นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 981

สรุปบท ตอนที่ 981 ประหลาดใจหรือไม่ ?: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

ตอน ตอนที่ 981 ประหลาดใจหรือไม่ ? จาก นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 981 ประหลาดใจหรือไม่ ? คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายทะลุมิติ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 981 ประหลาดใจหรือไม่ ?

จี้หยุนกุยเอ่ยคำถามเดิมกับชายอ้วนถึงสองครา “แท้จริงแล้วฝ่าบาทเป็นโอรสของท่านกับคุณหนูใช่หรือไม่ ! ”

คำถามนี้สำคัญมากยิ่งนัก ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการคาดเดาของจี้หยุนกุยในบางเรื่อง

ชายอ้วนสาบานแล้วเอ่ยอย่างเด็ดขาดว่า “อู๋ฉางเฟิงคือน้องชายของข้า ส่วนสวี่หยุนชิงคือน้องสะใภ้ ข้าเป็นผู้เลวทรามต่ำช้าเยี่ยงสัตว์ป่าถึงเพียงนั้นเลยหรือ ? ข้าก็มีจิตสำนึก ! ข้าจะบอกเจ้าว่าแท้จริงแล้วฟู่เสี่ยวกวนเป็นบุตรของน้องชายข้าและสวี่หยุนชิง ! ”

เป็นเพราะคำตอบนี้จี้หยุนกุยจึงจมอยู่ในความคิดแล้วพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนเป็นเวลานาน ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าเกาเสี่ยนเอ่ยโกหกและได้ข้อสรุปว่า จักรพรรดิเหวินมิน่าทำผิดพลาดคราใหญ่ในสนามรบ ณ เมืองเปียนเฉิง

พระองค์ย่อมต้องแจ้งไปยังซูฉางเซิงก่อนแน่นอน !

ทว่าซูฉางเซิงก็ยังมาช้าเพียงก้าวเดียว

มาช้าเพียงก้าวเดียว จนทำให้สวี่หยุนชิงถูกฝานอู๋เซียงโจมตีเข้าที่จุดสำคัญ

จี้หยุนกุยมิอาจมั่นใจได้ว่าคุณหนูยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หากคุณหนูสวมชุดคราบจักจั่นเอาไว้ นางย่อมมิตกตายโดยง่ายอย่างแน่นอน

ทว่าเขาก็ยังมิเข้าใจเหตุผลของมันว่า…หากคุณหนูยังมิตายในตอนนั้น ฟู่เสี่ยวกวนก็ได้สังหารฝานอู๋เซียงไปแล้ว ซูฉางเซิงก็ได้สังหารเหล่าพระนักรบแล้ว ทว่าเหตุใดนางยังต้องตายต่อหน้าทุกคนอีกเล่า ?

เหตุใดซูฉางเซิงต้องทำเช่นนี้ด้วย ?

หากคุณหนูตายแล้วจะมีผลอันใดต่อซูฉางเซิงกัน ?

หากซูฉางเซิงมีแผนการจริง มิใช่ว่าเขาควรลงมือกับฟู่เสี่ยวกวนมากกว่าหรือ ?

จี้หยุนกุยมิสามารถหาคำตอบนี้ได้ และยิ่งคิดก็ยิ่งมิเข้าใจ

จะว่าไปแล้วซูฉางเซิงก็เป็นศิษย์พี่ใหญ่ของคุณหนู ทั้งยังเป็นท่านอาจารย์ของฟู่เสี่ยวกวนอีกด้วย !

เขาสูดหายใจเข้าลึก กว่าคุณหนูจะผ่านมาได้มิง่ายเลย อาจจะเป็นไปได้ว่าคุณหนูไปล่วงรู้ความลับของซูฉางเซิงเข้า ดังนั้นการกำจัดนางจึงเป็นเรื่องใหญ่กว่าชีวิตของฟู่เสี่ยวกวน

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาของจี้หยุนกุยและเพื่อพิสูจน์การคาดเดานี้ จึงจำต้องไปยังสุสานจักรพรรดิ ดูว่าแท้จริงแล้วคุณหนูนอนอยู่ในโลงศพจริงหรือไม่

ฟู่เสี่ยวกวนสูดหายใจเข้าลึก รู้สึกว่าท่านแม่ของตนนั้น…หากนางแกล้งตายอีกครา ๆ จริง นางคงจะเป็นตำนาน

เหตุใดต้องทำเช่นนี้ด้วยกัน ?

หากต้องมีเหตุผลมาประกอบ…เหตุผลก็คือถ้าสวี่หยุนชิงมิตายที่เมืองเปียนเฉิง ซูฉางเซิงอาจจะเป็นภัยต่อฟู่เสี่ยนกวน

หรือว่า…เพราะปืนยาวกระบอกนั้น ซูฉางเซิงถึงได้ปรากฏตัวออกมาหลังจากยิงปืนยาวที่เหลือกระสุนนัดสุดท้ายออกไป

บัดนี้ฟู่เสี่ยวกวนหวังว่าการคาดเดาของจี้หยุนกุยจะถูกต้อง อาจารย์สามารถตายได้ ทว่าท่านแม่จะต้องมีชีวิตอยู่

ทว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ ?

