นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 914

ตอนที่ 914 จงเกษียณอายุเถิด

รัชศกเทียนเต๋อปีที่สอง วันที่แปด เดือนสิบเอ็ด

ในวันนี้ฟู่เสี่ยวกวนจักรพรรดิแห่งราชวงศ์อู๋ได้คัดเลือกเยาวชนมากกว่า 300 คนให้เป็นจิ้นซื่อ จากนั้นก็คัดอีกราว 10 คนจากทั้งหมดนี้เพื่อแต่งตั้งเป็นนายอำเภอแล้วเข้ารับตำแหน่งทันที ส่วนที่เหลือให้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในศูนย์กลางเยี่ยงราชสำนักและให้กระจายตัวศึกษางานในแผนกต่าง ๆ ซึ่งเรียกว่า…เจ้าหน้าที่สมทบ

ในเวลาเดียวกันสถานการณ์ในห้องทรงพระอักษรแห่งราชวงศ์หยู หยูเวิ่นเต้าได้สั่งปลดขุนนางกลุ่มหนึ่งออกจากตำแหน่ง

ข่าวที่ฟู่เสี่ยวกวนจะออกทะเลในเดือนสองของปีหน้าแพร่มาถึงที่นี่แล้ว ครอบครัวของโจวถงถงก็มาถึงเมืองจินหลิงตามกำหนดแล้วเช่นกัน แผนการชุนเหลยที่วางเอาไว้จะได้เริ่มดำเนินอย่างเป็นทางการเสียที

ราชวงศ์หยูจะรวบรวมกองทัพจำนวนมากและการเคลื่อนไหวของกำลังทหารสามารถกระทำโดยมิให้ขุนนางรู้ตัวได้ ทว่าการจัดสรรเสบียงอาหารต้องผ่านกรมคลังก่อนซึ่งต่งคังผิงเสนาบดีกรมคลังเป็นพ่อตาของฟู่เสี่ยวกวน !

เรื่องนี้เป็นแผนการใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับชะตากรรมของราชอาณาจักร ดังนั้นต้องไร้ข้อผิดพลาดโดยเด็ดขาด !

ในแผนการนี้คือกองทัพของราชวงศ์อู๋ต้องพ่ายแพ้ในคราเดียว ภูเขาทองคำที่เดิมทีเคยเป็นของราชวงศ์หยูจะต้องหวนคืนสู่เจ้าของที่แท้จริง จากนั้นก็ทำลายการพัฒนาของราชวงศ์อู๋ลงเสีย เรื่องนี้จะทำได้ง่ายขึ้นหากสังหารฟู่เสี่ยวกวนได้ในระหว่างออกทะเล

ในวันที่เจ็ดเดือนหนึ่งของปีหน้า เขาจะเดินทางไปยังว่อเฟิงเต้าอย่างลับ ๆ เพื่อพบกับเยียนหานยวี่จักรพรรดิแห่งแคว้นอี๋และผู้นำตระกูลเฉิน ตระกูลโจว ตระกูลหลู่เพื่อหารือเกี่ยวกับสงครามที่กำหนดไว้ในเดือนสามของปีหน้า รวมถึงการแบ่งผลประโยชน์หลังจบสงคราม

สถานการณ์ในห้องทรงพระอักษร…ต่งคังผิงนิ่งเงียบมิต่างจากเก่าก่อน

ในวันนี้มีเพียงข้าราชบริพารเยี่ยงเขาและฮ่องเต้เท่านั้น หยูเวิ่นเต้าต้มชาหนึ่งกา จากนั้นก็รินใส่ถ้วยให้ต่งคังผิงพลางเอ่ยว่า “เอ่ยได้ว่าตอนที่ข้าอยู่ในจินหลิง แต่ก่อนก็มักจะไปทานอาหารที่จวนของท่านหลายครา”

“ท่านคือขุนนางอาวุโสแห่งราชวงศ์หยู ทั้งยังเป็นผู้ดูแลกรมคลังอีกด้วย ยามที่เสด็จพ่อยังครองบัลลังก์อยู่ก็ได้การคำนวณอย่างละเอียดถี่ถ้วนของท่านทำให้เศรษฐกิจของราชวงศ์หยูพัฒนาขึ้นมา เรื่องนี้ข้ารู้ชัดแจ้งว่าท่านทำหน้าที่ได้ดียิ่ง”

หยูเวิ่นเต้าลุกขึ้นยืน ก้มศีรษะลงเล็กน้อย จากนั้นก็เดินไปสองก้าว “ทว่าสถานการณ์ในบัดนี้… ท่านก็ทราบดีว่าราชวงศ์อู๋ใช้เกลือขาวเป็นอาวุธ ทำให้ความก้าวหน้าด้านอุตสาหกรรมเกลือเขียวของราชวงศ์หยูต้องปิดตัวลงด้วยเหตุผลบางประการ หากมิใช่เพราะการมาถึงของตระกูลเฉิน…เกรงว่าเกลือของราชวงศ์หยูจะถูกฟู่เสี่ยวกวนควบคุมเกือบทั้งหมด”

