ตอนที่ 909 เลี้ยงต้อนรับ ( 1 )
หลิวจิ่นห้าวเทียบท่าที่อู่ต่อเรือเรียบร้อยแล้ว หลิวจิ่นรุดหน้าลงมาเป็นคนแรก
เขาทะยานเข้าไปหาฟู่เสี่ยวกวนอย่างว่องไว องค์จักรพรรดิทรงรักใคร่ตนเสียยิ่งกว่าบิดาในสายเลือดเสียอีก ความผูกพันแสนลึกซึ้งและจริงใจนี้ ทำให้หลิวจิ่นซาบซึ้งอย่างหาที่สุดมิได้
กระหม่อมอยู่ห่างไกลหลายพันลี้ ทว่าฝ่าบาททรงเป็นห่วงเป็นใยกระหม่อมอยู่ตลอดเวลา กระหม่อมจะคู่ควรให้ฝ่าบาทเสด็จมาต้อนรับด้วยพระองค์เองได้เยี่ยงไรกัน ?
นี่คือพระมหากรุณาธิคุณที่ฝ่าบาทมีต่อกระหม่อม !
หลิวจิ่นอยากสยายปีกสองข้างออกเพื่อโผบินไปให้ถึงตำแหน่งที่ฝ่าบาทยืนอยู่เร็ว ๆ
ฟู่เสี่ยวกวนย่อมมีความสุขมากเช่นกัน แม้ในใจจะคิดมาตลอดว่าหลิวจิ่นจะเป็นตายร้ายดีเยี่ยงไรก็ได้ ทว่าหลิวจิ่นห้าวต้องกลับมาให้จงได้
เวลาเก้าเดือนกว่า พวกเขาเดินทางไปถึงที่ใดกัน ? พบเจอสิ่งใดบ้างและผ่านประสบการณ์เยี่ยงไรมาบ้าง ?
ฟู่เสี่ยวกวนให้ความสนใจในจุดนี้มากที่สุด เพราะนี่คือประสบการณ์ออกทะเลที่หาได้ยากยิ่ง
เพียงแต่…เจ้าหลิวจิ่นจะวิ่งราวกับบินได้เพื่ออันใดกัน ?
แล้วเหตุใดจึงมิเห็นศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่รองเล่า ?
ศิษย์พี่แปดซูม่อลงมาจากเรือแล้ว… เหมือนว่าคนบนเรือก็ลงมาหมดแล้วเช่นกัน ทว่าศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่รองหายไปที่ใดแล้วเล่า ?
ฟู่เสี่ยวกวนตื่นตกใจขึ้นมาทันพลัน มิมีทางเป็นไปได้ที่ปรมาจารย์ทั้งสองคนจะตาย ส่วนหลิวจิ่นยังมีชีวิตรอด เป็นไปได้เยี่ยงนั้นหรือ ?
ในที่สุดหลิวจิ่นก็วิ่งกระหืดกระหอบมาถึงเบื้องหน้าของฟู่เสี่ยวกวน สองมือสะบัดชายอาภรณ์พิธีการออก จากนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้นดัง ตึง !
ในช่วงเวลานั้นหลิวจิ่นก็กักเก็บความคำนึงถึงองค์จักรพรรดิเอาไว้มิอยู่อีกต่อไป เขาหลั่งน้ำตาพร้อมกอดขาของฟู่เสี่ยวกวนเอาไว้ “ฝ่าบาท… ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม… กระหม่อมคิดถึงพระองค์มากยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ ! ”
บัดซบ เจ้าบ้านี่ !
