นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 884

ตอนที่ 884 กระป๋อง

หยางฮวาเถ้าเเก่เนี้ยแห่งโรงเตี๊ยมซื่อหยางรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันใด

บุรุษที่อยู่เบื้องหน้านางคือผู้ที่เหมาโรงเตี๊ยมเอาไว้ ส่วนคนที่ตามมาอีก 4 คน มีชายชราผู้หนึ่งที่มองดูแล้วเต็มไปด้วยพลังหนักแน่น แต่ถึงเยี่ยงไรก็ยังด้อยกว่าชายหนุ่มอีกคนไปครึ่งก้าว

ชายหนุ่มผู้นี้มีรูปร่างหน้าตาสง่างามทั้งยังหล่อเหลา เพียงมองดูก็รู้แล้วว่ามิใช่คนธรรมดา ส่วนแม่นางที่เขาเดินจูงมือเข้ามาก็หน้าตาสะสวยเปล่งปลั่ง ถึงขั้นที่จันทราและผกายังต้องละอายก็ว่าได้ แม้แต่สาวใช้ที่ติดตามมาด้านหลัง…มองดูแล้วก็ให้ความรู้สึกสบายตามากยิ่งนัก

เห็นได้ชัดว่าเขาคือคุณชายจากตระกูลใหญ่ เพียงแต่ว่าคุณชายท่านนี้เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้เพื่อเหตุอันใดกัน ?

สถานที่ทุรกันดารเช่นนี้ คาดว่าคุณชายท่านนี้คงทนอยู่ได้เพียง 2 วันก็มิน่าจะทนไหวแล้ว แม่นางผู้นั้นยิ่งทนมิได้เข้าไปใหญ่

การที่คุณชายเหมาโรงเตี๊ยมเป็นเวลา 1 คืน ย่อมหมายความว่าวันพรุ่งนี้เขาต้องออกเดินทางต่อ แล้วเขาจะไปยังที่แห่งใดกัน ? มิเคยได้ยินว่าที่เซี่ยซานโจวมีการค้าอันใดที่น่าลงทุนเลยนี่

หยางฮวาได้แต่ครุ่นคิดในใจพลางเดินไปเรื่อย ๆ นางอยากไปดูที่ลานด้านหลังเสียเหลือเกิน ทว่านายท่านเหล่านี้ก็ได้กำชับนางเอาไว้ว่า หากมิได้เรียกก็ห้ามเข้าไปเป็นอันขาด

เอาเถิด…พวกเขามีเงิน ผู้ใดมีเงินผู้นั้นเป็นใหญ่ !

ใต้ต้นไทรเก่าแก่ของลานสี่เหลี่ยมด้านหลัง ฟู่เสี่ยวกวนและคนอื่น ๆ นั่งล้อมวงกันอยู่ที่โต๊ะหิน เสี่ยวฉีหยิบแตงโมขึ้นมาจากบ่อน้ำ ตัดแบ่งเป็น 2 ชิ้น จากนั้นก็ส่งให้เจ้านาย

ฟู่เสี่ยวกวนยื่นให้ต่งชูหลาน 1 ชิ้น “ที่แห่งนี้เลือกได้มิเลวเลยทีเดียว มา ๆ ๆ มาทานแตงโมเย็นฉ่ำนี้เพื่อคลายความร้อน”

ฟู่เสี่ยวกวนกัดแตงโมเข้าไปหนึ่งคำ พลันรู้สึกว่านำแตงโมขึ้นจากบ่อน้ำเร็วไปหน่อยเพราะด้านในยังคงร้อนอยู่ ทว่ารสชาติดียิ่งนัก

“อีกประเดี๋ยวเมื่อสุริยาลาลับ พวกเราออกไปเดินเล่นและกินมื้อค่ำที่หอห้าวชือกันเถิด… ชูหลาน หากเจ้าเหนื่อยล้าก็เข้าไปนอนพักผ่อนด้านในเสียก่อน”

“มิเป็นไร ที่ตรงนี้อากาศเย็นมากเลยทีเดียว”

หลังจากนั้นเสี่ยวฉีก็ได้นำน้ำบ๊วยแช่เย็นออกมาสองสามชาม น้ำบ๊วยมีรสชาติยอดเยี่ยมยิ่ง ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการร้อนในได้เป็นอย่างดี เมื่อฟู่เสี่ยวกวนดื่มเข้าไปก็รู้สึกสบายตัวขึ้นมามากเลยทีเดียว

“ฝ่า…คุณชาย ต้องการพบนายอำเภอที่นี่หรือไม่ขอรับ ? ” หนิงซือเหยียนกัดแตงโมเข้าไปหนึ่งคำพลางเอ่ยถามออกมา