“แต่เดิมผ้าไหมและเครื่องลายครามของราชวงศ์หยูครอบครองตลาดในราชวงศ์อู๋ ทว่าบัดนี้สูญเสียความได้เปรียบเกือบทั้งหมดแล้ว เพราะมีสินค้าและผลิตภัณฑ์เหล่านี้ผลิตในราชวงศ์อู๋ สินค้าเหล่านั้นยังขยายวงกว้างเข้ามายังตลาดของราชวงศ์หยูในปริมาณมากอีกด้วย เนื่องจากพวกเขาขายถูกกว่า ท่านเองก็ทราบเรื่องนี้ดี”

“ดังนั้นบัดนี้ราชวงศ์หยูกำลังเผชิญหน้ากับการปฏิรูปใหม่ หากพวกเราไร้การปฏิรูปสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาบ้าง ก็เกรงว่าสินค้าทั้งหมดในตลาดจะถูกแทนที่ด้วยสินค้าของราชวงศ์อู๋ในปีต่อ ๆ ไป”

“ข้าคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว เสนาบดีต่ง เพราะความห่างเหินท่านและข้าจึงมิสามารถเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ ทั้งยังยากที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ ในใจทุกฝ่ายจึงมิสบายอกสบายใจเช่นนี้ ดังนั้นพวกเรามาทำให้เรื่องนี้สบายใจมากขึ้นดีหรือไม่ ท่านคิดว่าเยี่ยงไร ? ”

หยูเวิ่นเต้าหันไปมองที่ต่งคังผิงด้วยสายตาคาดคั้น เดิมทีเขาคิดว่าต่งคังผิงจะโกรธและเป็นทุกข์ จากนั้นก็โต้กลับมาเสียอีก ทว่าต่งคังผิงที่อยู่เบื้องหน้ากลับนิ่งสงบราวกับน้ำในทะเลสาบซวนอู่

ต่งคังผิงยกยิ้มมุมปากจากนั้นก็เอ่ยว่า “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าฝ่าบาททรงตรัสได้มีเหตุผล… กระหม่อมจะประกาศเกษียณอายุราชการในวันพรุ่งนี้ และขอทูลถามฝ่าบาทว่าหลังจากที่กระหม่อมเกษียณแล้วสามารถออกจากเมืองจินหลิงได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ? ”

หยูเวิ่นเต้าขมวดคิ้วมุ่น “สภาพอากาศที่จินหลิงดีกว่าเมืองกวนหยุนเสียอีก ท่านอยู่จวนพักผ่อนยามชราที่จินหลิงมิดีกว่าหรือ ? ”

“ทูลฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงอย่าเข้าพระทัยความหมายของกระหม่อมผิด เพราะกระหม่อมมิได้จะไปเมืองกวนหยุนพ่ะย่ะค่ะ”

หยูเวิ่นเต้าตื่นตกใจขึ้นมาทันใด “ท่านจะไปที่ใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมต้องการไปที่ภูเขาซีซานแห่งหลินเจียงพ่ะย่ะค่ะ”

หยูเวิ่นเต้าผงะไปชั่วครู่ ต่งคังผิงเอ่ยต่อว่า “แต่ก่อนฟู่เสี่ยวกวนมักจะเอ่ยว่า ตอนที่เขาเป็นเจ้าของที่ดินเล็ก ๆ ในซีซาน เขาได้เตรียมดินปลูกพืชด้วยตนเอง ตอนนั้นทำให้กระหม่อมเกิดความคิดขึ้นมาว่าหลังจากเกษียณแล้ว กระหม่อมอยากมีที่ดินแปลงเล็ก ๆ สักแปลงเพื่อปลูกพืชและเก็บเกี่ยวด้วยตนเอง เป็นการใช้ชีวิตบั้นปลายที่มั่นคงและปลอดภัย ฝ่าบาทโปรดอนุญาตด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

จิ้งจอกเฒ่าตัวนี้จะมาไม้ใดอีกกัน ?

หยูเวิ่นเต้ามิเข้าใจความคิดของอีกฝ่าย ทว่าเมื่อมาคิด ๆ ดูแล้ว ตนก็คุ้นเคยกับสถานที่ในภูเขาซีซานเป็นอย่างดี อีกอย่างตนก็เคยอาศัยอยู่ที่ภูเขาเฟิ่งหลินมา 1 ปีเต็ม

บัดนี้เหมืองแร่ที่ภูเขาเฟิ่งหลินถูกฝ่ายราชการควบคุมเรียบร้อยแล้ว ผู้คนในสำนักอาวุธปืนก็เป็นคนของตนแล้วเช่นกัน

และยังมีราษฎรมากมายที่ยังหลงเหลืออยู่ที่หมู่บ้านเสี้ยชุน แม้ที่นั่นจะมีแปลงนามากก็จริง ทว่าต่งคังผิงคงทำอันใดมิได้มากนักหรอก

“ข้าอนุญาต ! ”

จากนั้นต่งคังผิงก็ลุกขึ้นยืนแล้วทำความเคารพ “กระหม่อมขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ! ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)