้ค้นพบผืนปฐพีเหล่านั้นมาก่อน

เมื่อถึงเวลาอาจจะมีอภิมหาสงครามอุบัติขึ้น หรืออาจจะมียุคของการสำรวจทางทะเลบังเกิดขึ้น… ฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นไปมิได้ ทว่าสิ่งที่น่าขันคือคนฟังกลับเชื่ออย่างสนิทใจ

“หากล้าหลังก็ต้องโดนทุบ ! มิว่าจะเป็นด้านการทหารหรือเศรษฐกิจ ! ”

ในฐานะขุนนางเพียงมิกี่คนที่มีอำนาจในราชสำนัก พวกเขารู้สึกราวกับว่าได้แบกภารกิจที่หนักอึ้งยิ่งกว่าภูเขาทั้งลูกขึ้นมาทันใด ภารกิจที่ว่าคือการรักษาระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมให้ดำเนินไปได้ตลอดรอดฝั่ง !

เมิ่งฉางผิงเสนาบดีฝ่ายบริหารถูกฟู่เสี่ยวกวนโน้มน้าวจนสำเร็จ เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดฝ่าบาทถึงมิแยแสอำนาจและอิทธิพลของตระกูลทั้งเจ็ดเลยแม้แต่น้อย

ในสายพระเนตรของจักรพรรดิเต๋อจงทรงเห็นว่าธุรกิจของทั้งเจ็ดตระกูลสามารถดำเนินต่อไปได้มากที่สุดเพียง 3 – 5 ปีเท่านั้น สุดท้ายย่อมโดนกำจัดออกจากสนามแข่งขันไปโดยปริยาย

เว้นแต่ว่าพวกเขาจะสามารถพัฒนาเครื่องมือให้ทันสมัยและปรับปรุงฝีมือเพื่อให้กิจการของตระกูลมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น

ชัดเจนแล้วว่าฝ่าบาทมิเล็งเห็นถึงความสามารถในการเปลี่ยนแปลงของตระกูลเหล่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นพระองค์ทรงเตรียมการเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว… คนส่วนใหญ่ของศูนย์วิจัยซีซานก็ได้มาถึงศูนย์วิจัยแห่งราชวงศ์อู๋เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขามีผลงานที่น่าพึงพอใจหลายประการ และหนึ่งในผลงานชิ้นสำคัญยังคงเป็นความลับอยู่ ฝ่าบาทตรัสว่ารอให้ของชิ้นนี้ออกมาโลดแล่นเมื่อใด ย่อมเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมคราใหญ่ชนิดที่มิเคยปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์มาก่อน

พวกเขามิรู้ด้วยซ้ำว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นเยี่ยงไร แต่สิ่งที่ฝ่าบาทตรัสมาทั้งหมดนั้นจะเป็นยุคสมัยที่รุ่งเรืองของราชอาณาจักร ซึ่งฟังดูแล้วรู้สึกมีความหวังขึ้นมามิน้อย

ธนาคารซื่อทงได้ก่อตั้งที่ราชวงศ์อู๋มาระยะหนึ่งแล้ว ทว่าฝ่าบาทยังมิอนุญาตให้ธนาคารซื่อทงจัดจำหน่ายหุ้น พระองค์ชี้แจงว่ายังต้องยกระดับธนาคารให้มากกว่านี้เสียก่อน

ส่วนกรมการค้าที่เป็นเอกเทศจากกรมทั้งหก ฝ่าบาทมิได้จัดตั้งที่ทำการไว้ในเขตเมืองหลวง แต่กลับจัดตั้งบนถนนห้วนฮวานอกเมืองกวนหยุนแทน

เรื่องนี้ทำให้พวกเมิ่งฉางผิงรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งนัก แต่เมื่อลองตริตรองอย่างละเอียดแล้ว เหตุผลที่ฝ่าบาททรงทำเช่นนี้ช่างลึกซึ้งมากยิ่งนัก

ถนนห้วนฮวาเป็นถนนที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในเขตนอกเมือง การจัดตั้งที่ว่าการกรมการค้าไว้ยังสถานที่แห่งนั้น ก็เพื่อที่จะสามารถไปมาหาสู่กับราษฎรโดยตรง ซึ่งสอดคล้องกับพระประสงค์ที่จะรับใช้ราษฎร

มีความเป็นไปได้สูงว่านี่คือการทดลองรูปแบบหนึ่งของฝ่าบาท หากธุรกิจสามารถดำเนินไปได้ด้วยดีบนถนนห้วนฮวา พระองค์ย่อมจะก่อตั้งที่ทำการของทุกกรมในราชสำนักไว้บนถนนสายนั้นเพื่อให้ราษฎรเข้าถึงได้ง่ายเป็นแน่

เมื่อคิดได้ดังนั้น เมิ่งฉางผิงก็ยิ้มเยาะให้กับความคิดของตน จะเป็นไปได้เยี่ยงไรกัน บัดนี้ยังมิมีแคว้นใดที่นำหน่วยงานซึ่งเป็นศูนย์กลางอำนาจสูงสุดไปเปิดให้กับราษฎรเข้าถึงได้โดยง่าย

……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)