ฟู่เสี่ยวกวนเฝ้ารอคอยด้วยความกังวลใจและเป็นคราแรกที่เขาอยากสืบหาความจริงของเรื่องนี้

รถม้าเดินทางมาถึงสุสานจักรพรรดิในที่สุด

จากนั้นฟู่เสี่ยวกวนก็สั่งให้ทหารเฝ้ายามประจำสุสานเปิดประตูบานใหญ่ออก

ตามมาด้วยเสียง เอี๊ยด… ! ดังออกมาจากประตู ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างที่มิเคยเป็นมาก่อน

สวี่หยุนชิง…แท้จริงแล้วท่านตายหรือยังมิตายกันแน่ ?

พวกเขามาถึงหลุมฝังศพของจักรพรรดิเหวิน ฟู่เสี่ยวกวนและชายอ้วนก็ได้ลอยตัวขึ้นไปยังแท่นสูง สีหน้าของฟู่เสี่ยวกวนหวั่นไหวจนเริ่มแดงก่ำขึ้นมา อารมณ์เช่นนี้เขามิเคยเป็นมาก่อน บัดนี้ยามที่มือของเขาวางอยู่บนฝาจื่อกงแสนหนักอึ้ง แม้แต่มือก็สั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อย

แม้ว่าจะมิใช่มารดาที่แท้จริงของตนเอง

ทว่าสำหรับมารดาผู้นี้ เขารู้สึกใกล้ชิดอย่างหาที่สุดมิได้

ใบหน้าของสวี่หยุนชิงซีดเผือดเล็กน้อย ทว่าก็มีรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความรักปรากฏอยู่บนใบหน้าซีดเซียวนั้น… แท้จริงแล้วจังหวะที่ชายอ้วนผลักฝาจื่อกงออก ฟู่เสี่ยวกวนที่ยื่นศีรษะไปดูเป็นคนแรก เห็นนิ้วชี้ของสวี่หยุนชิงเลื่อนขึ้นมาวางอยู่ที่ริมฝีปากของนาง !

นางยังมีชีวิตอยู่ !

ทว่านางมิอยากให้ผู้ใดทราบว่านางยังมีชีวิตอยู่ นอกจากฟู่เสี่ยวกวน !

แม้แต่ชายอ้วนก็เชื่อว่านางตกตายไปแล้วอย่างสนิทใจ

ในแววตาของฟู่เสี่ยวกวนทั้งตกตะลึงและยินดีจนยากจะบรรยายได้ด้วยวาจา จากนั้นเขาก็เห็นสวี่หยุนชิงหยิบขนมออกมาจากกระเป๋าแขนเสื้อ…นั่นคือขนมดอกกุ้ยฮวาจากร้านหวู่ฟางไจ !

นางหยิบมันเข้าปากด้วยความหิวโหย “ลูกชายเอ๋ย รอสักประเดี๋ยว แม่จะตายเพราะความหิวอยู่แล้ว ! ”

จากนั้นฟู่เสี่ยวกวนก็หัวเราะร่าออกมาทันที เขาเห็นสวี่หยุนชิงสำลักขนม เขาจึงยื่นมือออกไปช่วยตบที่แผ่นหลังของนางเบา ๆ “ค่อย ๆ ทานเถิด”

“…ก็ข้าหิวนี่”

“มาเถิด เจ้าก็ลองทานดูสิ” จากนั้นสวี่หยุนชิงก็หยิบขนมดอกกุ้ยฮวาป้อนเข้าปากของฟู่เสี่ยวกวน ทั้งสองแม่ลูกนั่งอยู่ข้างจื่อกงพลางทานขนมดอกกุ้ยฮวาโดยไร้บทสนทนาใด ๆ

ผ่านไปราวครึ่งถ้วยชา ยังทานมิทันอิ่ม ทว่าขนมดอกกุ้ยฮวาก็หมดเสียแล้ว

สวี่หยุนชิงตบเศษขนมในมือออกแล้วเช็ดริมฝีปาก จากนั้นก็หันไปมองฟู่เสี่ยวกวนด้วยดวงตาสดใส

“จี้หยุนกุยบอกเจ้าเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้า “ท่านแม่…”

“อือ…” เมื่อสวี่หยุนชิงได้ยินดังนั้นก็รู้สึกยินดีมากยิ่งนัก นางยื่นมือออกมาแล้วจับใบหน้าของฟู่เสี่ยวกวน ดวงตาของนางเปล่งประกายขึ้นมาทันใด

“ลูกเอ๋ย… จี้หยุนกุยผู้นี้ช่างจุ้นจ้านเสียจริง เดิมทีแม่คิดจะอยู่กับท่านพ่อของเจ้าให้นานกว่านี้สักหน่อย เมื่อการประชุมใหญ่ประจำราชสำนักถูกจัดขึ้นอีกครา แม่ก็จะไปปรากฏตัวในพระราชวังจินเตี้ยน… หากเป็นเช่นนี้เจ้าจะรู้สึกประหลาดใจหรือไม่ ? ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)