นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 983

สรุปบท ตอนที่ 983 กลับบ้าน: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 983 กลับบ้าน – นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet

บท ตอนที่ 983 กลับบ้าน ของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ในหมวดนิยายทะลุมิติ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 983 กลับบ้าน

ในอดีตชายอ้วนเคยนำกล่องดำที่บรรจุปืนกระบอกยาวไปยังสำนักเต๋า

ซูฉางเซิงเคยพยายามเปิดกล่องนี้ ทว่าที่กล่องมิพบรูกุญแจใด ๆ แม้แต่ปรมาจารย์อันดับหนึ่งในใต้หล้าเยี่ยงเขาก็มิอาจทำลายกล่องดำด้วยพลังภายในได้ !

แม้จะมิเต็มใจสักเท่าใด ทว่าก็ต้องล้มเลิกความตั้งใจในการทำลายกล่องนี้ไป

ความโชคดีอย่างหนึ่งคือ บัดนี้ซูฉางเซิงยังมิทราบว่าฟู่เสี่ยวกวนมิเหลือกระสุนแล้ว มิเช่นนั้นซูฉางเซิงคงลงมือกับฟู่เสี่ยวกวนไปแล้ว

ฟู่เสี่ยวกวนถอนหายใจยาวแสดงความโล่งอก เพราะสุดท้ายแล้วอีกฝ่ายก็พลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการสังหารเขาไปเสียแล้ว

การคาดการณ์นี้ยังคงเป็นเพียงสมมติฐานในขณะนี้เท่านั้น เพราะทุกอย่างจะต้องได้รับการยืนยันก่อนตัดสินใจ ทว่ามันก็ทำให้ฟู่เสี่ยวกวนเกิดความสนใจในตัวซูฉางเซิงขึ้นมา เขาจะได้เตรียมการป้องกันเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

“บรรดาศิษย์พี่ผิดปกติด้วยหรือไม่ ? ” ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยถามด้วยความกังวลใจ

สวี่หยุนชิงส่ายศีรษะ “พวกเขาเป็นต้นกล้าชั้นเลิศที่ซูฉางเซิงเก็บมาฝึกวรยุทธ์ และซูฉางเซิงก็ได้ถ่ายทอดวิชาต่อสู้ของสำนักเต๋าให้พวกเขาอย่างจริงจัง”

เมื่อฟู่เสี่ยวกวนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาเล็กน้อย เพราะเยี่ยงไรเสียบัดนี้ซูซูก็เป็นภรรยาของเขาแล้ว !

เขามิต้องการเป็นศัตรูกับศิษย์พี่ใหญ่ผู้เปี่ยมคุณธรรมและฝีมือสูงส่ง มิต้องการเป็นศัตรูกับศิษย์พี่รองเกาหยวนหยวนผู้อ้วนกลม และศิษย์พี่สามซูโหรวที่กลายเป็นคนสายตาสั้นเพราะเย็บปักถักร้อยมากเกินไป

แต่ก่อนเหล่าศิษย์พี่ได้ช่วยเหลือเขาเอาไว้มากมาย พร้อมบุกไปข้างหน้าอย่างห้าวหาญโดยมิยอมหวนกลับก็เพื่อเขา มิว่าจะมองทางศีลธรรมและสัจธรรม เขาก็มิอาจยอมรับได้ว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการเสแสร้งแกล้งทำ

“อ้อ ! รู้หรือไม่ว่าบัดนี้ซูฉางเซิงอยู่ที่ใด ? ” สวี่หยุนชิงเอ่ยถามขึ้นมา

“เขาเอ่ยว่าจะไปตามหาศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่รอง”

“แล้วพวกเขาไปที่ใดเล่า ? ”

“ข้าก็มิอาจรู้ได้ เพราะศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่รองตามหลิวจิ่นออกทะเล ทว่าผลที่ตามมาคือพวกเขามิได้กลับมาพร้อมเรือ แต่เลือกเดินเท้าตามเส้นทางบนบกแทน บัดนี้น่าจะอยู่ที่ต่างแดนและบัดนี้พวกเขาคงกำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางกลับ”

สวี่หยุนชิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เกรงว่าที่ซูฉางเซิงเดินทางจากไปนั้น เขามิได้ไปตามหาศิษย์ทั้งสองของตนหรอก จากนั้นนางก็ยกยิ้มขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “เจ้าต้องการให้แม่กลับไปอยู่ข้างกายจริงหรือ ? ”

“จริงขอรับ ! ” ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น

“เช่นนั้นเจ้าจงส่งคนไปสืบว่าเรื่องที่ฝานอู๋เซียงเอ่ยเป็นจริงหรือไม่ ! ”

“ได้ ! ท่านแม่… บัดนี้พวกเรากลับบ้านกันก่อนเถิด”

“ได้…กลับบ้านกัน ! ”

สวี่หยุนชิงได้ผ่านการต่อสู้ทางด้านจิตใจอันรุนแรงมาแล้ว เดิมทีนางเคยคิดว่าฟู่เสี่ยวกวนอาจจะต้องใช้เวลาสองหรือสามปีในการรวมทั้งห้าแคว้นให้เป็นหนึ่งเดียว และเขาจะต้องปราบปรามความวุ่นวายภายในจิตใจของผู้คนทั่วทุกสารทิศให้สงบลงเสียก่อน