ฟู่เสี่ยวกวนเกือบเตะหลิวจิ่นให้ตกลงไปในแม่น้ำแยงซีแล้วด้วยซ้ำ แต่คิดไปคิดมาคนผู้นี้ต่อให้ไร้คุณงามความดีทว่าก็ทำงานหนักเสียเหลือเกิน
“หลิวจิ่น ลุกขึ้นมาเถิด”
“ไม่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท…9 เดือนกับอีก 22 วัน กระหม่อม…กระหม่อมทำให้ฝ่าบาทรอนานเกินไปแล้ว ! กระหม่อมสมควรตายหมื่นครั้ง กระหม่อมมิควรโลภในเครื่องประดับและเงินทองเหล่านั้น กระหม่อมควรกลับมาให้เร็วกว่านี้…”
หลิวจิ่นเงยหน้าขึ้นสบสายตากับฟู่เสี่ยวกวนเข้าพอดี เขารู้สึกว่าดวงเนตรคู่นั้นมีความห่วงใยให้กันอย่างถึงที่สุด
“ฝ่าบาททรงคำนึงถึงกระหม่อมจนผ่ายผอม เมื่อกลับวังหลวงแล้วกระหม่อมจะให้ทางห้องเครื่องทำเครื่องเสวยรสเลิศเพื่อบำรุงให้แก่ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”
ดวงตาของฟู่เสี่ยวกวนเบิกโพลง เจ้าหมอนี่…หรือว่าการออกทะเลครานี้จะทำให้มีน้ำทะเลในสมองมากเกินไป ?
เขาประคองหลิวจิ่นขึ้นมา “ศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่รองเล่า ? ”
“อ่า ทูลฝ่าบาท ศิษย์พี่ทั้งสอง มิใช่ ! ท่านอาจารย์ทั้งสองเอ่ยว่าจะเดินเท้าทางบกเพื่อกลับแคว้นพ่ะย่ะค่ะ”
“ทางบกเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“ใช่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมคิดว่าเป็นเพราะอาการเมาเรืออย่างหนักของท่านอาจารย์ใหญ่ เขาจึงอยากเดินเท้ากลับ ผลลัพธ์ที่ได้คือท่านอาจารย์รองเอ่ยว่าจะร่วมเดินเท้ากลับกับท่านอาจารย์ใหญ่…เป็นเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”
ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยอันใดมิออกเพราะมีแต่ผีสางเท่านั้นที่ทราบว่าพวกเขาไปเทียบท่ายังผืนปฐพีใด หากเป็นเกาะก็เกรงว่าทั้งสองจะมิได้กลับสู่ราชวงศ์อู๋ไปชั่วชีวิต
“ไป… ไปขึ้นเรือ”
“กระหม่อม… กระหม่อมจะพาฝ่าบาทไปทอดพระเนตรสิ่งที่ได้รับจากการเดินทางครานี้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท… พระองค์คงมิทราบว่าเครื่องประดับและเงินทองของบรรดาชนพื้นเมืองกองพะเนินเทินทึกสูงเท่าภูเขาเลากา กระหม่อมจึงนำกลับมาด้วยทั้งหมดพ่ะย่ะค่ะ”
“พวกเจ้าไปถึงที่ใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“มิทราบพ่ะย่ะค่ะ แต่ท่านอาจารย์ใหญ่ให้นามว่าช่องแคบเบริงพ่ะย่ะค่ะ”
ฟู่เสี่ยวกวนซวนเซจนเกือบหงายหลังลงกับพื้น หลิวจิ่นจึงรีบประคองไว้ทันที จากนั้นก็เอ่ยด้วยความมิสบายใจว่า “กระหม่อมมิทราบว่าที่ตรงนั้นคือสถานที่แห่งใด มิมีผู้ใดทราบทั้งยังมิเข้าใจในสิ่งที่ชนพื้นเมืองเหล่านั้นเอ่ยมา ท่านอาจารย์ใหญ่จึงอ้างอิงตามการออกเสียงของพวกเขาและทำเครื่องหมายให้สถานที่แห่งนั้นเป็นช่องแคบเบริง ใช่ ! หมู่เกาะที่อยู่ด้านนอกเหล่านั้น ท่านอาจารย์ใหญ่ขนานนามว่าหมู่เกาะอะลูเชียนพ่ะย่ะค่ะ”
ฟู่เสี่ยวกวนกลืนน้ำลายหนึ่งอึก เขาชะงักฝีเท้าลง ให้ตายเถิด ! เหตุใดประวัติศาสตร์จึงแปลกประหลาดเยี่ยงนี้ ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)