“บัดนี้ยังมิต้อง เพราะการเดินทางในครานี้ ข้าเพียงต้องการออกสำรวจว่าสถานที่เหล่านี้คุ้มค่าแก่การพัฒนาทรัพยากรหรือไม่ ? และต้องการดูว่าชาวบ้านในสถานที่นี้มีชีวิตความเป็นอยู่เยี่ยงไร อาทิเช่น แตงโมและน้ำบ๊วยของที่นี่มิเลวเลย หากสามารถขนส่งออกไปได้ก็ล้วนเป็นเงินทองทั้งสิ้น”

“จริงสิ ! หากสถานที่แห่งนี้มีทรัพยากรที่เหมาะสมก็จะสามารถสร้างโรงงานเครื่องแก้วได้ และเมื่อมีกระป๋องก็จะสามารถบรรจุน้ำบ๊วยใส่กระป๋องเพื่อส่งขายได้ง่ายขึ้น”

“กระป๋องคือสิ่งใดเยี่ยงนั้นหรือขอรับ ? ” หนิงซือเหยียนเอ่ยถาม

“มันคือการแปรรูปและฆ่าเชื้อโรคให้ตายทั้งหมด เมื่อบรรจุน้ำบ๊วยลงในกระป๋องแล้วจะสามารถเก็บรักษาได้นานหลายเดือนเลยทีเดียว”

ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในสมองของฟู่เสี่ยวกวนทันใด

หากต้องการขนส่งไปยังสถานที่ที่ไกลโพ้น กระป๋องถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ บนเรือจะขาดแคลนผักและผลไม้มากที่สุด ดังนั้นลูกเรือล้วนเสี่ยงเป็นโรคลักปิดลักเปิดได้ค่อนข้างง่าย โรคลักปิดลักเปิดนี้หนานกงตงเซวี๋ยเพิ่งหายขาด นางอาศัยวิตามินในการบำรุงรักษา

ผักผลไม้สามารถบรรจุในกระป๋องได้ เนื้อสัตว์ก็สามารถบรรจุในกระป๋องได้เช่นเดียวกัน ปัญหาเรื่องเสบียงของลูกเรือจึงจะจัดการได้ในคราเดียว

“ชูหลาน เจ้าช่วยข้าจำเรื่องนี้เอาไว้สักหน่อย เมื่อกลับไปแล้วให้สำนักวิทยาศาสตร์แห่งชาติเดินทางมาสำรวจที่นี่ อ้อ ! เเล้วช่วยเตือนข้าให้เขียนจดหมายไปหาหยูจงถานด้วย เพราะข้าต้องการขวดแก้วชนิดพิเศษ”

ในขณะที่ฟู่เสี่ยวกวนกำลังเอ่ยถึงเรื่องขวดแก้วอยู่นั้น อีกด้านหนึ่งจ้าวเต๋อก็ได้พาลูกน้อง 3 คนกลับไปยังที่ว่าการด้วยความดีอกดีใจ

จากนั้นเขาก็นำเงินจำนวน 3 ตำลึงยื่นให้หม่าจี๋แห่งกองทหารรักษาการณ์เมืองซื่อหยางอย่างนอบน้อม “ท่านแม่ทัพขอรับ วันนี้โชคดียิ่งเพราะพวกเราพบเข้ากับแกะอ้วนท้วน คาดว่าจะเป็นคุณชายจากตระกูลหาน พวกเขามากันทั้งสิ้นสามคันรถม้า ข้าน้อยรู้สึกว่าท่านมิได้ไปที่หอเยียนฮวาเนิ่นนานแล้ว จึงได้นำเงินมาเพื่อตอบแทนท่านขอรับ”

หม่าจี๋ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราเผยอยิ้มขึ้น ก่อนจะรับเงินมากำไว้ในมือ “เจ้าช่างมีความกตัญญูเสียจริง มิเสียแรงที่ข้าเลี้ยงดูมาถึง 3 ปี ทว่ากฎก็คือกฎและนี่คือเงินตอบแทนของพวกเจ้า 600 อีแปะ จงนำไปแบ่งพี่น้องที่อยู่เวรด้วยกันวันนี้เถิด”

“ขอบคุณท่านแม่ทัพมากยิ่งนักขอรับ ! ” จ้าวเต๋อรับเงินจำนวน 600 อีแปะมากำไว้แน่น จากนั้นก็ทำท่าจะเดินจากไป แต่อยู่ ๆ หม่าจี๋ก็เรียกเขาเอาไว้ก่อนว่า “รอก่อน”

“ท่านแม่ทัพมีอันใดให้รับใช้เยี่ยงนั้นหรือขอรับ ? ”

“เมื่อครู่เจ้าว่าเยี่ยงไรนะ ? คาดว่าจะเป็นคุณชายจากตระกูลหานเยี่ยงนั้นหรือ ? ตระกูลหานที่ใดกัน ? ตระกูลหานที่ชิงหัวโจวน่ะหรือ ? ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)