เช่นนั้นฟู่เสี่ยวกวนก็คงจะหมดพลังงานไปมากโขและนางที่อยู่ในฐานะมารดาก็เอ็นดูบุตรชายผู้นี้มากยิ่งนัก นางจึงมิอยากให้บุตรชายต้องไร้สมาธิเพราะเรื่องของซูฉางเซิง

สิ่งที่นางคิดก็คือจะพึ่งพากำลังของตนเองเพื่อตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมดของซูฉางเซิง นางต้องการรู้ถึงจุดประสงค์ของราชวงศ์เหลียว หรือจะให้จี้หยุนกุยไปยังแคว้นซีเซี่ยเพื่อปลุกปั่นให้แคว้นซีเซี่ยต่อต้านราชวงศ์เหลียวดี จะได้ถ่วงเวลาการโจมตีประเทศต้าเซี่ยจากราชวงศ์เหลียวให้ช้าลง

ต้องรอให้ประเทศต้าเซี่ยมีรากฐานที่มั่นคงแข็งแรงกว่านี้ก่อน รอให้บุตรชายปล่อยมือจากเรื่องของนาง และรอให้ระบบเศรษฐกิจอีกทั้งระบบการทหารของประเทศต้าเซี่ยแข็งแกร่งกว่านี้เสียก่อน

ทว่าบัดนี้ดูเหมือนสิ่งเหล่านั้นจะมิจำเป็นอีกต่อไปแล้ว เพราะบุตรชายใช้เวลาเพียงครึ่งปีก็สามารถทำให้ราษฎรทั่วทุกสารทิศหมอบกราบได้ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่นางลุกขึ้นมาเล่าทุกอย่างให้ฟู่เสี่ยวกวนฟัง นางคิดว่าบุตรชายจะสามารถจัดการกับมันได้และทำมันได้ดีกว่าที่คิดอีกด้วย

หากตัวนางตกตายจริง ๆ เรื่องที่บุตรชายจะเป็นทุกข์นั้นยังมิใช่ประเด็น ทว่าหากมีผู้ใดหยิบยกเรื่องนี้มาใช้เพื่อผลประโยชน์บางอย่าง บุตรชายก็ต้องแบกรับความผิดที่ว่าเป็นบุตรอกตัญญูต่อบิดามารดา ซึ่งนี่ถือว่าเป็นความผิดใหญ่หลวงขององค์จักรพรรดิ !

เพื่อลูกแล้วนางจึงต้องมีชีวิตอยู่ต่อ และจำต้องเปิดเผยตัวตนสู่สาธารณะชนเพื่อให้ราษฎรทุกคนได้ประจักษ์ด้วยสายตาของตนเอง

“บัดนี้วังหลังเริ่มครึกครื้นขึ้นแล้ว รอให้ข้ากลับไปก็จะครึกครื้นมากกว่าเดิมเสียอีก”

“ข้าจะไปเสวยสุขในวังแล้ว ข้าจะกลับมาดูท่านพร้อมกับหลาน ๆ อีกครา”

สวี่หยุนชิงหลับตาลง สงบนิ่งเพื่อไว้อาลัย จากนั้นก็หันศีรษะไปทางฟู่เสี่ยวกวนพร้อมกับความโศกเศร้าบนใบหน้าที่หายไป นางยกยิ้มขึ้นพลางยื่นมือไปจับมือของบุตรชายเอาไว้ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ไปเถิด…กลับบ้านกัน ! ”

“อือ…กลับบ้านกัน ! ”

ทั้งสองเดินออกจากสุสานจักรพรรดิและพอดีกับแสงสุริยาที่สาดส่องลงมายังสุสานจักรพรรดิ

ดวงตาเล็กของชายอ้วนหรี่ลง จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปในอากาศด้วยความตื่นตระหนก “นี่… นี่มัน…”

จี้หยุนกุยเมื่อเห็นสวี่หยุนชิงก็พลันตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง ตุ้บ ! พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งว่า “คุณหนู… ! ”

เป่ยหวังฉวนเมื่อเห็นดังนั้นก็เกิดคำถามขึ้นมามากมายทันใด เขามิรู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกันแน่ เขาถึงกับก้าวถอยหลังไปสามก้าวติดต่อกัน

สวี่หยุนชิงเหลือบมองชายอ้วน หรี่ตาเพื่อปรับสายตาให้รับกับแสงที่สาดส่องลงมาได้ “พวกเจ้ามิยินดีที่ข้ายังมีชีวิตอยู่หรือ ? ข้าตายเพียงสองครา ทำให้พวกเจ้ากลัวได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ ? ”

ชายอ้วนนั่งลงกับพื้นพลางยิ้มแหย “ไม่ ๆ ๆ สวี่หยุนชิง…ต่อไปเจ้าอย่าเล่นเช่นนี้อีกได้หรือไม่ ? ”

สวี่หยุนชิงหัวเราะคิกคัก ยื่นมือไปลูบหู ยืดเอวขึ้นแล้วเอ่ยว่า “จากนี้สืบไปข้าจะมิเล่นเช่นนี้อีกแล้ว”

“เจ้าจะทำอันใดต่อไปเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“กลับบ้าน กลับไปเลี้ยงหลาน ! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)